ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง
“บีม” กวี ตันจรารักษ์
แฮปปี้สุดๆเปิดบริษัททัวร์”Trip Buster”
หากสำรวจธุรกิจของเหล่านักร้องนักแสดง ต้องบอกว่าบริษัททัวร์เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ได้รับความนิยม มีหลายคนที่หันมาเอาดีทางนี้ และมีรายได้เป็นกอบเป็นกำเพราะมีต้นทุนทางสังคมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงหรือแฟนคลับ
“บีม” กวี ตันจรารักษ์ อดีตนักร้องวงดีทูบี ซึ่งระยะหลังมาแสดงละครด้วย ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เข้ามาสู่วงการท่องเที่ยว ด้วยการเปิดบริษัททัวร์ชื่อ Trip Buster เมื่อปลายปีที่แล้ว โดยหุ้นกับน้องสาว สโรชา ตันจรารักษ์ และแฟนหนุ่ม , คุณ
00ที่มาที่ไป “Trip Buster”
สาเหตุที่มีหลายหุ้นนั้น บีมบอกว่า “เงินลงทุนในการเปิดบริษัททัวร์ค่อนข้างใช้เยอะเนื่องจากว่าใช้เงินหมุนเวียนสูงมาก แล้วผมเองก็ยังใหม่ในธุรกิจนี้เลยอยากให้คนมาลงทุนด้วย จึงออกมาเป็น 5 หุ้น โดยผมเป็นหุ้นใหญ่เพราะว่าเป็นหัวเรือ”
หนุ่มบีมอธิบายชื่อบริษัทว่า “อยากให้เป็นเหมือนชื่อบริษัทของคนรุ่นใหม่ ฟังแล้วให้คนเกิดความอยากไปเที่ยว มีความกระตือรือร้น เสียงมันเหมือนตู้มต้าม ขณะที่ความหมายจริง ๆ แปลว่า มือปราบ หรือผู้ที่จัดการ ความหมายของเราก็คือ ผู้ที่จัดการเรื่องท่องเที่ยวให้กับคุณเลยออกมาเป็น Trip Buster”
หลายคนคงอยากจะรู้ว่าทำไม บีมถึงมาเปิดบริษัททัวร์ ประเด็นนี้เจ้าตัวแจกแจงว่า “เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นส่วนใหญ่ผมยังร้องเพลงและทำโปรเจคท์เดินทางเที่ยวต่างประเทศทั่วโลกกับแดน(วรเวช ดานุวงศ์ )อาทิ ญี่ปุ่น ธิเบต อเมริกาใต้ เปรู แอฟริกาเหนือ เดินทางไปหลายทวีป เป็นการทำงานที่มีความสุขดี ได้ไปเห็นโลกกว้าง
ผมก็มานั่งคิดว่าขนาดเราไปถ่ายรายการด้วยยังมีความสุขเลย แล้วถ้าคนที่เขาพาคนอื่นไปเที่ยว เไปแล้วเขาได้เที่ยวด้วย ได้เงินด้วย มันก็เป็นธุรกิจที่คล้าย ๆ กับคนที่ให้ความสุขกับคนอื่นเหมือนกัน เหมือนกับเราเป็นนักร้องเราให้ความสุขกับคนแล้วก็ได้ผลตอบแทนกลับมา เราเป็นไกด์เราพาคนไปเที่ยว คนก็ได้ความสุข ผมเลยคิดว่าธุรกิจตรงนี้น่าสนใจ ตอนนั้นคิดไว้เล่น ๆ ว่าถ้ามีทีมงานที่พร้อมมี resource ที่เหมาะสมเราก็อยากเปิด
ทิ้งไว้ประมาณปีสองปี ระหว่างนั้นก็มีคลื่นวิทยุเชิญไปเกาหลี ไปออสเตรเลียบ้าง ได้คอนเนคชั่นกลับมาเพราะในระหว่างการทำงานก็เก็บเกี่ยวไป จนกระทั่งเมื่อประมาณกลางปี 2553 ทางผู้จัดการส่วนตัวของผมเขามองหาธุรกิจใหม่ ๆ เหมือนกัน เพราะนอกจากเขาจะดูแลผมแล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ผมเลยบอกว่าอยากจะทำทัวร์ เขาเองก็อยากทำเหมือนกัน เพราะคอนเนคชั่นและทุกอย่างเราก็มีแล้ว จึงตกลงร่วมกับเปิดบริษัททัวร์”
000เน้นจัดทัวร์เกาหลีก่อน
