น้ำพริกดอกโสน :อาหารพื้นบ้านตามฤดูกาลประหยัดตังส์
โดยลุงดำ คำโต เรื่อง-ภาพ
บ้านลุงดำอยู่ริมคลองห้วยคันแหลน ยามแล้งน้ำแห้งขอดคลอง แต่ยามน้ำหลากมาจากเหนือ น้ำสีขุ่นจะไหลพรูกันมาจนเต็มตลิ่ง แม่มักจะพูดให้ฟังว่า
"เดี๋ยวต้นโสนก็จะงอกแล้วก็เติบโตตามน้ำที่จะใสขึ้นทุกวัน แม่จะตำน้ำพริกดอกโสนให้กิน" ลุงดำฟังแล้วก็กลืนน้ำลาย พร้อมกับรู้สึกว่าจะได้กลิ่นกรุ่นของกะทิที่ผัด
ต้นโสนริมนาในม.เกษตร กำแพงแสน มีให้กินทุกปี
ต้นโสนเติบโตเร็วมาก ลำต้นเดี่ยวๆของมันพุ่งทะยานขึ้นไปจนสูงกว่าวา(2 เมตร) พอแตกตาดอกลุงดำจะไปเล่าให้แม่ฟัง
"แม่ ต้นโสนผลิตาดอกแล้วครับ" แม่พยักหน้ารับรู้ข้อมูลข่าวสาร
"อีกสองวันพระก็ได้กิน" แม่พยากรณ์
หลังจากนั้นดอกโสนก็ผลิบานเหลืองอร่ามไปทั้งชายคลอง น้ำในคลองใสแจ๋ว น้ำเอ่อล้นจนท้นชายคลองนองไปทั้งทุ่งและใต้ถุนบ้าน ลุงดำกับน้องชาย มีหน้าที่พายเรือไปเด็ดดอกโสนด้วยการโน้มต้นลงมา เด็ดดอกบานก่อน ถัดไปก็เด็ดดอกตูม ดอกตูมกินมันดี เด็ดได้ก็โยนใส่กระชุที่วางอยู่กลางเรือ เก็บกันทีหนึ่งก็ค่อนกระชุ
"เด็ดมาแต่พอกินในบ้านเรานะ เหลือไว้ให้คนอื่นเขาเด็ดไปกินบ้าง" แม่สั่งก่อนออกเรือ ดอกโสนเป็นผักพื้นบ้านที่นิยมกินกันตามฤดูกาล กินกันทุกบ้าน ไม่ว่าจะคนจนหรือคนรวย
กลับมาถึงบ้านพร้อมกระชุที่เต็มไปด้วยดอกโสนเหลืองอร่าม ผมกับน้องชายมีหน้าที่อีกแล้ว นั่งล้างดอกโสนจนสะอาด สงขึ้นไว้ในกระชอน แม่ลวกดอกโสนพอสุก แล้วคั่วน้ำกะทิจนหอม โรยใส่ดอกโสนที่ตักใส่จานแล้ว ระหว่างนั้นแม่จะโยนพริกแห้งเม็ดใหญ่ 8 เม็ด หัวหอม 5 หัว กระเทียมอีก 8 กลีบ ใส่รวมๆกันในกระทะ ไฟอ่อนๆ แต่พอว่าเปลือกกระเทียม หอมแดง และพริกไหม้ ก็เทลงครกหิน ลุงดำตำแหลกบรรเลงทันใด ตำถี่จนแหลกละเอียด กลิ่นหอมเตะจมูกชวนกิน
ดอกโสนผัดน้ำกะทิหอมๆมันๆ กินแล้วระบายหายห่วง
แม่ใส่น้ำตาลทรายลงไปในครก ลุงดำตำให้เข้ากันแล้วก็ตักออกใส่ถ้วยน้ำพริก ยัง ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนการ แม่ลงมือทอดไข่เป็ด(ที่เลี้ยงไว้ 5 ตัว) ทีละฟอง แม่จะทอดไข่ดาวแบบไข่แดงสุก ไข่ขาวเหลืองกรอบน่ากิน หอมจนน้ำลายสอ ได้ไข่ทอด 3 ฟองแม่ก็หยิบไข่ดาวมาตัดด้วยมีดอีโต้ออกเป็นแปดแฉก แต่ละแฉกมีทั้งไข่ขาวและไข่แดง
คั่วหอมแดงและกระเทียม พริกปิ้งย่างก็ได้
"ตัดอย่างนี้ จะได้กินทั้งไข่แดงและไข่ขาว ไม่งั้นมึงเจาะกินแต่ไข่แดง"
ลุงดำกับน้องชายล้อมวงรอ พลางก็กลืนน้ำลายลงคอเอื๊อกๆ
"ตั้งวง ไปเรียกทุกคนมากินข้าว"
