http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,668
Page Views16,315,692
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เมื่อผู้หญิงอกสองศอกต้องเฝ้าป่าดงพงไพร อะไรจะเกิดขึ้น โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

เมื่อผู้หญิงอกสองศอกต้องเฝ้าป่าดงพงไพร อะไรจะเกิดขึ้น โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

เมื่อผู้หญิงอกสองศอกต้องเฝ้าป่าดงพงไพร อะไรจะเกิดขึ้น

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                 เดิมทีเดียว คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน รับแต่ผู้ชาย "อกสามศอก" ด้วยว่ากรอบของการเรียนและกรอบของการปฏิบัติงานนั้นต้องอยู่กลางดงพงไพรเสียส่วนใหญ่ สอบเข้าไปเรียนได้ก็ต้อง "วิ่งประเพณี" ทุกปีๆละ 15 กม. เพื่อพิสูจน์ให้ได้ว่า มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และพร้อมที่จะเดิน "ลุย" ขึ้นเขาลงห้วยได้ เรียนภาควิชาการในกรุงเทพแล้ว ทุกปีที่ปิดภาคยังต้องไปเรียนในป่าทุกข์ทรมานเอาการอยู่ บางคนก็เป็นไข้มาเลเลียจนหูตึงไป

     

ป้ายบอกทางใช้สีถูกต้องตามหลักการจัดการป่าอนุรักษ์

                 "เมื่อพวกคุณเรียนจบออกไป ก็ต้องไปทำงานอยู่ในป่า คืบก็ป่า ศอกก็ป่า ทุกคนจะต้องมีความอดทน อดกลั้น และมุ่งมั่น มิเช่นนั้น ควรลาออกไปเรียนคณะอื่น" 

                  คณบดีกล่าวปฐมนิเทศน์ แต่หลังจากรับน้องคณะ ก็ขอย้ายไปเรียนคณะอื่นๆหลายคน บางคนกวดวิชาไปสอบเอ็นทรานซ์ใหม่ บางคนแพ้เหล้ากินแล้วเมาเละ จำเป็นต้องขอย้าย ตามสภาพร่างกาย ก็มี คณะนี้มีแต่เมา

     

      ป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์

          แต่แล้วกระแสโลกาภิวัฒน์ก็ทำให้คณะวนศาสตร์เปิดรับผู้หญิง ผู้ซึ่งได้ชื่อว่า "อกสองศอก" เข้ามาเรียน รุ่นพี่อย่างผม ตกใจโหม๊ะเลย นึกในใจแล้วมันจะเป็นยังไงกันวะ 

                "เมื่อพวกคุณเป็นผู้หญิงอกสองศอก หาญเข้ามาเรียนแล้ว คุณก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า แม้เป็นผู้หญิงอกสองศอก คุณก็ทำได้" คณบดีอีกยุคสมัยหนึ่งกล่าว 

ผืนป่าอนุรักษ์ชายแดนสวนผึ้ง     

                 วนศาสตร์หญิงรุ่นแรกไปฝึกงานจังหวัดน่าน ผมได้เห็นกับตาว่า แต่ละอนงค์นางดุดัน ดุเดือด และบู๊ล้างผลาญไม่น้อย ข้อสังเกตคือ 

                 "เฮ้ย แน่จริงพวกมึงข้ามห้วยมากินเหล้ากับกูซิ มีสองกลม" เสียงท้าทายวนศาสตร์ผู้ชายที่พักคนละฝั่งห้วย ผมนึกในใจท่าจะทอมมั้งที่เข้ามาเรียน ซึ่งโดยรูปลักษณ์ที่ผมเห็นบางคนสวยอย่างกับนางงาม บางคนก็ท่าทางบู๊ๆ และบางคนเอวบางร่างน้อย น่ารักชะมัด 

    

อ่างเก็บน้ำอะนะมีปลาให้หากินได้ทั้งปี

                 ผมเผลอไปอีกอึดใจใหญ่ๆ ผมไปนั่งกินข้าวเช้าที่คณะวนศาสตร์ มองไปทางไหนมีแต่นิสิตหญิง ไม่ค่อยเห็นนิสิตชาย ถามอาจารย์ดร.ทั้งหลายที่ร่วมวงกันทุกวัน ได้คำตอบว่า

                 "เออ ผู้หญิงมาเรียนมากกว่าว่ะ" ผมฟังแล้วก็แทบสำลักข้าว ได้แต่เหลือบตาเหล่  

                 ช่วงชีวิตปลายๆ ผมได้เห็นนักวิชาการป่าไม้หญิงหลายคนทำงานอยู่ในป่าดงพงพี บางคนสู้ขนาดแลกชีวิตกับการปกป้องต้นไม้ในสวนป่าที่ปลูกจนไฟลวกหน้าแทบเสียโฉม บางคนเป็นนักอนุรักษ์อยู่ในอุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บางคนเป็นหัวหน้าหน่วยปราบปรามการกระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้ และบางคนเป็นนักวิชาการป่าไม้ ศึกษาและวิจัยฯลฯ

