สวดมนต์เย็นที่วัดห้วยคันแหลน
ผมกลับไปบ้านเกิด ห้วยคันแหลน ที่เคยแสนสุข ด้วยภาระกิจใหม่ของวงศาคณาญาติ การดำเนินกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง"คลื่นมหาชนคนอ่างทอง" FM. 102.85 วิทยุประเภทธุรกิจชุมชน เพื่อให้ข้อมูล ข่าวสาร และความบันเทิง แก่พ่อแม่พี่น้องชาวอ่างทองและเพื่อนบ้าน ระหว่างที่ประชุมการดำเนินการกับญาติ,ลูกหลานเหลนอยู่ ผมรู้สึกเหนื่อยก็เลยเดินออกจากห้องแอร์ของสถานีโดยมายืนอยู่หน้าห้อง พลันผมได้ยินเสียงสวดมนต์เย็นจากวัดห้วยคันแหลน ผมรู้สึกแปล๊บขึ้นในใจ เหมือนที่เคยได้ยินเมื่อครั้งที่ยังเป็นเด็กๆ
คลองห้วยคันแหลนวันนี้แคบกว่าเดิม 3 เท่า
ผมจึงวกกลับเข้าห้องแล้วคว้ากล้องถ่ายรูปเดินตามเสียงสวดมนต์อย่างเร็วรี่ กลัวว่า การสวดมนต์จะจบสิ้นไปเสียก่อน ผมเดินข้ามสะพานปูนที่แตกต่างจากสะพานไม้ในอดีต เหลียวมองคลองห้วยคันแหลนกดชัตเตอร์บันทึกภาพแล้วก็เร่งเดินดุ่มไปตามเสียงธรรม แต่ด้วยว่าผมกลายเป็นชายแก่แปลกหน้า หรือว่าเจ้าหมาวัดรุ่นผมมันตายไปหมดแล้ว ผมจึงถูกต่อต้านในฐานะผู้บุกรุก เสียงเห่าของเจ้าหมาวัด 4-5 ตัว ทำร้ายจิตใจผมมาก ก็เพราะว่าผมกลัวหมากัด
ถึงน้ำนองสองตลิ่ง น้ำใสสะอาดจริงๆนะ(อดีต)
อย่ากระนั้นเลย ผมตัดใจหันไปคว้าไม้กวาดใต้ถุนกุฎีด้ามหนึ่งแล้วกวัดแกว่งแข่งกับเสียงเห่า ในที่สุดก็เดินย่องขึ้น "หอฉัน" ต้นเสียงที่พระสงฆ์และญาติโยมนั่งสวดมนต์กันอยู่ เสียงธรรมวันนี้ก็เหมือนกับเสียงธรรมในช่วงวัยที่ผมยังเด็กและตามแม่ไปสวดมนต์เย็นที่ศาลาการเปรียญของวัด(ช่วงอาจารย์ตั๋นเป็นเจ้าอาวาส) แต่วันนี้ท่านเจ้าอาวาสวัดห้วยคันแหลน ท่านพระครูศรีปัญญาวัตร์ ได้นั่งสวดมนต์เย็นบนหอฉัน มีพระสงฆ์สวดอยู่ 3 องค์ ส่วนญาติธรรมนั้นเป็นผู้หญิงตั้งแต่สูงอายุจนถึงเยาวชนรวมกัน 11 คน สถานภาพของญาติธรรมดูเปี่ยมสุขและสงบงาม
กุฎีที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่
ผมเคยกลับบ้านเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นสภาพวัดทรุดโทรมมาก กุฎีทรงไทยรอบหอฉันชำรุด เสาศาลาผุกร่อน ทำท่าอาการเอียงกระเท่เร่ เหมือนว่าจะถล่มล่มลงเสียในพริบตานั้น ในความรู้สึกนึกคิดช่วงนั้น ผมรู้สึกว่าการสร้างวัดให้สวยงามนั้นทำได้ สร้างวัดให้ใหญ่โตรโหฐานก็ทำได้ แต่การจะทะนุบำรุงนั้นทำได้ยาก ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเสมอ วัฎฎสังสารเช่นนั้นแล แม้กระทั่งไก่แจ้วัดห้วยคันแหลนในอดีตนั้นเป็นพันธุ์แท้ แต่เดี๋ยวนี้เป็นพันธุ์ทาง
เหล่านี้เป็นผลงานการบูรณะปฏิสังขรณ์ของท่านพระครูศรีปัญญาวัตร์