แม้จะเป็นบริษัทใหม่ที่เปิดได้ไม่นาน แต่บีมบอกรับประกันได้ว่าผู้ใช้บริการไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะได้รวบรวมบรรดาผู้มีประสบการณ์ในวงการทัวร์มาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะน้องคนหนึ่งที่ทำทัวร์อยู่แล้ว และตัวเขาเองก่อนจะเปิดบริษัทอย่างเป็นทางการก็เคยลงทุนใช้บริการด้วยการพาครอบครัวไปเที่ยวที่เกาหลีเพื่อจะได้ทดสอบว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
บีมเล่าว่า ในการทำธุรกิจท่องเที่ยวนี้ “แรกทีเดียวค่อนข้างกลัวเพราะทัวร์เป็นเรื่องของคน เป็นงานบริการ ต้องผูกพันกับลูกค้า งานบริการสิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้บริการได้ถูกใจแค่ไหน แต่เบาใจได้อย่างหนึ่งคือผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลกันมาหลายปีรู้ว่าธรรมชาติของเขาคือเอาใจใส่คนเก่ง ขนาดผมเอาแต่ใจตัวเองพอสมควรเขาก็ยังดูแลผมได้ดีมาก
ผมเลยไว้วางใจเขาแต่ถ้าจะทำทั้งทีเราเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นบุคคลที่ใครๆก็รู้จัก การที่จะมาทำตรงนี้ถ้าทำออกไปแล้วไม่ได้อย่างที่ต้องการก็จะเสียชื่อเรา ผมจึงลองให้เขาจัดขึ้นมาทริปหนึ่ง บอกผมจ่ายเงินเอง ผมพาคุณพ่อคุณแม่ พาน้องไปแล้วก็ชวนแฟนคลับผมไปด้วยเหมือนจัดเป็นกรุ๊ปให้ผม เสนออะไรมาให้แล้วสามารถทำอย่างนั้นได้จริงหรือเปล่า ทดสอบก่อนแล้วเอาตัวเราเป็นตัวทดสอบ ทริปนั้นไปเกาหลีก็ถูกใจมาก ๆ”
บริษัททัวร์ของนักร้องหนุ่มคนนี้ช่วงแรกจะเน้นไปที่ประเทศเกาหลีก่อน ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นประเทศที่ไปได้ง่าย เนื่องจากไม่ต้องทำวีซ่าแค่มีพาสปอร์ตก็ไปได้เลย ที่สำคัญเป็นไปตามกระแสของตลาด
Trip Buster มีอายุยังไม่ถึงปี ถือเป็นบริษัททัวร์เล็กๆที่มีพนักงานแค่ 2-3 คน แต่ก็มีงานตลอด โดยบีมตั้งเป้าจะให้จัดไปเกาหลีเดือนละครั้ง โดยช่วงแรกจะเน้นในประเทศแถบเอเชียก่อน
อย่างไรก็ตามพอเกิดไม่คาดฝัน มีสึมานิและโรงงานไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นระเบิด ทำให้แผนที่บีมจะไปทัวร์ที่ญี่ปุ่นในเดือนเมษายนนี้ต้องสะดุด
“ครั้งแรกผมตั้งใจว่าเราจะเปิดไปญี่ปุ่นประมาณกลางเดือนเมษายนก็มาสะดุด ต้องหยุดไว้ก่อน ซึ่งคงต้องเลื่อนไปนานเลย และที่กระทบด้วยคือเกาหลี เพราะตอนนี้คนเริ่มชะลอ แต่ที่ผ่านมาที่ไปมาไม่มีปัญหาอะไร ทางรัฐบาลเกาหลีก็ออกหนังสือมายืนยันว่าไม่มีอะไร แต่จริง ๆ ก็คงมีผลต่อจิตใจของคน”
ในฐานะหุ้นใหญ่ของบริษัทนั้น บีมเล่าว่า “ตั้งใจไว้ว่าทุกครั้งที่มีการเปิดเส้นทางประเทศใหม่ ๆ ครั้งแรกเจ้าตัวจะไปแล้วก็จะมีการจัดทริปพิเศษขึ้นมาทริปหนึ่งเหมือนกับว่าใครสนใจอยากจะไปแล้วก็มีบีมไปด้วยเป็นอย่างนั้นมากกว่า แต่โดยปกติเราก็ทำเหมือนกับบริษัททัวร์ทั่วไป”
000ยันราคาปานกลางบริการพรี่เมี่ยม