บ้านลุงดำจะกินข้าวมื้อไหนก็ต้องกินพร้อมกัน ไม่เว้นแม้แต่วันที่ต้องไปโรงเรียน แม่ก็จะทำกับข้าวพร้อมกิน
"กินทีละคนเปลือง กินมากกินน้อย เลือกกินแต่ของดีๆ"
น้ำพริกดอกโสนตำรับแม่ทำให้กินออกรสหวาน
น้ำพริกดอกโสนของแม่ออกสีดำคล้ำด้วยสีของพริกเผา ออกรสหวานเย็น ไม่เผ็ดมาก เวลากินจะตักดอกโสนวางบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วตักน้ำพริกปาดบนหน้าดอกโสน ควบด้วยไข่หั่นแปดแฉก เท่านี้ ลุงดำก็กินจนพุงกาง อิ่มเอมกับอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาลที่แม่สรรสร้างให้กินทุกปี กินจนจำสูตรน้ำพริกและไข่ดาวแปดแฉกได้ติดตาตรึงใจ
ลุงดำวันนี้แก่แล้ว ได้เดินไปถ่ายรูปนกในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน (เพื่อนำมาเขียนลงใน www.thongthailand.com หน้าต่าง สัตว์โลกน่ารัก) ซึ่งท่านอธิการบดีคนเก่ง มล.ชูชาติ กำภู ได้วาง Landscape ไว้อย่างสวยงาม มีน้ำไหลไปทั่วผืนดิน 8,000 ไร่ ชายน้ำริมลำรางของท่านวันนี้มีดอกโสนขึ้นและเบ่งบานชวนกินมากๆ
ลุงดำก็เลยแอบเก็บใส่ถุงพลาสติกกลับมาตำน้ำพริกดอกโสนตำรับแม่ทำให้กิน กินไปน้ำตาพาลจะไหล เมื่อรำลึกนึกถึงแม่
ดอกโสน ไข่ดาวแปดแฉก น้ำพริก ข้าวสวยร้อนๆ
ต้นโสนเป็นพืชล้มลุก อายุสั้น 1 ปี หลังออกดอกและโปรยเมล็ดลงไปใต้ต้นก็ล้มตายไปตามอายุขัย จนข้ามปี เมล็ดโสนจึงจะงอกออกมาเป็นต้นและผลิดอกให้กินอีกครั้ง ไม่ต้องปลูก ไม่ต้องเอาใจใส่ใด เขาเจริญเติบโตได้ง่ายๆ ตามธรรมชาติ ตอนเป็นเด็กนั้น ลุงดำใช้ต้นโสนมาเกลาเกลี้ยงแล้วหั่นเท่าขนาดที่ต้องการทำเป็นกระทง(แพ)ลอยในคืนเดือนเพ็ญ ไม่ต้องซื้อหาวัสดุให้เปลืองเงินเลย นอกจากนั้นก็ยังใช้ต้นโสนทำทุ่นตกปลาได้อีกด้วย
ผักบุ้งทอดยอดอยู่ใกล้ๆ ยอดอ่อนโสนลวกกินได้
โสน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sesbania aculeata อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE หรือเรียกต้นฮองแฮง ชอบขึ้นที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำ ผีเสื้อชอบไข่จนกลายเป็นหนอนเรียกกันว่าตัวบุ้ง ไต่ยั้วเยี้ยตามกินก้าน เมื่อเข้าดักแด้ในลำต้นโสนกลายเป็น ด้วงโสน ชุบไข่ทอดกินอร่อย ดอกและใบอ่อนกินได้ ลวกหรือชุบแป้งทอด ทำขนมดอกโสนเป็นของหวานกินเล่นๆจิ้มน้ำจิ้มหวานใส่ถั่วคั่วตำแหลก อร่อย จัง ผักบุ้งที่ทอดยอดตามริมคลอง ก้มเก็บทุกครั้งก็เหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว ดีนะ