เหตุผลที่เกิดความเสื่อม ก็เพราะว่ากาลเวลา เป็นไปตามอายุไขของวัสดุ และเมื่อไม่มีเจ้าอาวาสองค์ใดบูรณะปฏิสังขรณ์ได้ก็ยิ่งเสื่อมทรุดลงไปทุกวัน ญาติโยมห่างเหินวัด ไม่มีใครสวดมนต์เย็นบนศาลาวัดเหมือนในอดีตจนกระทั่งวันหนึ่งได้ทราบว่า วัดได้เจ้าอาวาสองค์ใหม่ ยังหนุ่มแน่น อายุเพียง 30 ปี แต่บวชเรียนมาหลายพรรษา ท่านได้เริ่มการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น
แรกทีเดียวก็เริ่มออกบิณฑบาตรเป็นวัตรปฏิบัติ วันพระก็ทำบุญบนศาลาวัดเหมือนกับที่ปฏิบัติกันมา งานบวชงานบุญทุกงานท่านเจ้าอาวาสหนุ่มก็ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ญาติโยมมาวัดมากขึ้นๆ และ ณ ที่นั้น ท่านได้สอนธรรมครั้งละนิดๆ จนซึมซับเข้าสู่ภายใจจิตใจที่แห้งผากของเหล่าพุทธศาสนิกชนผู้ห่างเหินวัดมานาน
หอฉันที่ใช้สวดมนต์เย็น
มีอยู่วันหนึ่ง ผมกลับไปบ้านเกิดแล้วก็ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมานานแสนนาน นั่นคือญาติโยมทั้งหญิงและชาย สวมชุดขาว ห่มสะไบขาว เดินเรียงกันไปยังวัด เพื่อสวดมนต์เย็น แต่วันนั้นผมไม่ได้เหน็บกล้องถ่ายรูปไปด้วย ในบรรดาญาติโยมนั้นผมได้เห็นญาติผู้พี่ของผมคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติผู้พี่ที่ทำให้ผมแปลกใจมากๆ เพราะว่าไม่เคยเห็นจะไปวัดกับเขาสักที ผมได้โอกาสก็เลยถามความในใจ ได้ความว่า
"มีพระดีก็อยากมาทำบุญ ทำทาน เห็นเขามาสวดมนต์เย็นก็เลยอยากมากับเขาบ้าง"
ต้นไม้ใบดกเขียวขจีด้วยศรัทธาปวงประชามาช่วยกันปลูก
อีกไม่นานต่อมา ผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น นั่นคือกุฎีทรงไทยของวัดได้รับการทำนุบำรุงใหม่เกือบทุกหลัง นับรวมแล้ว 10 หลัง มีการรื้อแล้วสร้างบ้าง ซ่อมและปรับปรุงบ้าง จนเห็นภาพความสวยงามของกุฎีพระสงฆ์ดังในภาพที่ได้ถ่ายมาลงในเว็บนี้แหละครับ
ส่วนต้นก้ามปูใหญ่ยักษ์ที่เคยให้ร่มเงากับพวกผมเมื่อยามเด็กๆนั้น ได้ตายพรายไปบ้าง ถูกคณะกรรมการวัดชุดก่อนตัดขายไปบ้าง ลานวัดที่เคยร่มรื่นจึงร้อนระอุทุกเมื่อเชื่อวัน ก็ได้เปลี่ยนแปลงไป มีการปลูกต้นไม้ขึ้นใหม่ๆ จากต้นเล็กๆก็เติบใหญ่ จนออกดอกให้ชมตามฤดูกาลได้
เกิดการเปลี่ยนแปลงไปทุกกระบวนท่า
วัดได้รับการบูรณะด้วยพลังศรัทธาจากญาติโยมที่เกี่ยวข้อง ความเอาจริงของท่านเจ้าอาวาสและฆราวาสทั้งจากในชุมชนและนอกชุมชน(โดยเฉพาะนางสายทิพย์ เปาอินทร์) ได้สร้างให้วัดห้วยคันแหลนกลับมางดงามดังเดิม หรืออาจจะมากกว่า
ส่วนพื้นที่วัดส่วนใต้ วัดได้ยกที่ดินให้โรงเรียนวัดห้วยคันแหลนไปสร้างอาคารเรียนอย่างเอกเทศ เด็กๆนักเรียนมีห้องเรียนและสนามเด็กเล่นอย่างดี
ต่อมาได้รับบริจาคที่ดินเพิ่มอีกนับสิบไร่จากญาติโยม ดังนั้นในด้านสิ่งก่อสร้างของวัดวันนี้ถือได้ว่า เรืองรอง
พระครูศรีปัญญาวัตร์ เจ้าอาวาสวัดห้วยคันแหลน