สำหรับราคาทัวรร์ต่อทริปนั้น นักร้องหนุ่มระบุว่า “อยู่ในระดับปานกลาง เราพยายามเสนอคุณภาพที่พรีเมี่ยมแต่ราคาปานกลางเพราะเราไม่สามารถกดราคาให้ต่ำๆได้ ดังนั้นก็ต้องอาศัยคำอธิบายมากกว่าว่าทำไมราคาถึงต่างกัน เหมือนเราซื้อรถก็มีหลายเกรด คุณอยากได้การบริการแบบไหนเราก็ให้อย่างนั้น และผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าการบริการหัวใจของมันคือความจริงใจ การสื่อสารที่จะบอกแล้วอธิบายว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้”
อย่างที่หนุ่มบีมบอกราคาค่าทัวร์ของเขาอยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็มีหลายเกรดให้เลือกตามกำลังทรัพย์ มีตั้งแต่ถูกมากๆ จนขึ้นไปสูง ถูกมากก็ประมาณคนละ 19,000 บาท สูงสุดคนละ 40,000 บาท แต่ส่วนใหญ่จะขายอยู่ประมาณหัวละ 27,000 – 28,000 บาท
สาเหตุที่ขายได้ราคาไม่สูงนัก นักร้องเสียงดีคนนี้แจงว่า “คือเราไปจะรู้ว่าสายการบินระดับนี้ อาหารมีพร้อม หรือบางครั้งเราบินกลางคืนไม่ต้องดูหนัง ด้วยความที่เคยไปมาก่อนก็จะรู้ว่าเราต้องการอะไรในทริปนี้ ก็จะอธิบายว่าทำไมราคาถึงสูงกว่าตรงนี้ และทำไมเราถึงต่ำกว่าตรงนี้ได้ โดยอาศัยการอธิบาย”
ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัททัวร์และเคยเป็นลูกทัวร์มาก่อน บีมรู้ดีว่า การซื้อทัวร์ราคาถูกมากก็ใช่ว่าจะมีผลดีเท่าไรนัก
“พวกราคาถูกมาก ๆ บางทีมันก็เสีย บางคนก็ไปไม่ได้อย่างที่เขาพูด เหมือนกับตอนที่มีข่าวว่ามีทัวร์โดนจับเพราะเขาไปกดราคาให้ถูก ความจริงถ้าเราทำได้เราก็อยากจะทำให้ แต่บางครั้งลูกค้าพอไปกลับมาพูดว่าทำอันนี้ก็ไม่มี อันนั้นก็ไม่มี พอไปแล้วมีกิจกรรมอื่นเข้ามาแทรก ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ได้ไปอย่างที่เขาต้องการจริง ๆ อะไรทำนองนี้”
000ปลื้มลูกค้าพอใจ-มีความสุข
จากประสบการณ์ที่บริษัทนำลูกทัวร์ไปท่องเที่ยวในเกาหลีมาหลายครั้ง ลูกค้าตอบรับดี ทำเอาหนุ่มบีมปลื้มและมีกำลังใจมากขึ้น
“เท่าที่ผมจัดนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ไปแล้วพอใจมีความสุขมาก เพราะของเราจะมีแบบสอบถาม คุณไปแล้วพอตอนคุณจะบินกลับเราจะแจกแบบสอบถามแล้วก็ช่วยติ๊กให้หน่อยว่าระดับความพึงพอใจคุณ
ถ้าพูดถึงกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการบริษัททัวร์ใหม่อย่าง Trip Buster มีทั้งแฟนคลับของบีมเอง มีเจ้าของกิจการ มีข้าราชการ ว่าไปแล้วก็มาจากหลากหลายอาชีพและหลายวัย แต่ถ้าเยอะสุดจะเป็นพวกที่ทำงานใหม่ๆ เนื่องจากสามารถจ่ายค่าทัวร์ได้ในราคาประมาณ 25,000 บาท อันเป็นช่วงต้นปี แต่หากเป็นช่วงไฮซีซั่นอย่างในตอนนี้ราคาจะขยับสูงขึ้น
000รับจัดทัวร์เฉพาะกลุ่ม
Trip Buster ใช่จะขายทัวร์อย่างเดียว มีบริการรับจัดกรุ๊ปทัวร์ด้วย ซึ่งบีมเองมีคอนเนคชั่นกับอาจารย์ที่จุฬาฯ ทางอาจารย์จึงอยากให้จัดทริปพานิสิตนักศึกษาไปทัศนศึกษา
“ตอนนี้กำลังส่งรายละเอียดไปให้อาจารย์ดู เป็นทริปพาไปเกาหลีไปดูงานโรงพยาบาล เราสามารถจัดได้ตามความต้องการของลูกค้า อย่างประเทศจีนเราก็ดูไว้แต่ติดปัญหาว่ายังขาดบุคลากรเพราะเราอยากได้คนที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ รู้จักการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้วก็ไว้ใจได้”
จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ”สึนามิ” และปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ นอกจากญี่ปุ่นจะไม่มีลูกทัวร์อยากไปแล้ว เกาหลีที่อยู่ใกล้ๆก็โดนผลกระทบไปด้วย เพราะผู้คนยังรู้สึกวิตกกังวล ดังนั้นบริษัทของบีมเองจึงต้องเปลี่ยนแผนใหม่ โดยจะเน้นไปที่สิงคโปร์ หรือฮ่องกงแทน
“นอกจากเจอปัญหาและอุปสรรคเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่ญี่ปุ่นแล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงปลายปีที่แล้วที่เกาหลีเหนือยิงกระสุนมาในฝั่งเกาหลีใต้ ตอนนั้นกรุ๊ปหนึ่งของบริษัทก็อยู่ที่กรุงโซลด้วย ลูกค้าถามเราก็บอกว่าจริง ๆแล้ว มันไม่มีอะไร คนที่โซลก็ไม่ได้แตกตื่นอะไร คนที่ไปก็กลับมาปลอดภัยทุกคน”
000เตือนซื้อทัวร์ต้องดูให้ดี
เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจทัวร์ยุคนี้เปิดกันเยอะแยะ การแข่งขันจึงค่อนข้างสูง หนุ่มบีมเลยฝากไปยังนักเดินทางทั้งหลายแหล่ว่า “ธุรกิจทัวร์คู่แข่งเยอะครับ แล้วก็เป็นธุรกิจที่หลาย ๆ คนคงอยากเข้ามาทำ แต่ต้องบอกว่าควรดูดี ๆ และขอเตือนลูกค้าด้วยว่าคุณต้องดูบริษัททัวร์ดี ๆ ไม่ใช่เอาถูกเข้าว่าแล้วมันจะได้ของดีอย่างที่คุณต้องการ ขอยืนยันว่ามันไม่ใช่อย่างนั้น และขอผมบอกอีกอย่างหนึ่งคือว่าถ้าคุณจะซื้อทัวร์กับบริษัทต้องถามเขาเลยว่าจดทะเบียนอะไรเรียบร้อยแล้วหรือเปล่า เพราะว่าบางบริษัทเขาไม่จด
ของผมเป็นบริษัทใหม่ก็จริง ถ้าคุณสงสัยก็เข้าไปดูที่เว็บไซต์ แม้ผม จะยังใหม่ในธุรกิจนี้แต่เราก็มีมืออาชีพและพนักงานที่ทำอยู่กับเราเขาก็ทำงานในสายทัวร์มานานหลายปี และบริษัทที่เรามีคอนเนคชั่นด้วยก็เป็นที่รู้จักของประเทศที่เราพาไปเที่ยวอยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องบริการเราก็ดี เชื่อถือได้”
กับคำถามที่ว่า การเป็นนักร้องนักแสดงช่วยให้ธุรกิจดีมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้บีมตอบว่า
“ตั้งแต่เปิดบริษัทมาผมเพิ่งใช้ชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าของเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็ยังไม่เห็นผลอะไรแต่คาดว่าจะทำให้คนรู้จักมากขึ้น ตอนแรก ๆ ที่คนไปเพราะว่าบางคนไปเที่ยวกับเราแล้วเขาพอใจเขาก็ใช้บริการเราอีกครั้งหนึ่ง ผมว่าอยู่ที่การให้บริการมากกว่า ชื่อเสียงอาจจะช่วยได้บ้างในเรื่องทำให้คนรู้จักแต่ไม่ใช่ทั้งหมด”
00ย้ำยึดเป็นธุรกิจจริงจัง