แม้ว่าวัดสร้างได้งดงามมากเพียงใด ก็ไม่เท่ากิจของสงฆ์ที่นำเหล่าฆราวาสทั้งอุบาสกและอุบาสิกา ร่วมปฏิบัติธรรมอย่างเสมอต้นเสมอปลายตามปฏิทินธรรมนั้นช่างน่าสรรเสริญ ผมรู้สึกประทับใจที่ได้ยินเสียงสวดมนต์แว่วข้ามฟากคลองมาเหมือนเมื่ออดีต และได้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นั่นคือ "การนั่งสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน" อันเป็นต้นธารของความสุขสงบและเยือกเย็น ตามวัตรปฏิบัติของท่านเจ้าอาวาสและพระลูกวัด ที่ได้ร่วมกันนำทาง
ความสุขจากจิตใจสงบ นั้นยากยิ่ง
ภาพเหล่านี้ผมไม่เคยเห็น เพราะว่าในสมัยที่ผมตามแม่ไปทำบุญที่วัดในวันพระนั้น ผมได้เห็นการทำบุญแบบปกติทั่วๆไป เสร็จสิ้นจากพระฉันก็ได้เวลาญาติโยมนั่งล้อมวงกินข้าวร่วมกัน อันเป็นหนึ่งในการสมานฉันท์กันทั้งคุ้งน้ำ ส่วนเด็กๆอย่างผมก็เข้าไปร่วมวงกับเพื่อนๆที่เป็นเด็กวัด เป็นอีกวันหนึ่งของชีวิตยามเด็กที่มีความสุขมากๆ กินกันแล้วก็ถึงคราวของหมาและแมววัดที่ได้อิ่มเอมกับอาหารคาวมากมาย (ของหวานคนกินหมด หมาอด)
อุบาสิกานั่งสมาธิเพชร เคร่งครึม
บนหอฉันมีพระพุทธรูปตั้งอยู่อย่างแต่อดีต แต่วันนี้เพิ่มรูปหลวงพ่อสด วัดปากน้ำภาษีเจริญ บานใหญ่ เป็นภาพที่ท่านเจ้าอาวาสนำติดมาด้วยความเคารพและศรัทธา ยอมรับกันทั่วไปว่า ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ปฏิบัติธรรมแก่กล้าด้านวิปัสสนากรรมฐาน ส่วนรายละเอียดของการปฏิบัตินั้น ผมเองเป็นคนห่างวัด จึงไม่มีความรู้ที่จะขยาย หากว่าน่าละอายที่เป็นเพียงพุทธกระดาษ ก็รู้สึกอยู่ครับ แต่ด้วยว่าผมไม่มีบุญพอเพียง จึงรู้ตัวดีว่า ห่างวัดห่างธรรมก็เป็นกรรมหนึ่งในชีวิตนี้
ญาติโยมที่นั่งวิปัสสนากรรมฐาน
ด้วยเหตุนี้แหละที่ผมเดินกึ่งวิ่งไปยังวัด เพราะว่าอยากไปกราบนิมนต์ท่านเจ้าอาวาสได้ช่วยชี้ทางธรรมแก่ญาติโยมผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียง "คลื่นมหาชนคนอ่างทอง" FM.102.85 ที่ส่งกระจายเสียงไปถึงญาติโยมได้กว้างไกลถึงจังหวัดสุพรรณบุรี (อู่ทอง-ศรีประจันต์-เดิมบางนางบวช-สิงห์บุรีทั้งจังหวัด อ่างทองทั้งจังหวัด อยุธยา(บางบาล เสนา บางปะหัน มหาราช) และชัยนาทบางอำเภอ ญาติธรรมจะได้รับอานิสงค์จากการเทศน์ธรรมไปด้วยอย่างถ้วนทั่ว
ท่านพระครูศรีปัญญาวัตร..เจ้าอาวาสวัดห้วยคันแหลน
ส่วนว่ารายการธรรมะของสถานีวิทยุกระจายเสียง"คลื่นมหาชนคนอ่างทอง" จะจัดผังรายการลงตัวก็คงจะก้าวล่วงไปถึงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ส่วนรายการเพื่อประโยชน์ของสาธารณชุมชนนั้น ได้กำหนดเคร่าๆแล้วว่า ในแต่ละวัน (24 ชม) จะเปิดเวลาให้ 1 ชม.เพื่อให้ ส่วนราชการทุกส่วน องค์กรปกครองท้องถิ่นทุกองค์กร รัฐวิสาหกิจ และวัดทุกวัดได้ชี้แจงแถลงไขให้ประชาชนคนทั่วไปได้รับรู้ บอกบุญและบอกทานผ่านเสียง คลื่นมหาชนคนอ่างทอง
หลวงพ่อสดวัดปากน้ำภาษีเจริญ