ส่วนที่หลายคนอาจจะมองว่าธุรกิจดาราเป็นเรื่องหวือหวานั้น บีมยืนยันว่า”ผมจริงจังครับ เพราะ 1.ด้วยความชอบส่วนตัวเพราะผมคิดว่าลักษณะของธุรกิจท่องเที่ยวคล้ายกับธุรกิจบันเทิง เราทำให้คนมีความสุขในการที่จะได้ไปกับเรา ในบริการที่เราจัดให้ ผมว่ามันค่อนข้างใกล้เคียงกัน”
สำหรับแผนในอนาคต บีมตั้งเป้าว่า จะเปิดขายทัวร์ในประเทศใหม่ ๆ ทั่วโลก อย่างเช่นยุโรป แต่เจ้าตัวกระซิบว่า “ไม่ใช่ในอนาคตอันใกล้นี้ 1.เพราะเรายังไม่มีบุคลากรที่พร้อมพอ ตอนนี้เริ่มเปิดรับพนักงานใหม่ ๆ โดยเฉพาะฝ่ายขาย ขอประกาศเลยแล้วกันว่าถ้าใครสนใจจะมาร่วมงานก็ติดต่อได้และถ้ามีประสบการณ์ด้วยจะดีมาก”
ด้วยความที่เป็นบริษัทเล็กๆ จึงดัดแปลงบ้านที่แถวบางนา ตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัล บางนา ทำเป็นโฮมออฟฟิซ ตัวบีมเองจึงมีโอกาสเข้าที่บริษัทเกือบทุกวัน ซึ่งในเรื่องการจัดการบริหารนั้น บีมเองซึ่งจบเอ็มบีเอมาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ได้ใช้ความรู้ความสามารถตรงนั้น แต่อาจจะยังไม่ได้ใช้เต็มที่เพราะยังเป็นบริษัทเล็กๆที่ยังไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน
“ผมเข้าบริษัทเกือบทุกวัน แต่อาจจะไม่ได้นั่งที่บริษัททั้งวัน เข้าไปเหมือนบริหาร คือเข้าไปวางแผนเรื่องการตลาด เรื่องการเงิน ผมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท 2 ล้าน เรื่องคืนทุนคิดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี คือ1.เราอยากให้บริษัทอยู่ได้เป็นปัจจัยแรก แล้วคนที่มาเที่ยวกับเราพอใจมีความสุข อันไหนเราทำได้เราทำ ไม่อยากคิดกำไรอะไรมาก เราใช้คำอธิบายมากกว่าว่าไปแบบนี้ก็ได้เท่านี้แหละ ไม่ได้ปิดอะไร เพราะการทำธุรกิจก็ต้องมีกำไรบ้าง ไม่เช่นนั้นธุรกิจก็เดินไปไม่ได้ หลัก ๆ ที่ผมต้องการคนที่บริษัทอยู่ได้ ลูกค้าพอใจมีความสุขก็พอใจแล้วครับ”
ทั้งนี้แม้จะมาทำธุรกิจทัวร์ แต่บีมก็ยังร้องเพลงและรับงานแสดงอยู่เหมือนเดิม และอีกสองเดือนข้างหน้าปีนี้กำลังจะหมดสัญญากับทางบริษัทอาร์เอสฯ ซึ่งบีมเองก็จะเริ่มรับงานแสดงมากขึ้น
ฟังหนุ่มบีมพูดถึงธุรกิจทัวร์ของเขาแล้ว เชื่อว่าหลายคนที่วางแผนจะไปเกาหลีหรือไปประเทศอื่นๆในเอเชีย คงอยากจะลองใช้บริการของเขาบ้าง ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า สามารถเข้าดูได้ที่ www.trip-buster.com ในนั้นจะมีรายละเอียดสถานที่ต่าง ๆ ที่บริษัทเคยจัดทัวร์ไปมาแล้ว สามารถลิงค์ไปกับเฟซบุ๊คเข้าไปให้ความเห็นหรือทิ้งข้อความไว้ก็ได้ หรือสอบถามได้ที่โทรศัทพ์เบอร์ 02-7486144-5
นับว่าเป็นนักแสดงและนักร้องอีกคนที่เลือกทำธุรกิจที่ตัวเองชื่นชอบควบคู่ไปกับงานประจำ เรียกได้ว่าเป็นคนฉลาดทีเดียวที่นำต้นทุนทางสังคมมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะงานในวงการบันเทิงนั้นมีขึ้นมีลง แต่หากมีอาชีพรองรับที่มั่นคงเช่นนี้ อนาคตย่อมสดใสแน่