    

 การสร้างเขื่อนเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์     

            วันหนึ่ง ผมได้โอกาสดีมากๆ (หลังเกษียณราชการแล้ว) ได้ไปพักค้างอ้างแรมอยู่ในป่าชายแดนแผ่นดินไทย ที่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าราชบุรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี  ได้ฟังหัวหน้าสถานีชื่อนส.กมลทิพย์ พรหมเพชร  หน้าตาท่าทางผู้หญิงๆ รูปโฉมโนมพรรณเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป ไม่เห็นว่าจะเป็นทอม และก็ไม่เห็นว่าจะหน่อมแน้ม แต่ดูแกร่ง ทะหมึงทึง องอาจสมกับเป็น "วนกรหญิง" อีกทั้งยังร่ายยาวอธิบายอะไรต่อมิอะไรได้อย่างเต็มความภาคภูมิสมตำแหน่งหน้าที่การงาน 

นส.กมลทิพย์ พรหมเพชร

                 เธอเล่าว่า หลังเรียนจบปริญญาตรีวนศาสตร์(วทบ.) เธอเคยทำงานประจำฝ่ายบ้าง หน่วยงานในป่าบ้าง ระหว่างทำงานก็เรียนต่อปริญญาโทวนศาสตร์ไปด้วย แต่ด้วยความชื่นชอบการประชาสัมพันธ์จึงไปเรียนต่อปริญญาตรีด้านนิเทศศาสตร์อีกปริญญาหนึ่ง นักวิชาการป่าไม้ชายทำงานได้อย่างไร นักวิชาการป่าไม้หญิงก็ทำได้เช่นกัน จนถึงวันหนึ่งต้องทำงานเป็นหัวหน้า นั่นเองคือบทพิสูจน์ว่า เธอไม่ใช่เพียงผู้หญิงอกสองศอก หากแต่เป็นประเภทมือก็ไกวเปลอีกมือก็ถือดาบสู้ศึก ว่างั้นเถอะ

นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวีและคณะฟังกันเพลิน

                 ข้อเท็จจริง นส.กมลทิพย์ ยังโสดสนิท การเป็นหัวหน้าหญิง เวลาจะไปไหนมาไหนก็ใช้พนักงานขับรถหญิงที่แกร่งพอๆกัน ลุยได้เท่าๆกัน หากเป็นชายก็เกรงข้อครหา ทั้งๆที่เธอถือคติการทำงานแบบ"อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน" แต่ด้วยความรอบคอบและปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง เธอเลือกที่จะป้องกันดีกว่าแก้ไขในภายหลัง เยี่ยมๆๆ 

        

ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างคล่องแคล่ว     

            ชุดเครื่องแบบที่เธอแต่งให้เห็นเป็นกางเกงยีนลายพราง เสื้อเชิ๊ตแขนสั้น สวมหมวกปีกกว้าง (ถ้าพกปืนเหน็บเอวอีกสักกระบอกท่าจะเท่ระเบิด) แต่ใบหน้าโปรยรอยยิ้มตลอดเวลา เธอเล่าให้ฟังว่า งานในหน้าที่วันนี้เป็นงานด้านการส่งเสริมและประชาสัมพันธุ์ ทำอย่างไรจึงจะให้ประชาชนคนทั่วไปได้เห็นคุณค่าของผืนป่า และสัตว์ป่า ในขณะที่คนบ้านป่าต้องอาศัยพืชและสัตว์ในป่าเพื่อการยังชีพ ความขัดแย้งเล็กๆเกิดขึ้นแต่เมื่อได้ลงไปสัมผัสกันจนไว้วางใจซึ่งกันและกัน   ดูเหมือนว่าจะได้รับความร่วมมือมากกว่าที่คิด  

รศ.บำรุง อดีตคณาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้านเภสัชกรรม     

             ผู้คนส่วนใหญ่จากในเมือง เมื่อเข้าป่าก็ยังไม่เข้าใจป่า ไม่รู้ว่าจิตสำนึกรักและอนุรักษ์นั้นคืออย่างไร ในที่สุด เมื่อสถานีแห่งนี้ตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2541 ก็ได้สร้างองค์ความรู้ แนวทางการพัฒนา และส่งเสริมให้เกิดจิตสำนึก จากธรรมชาติที่แท้จริงที่มีอยู่ ด้วยหลักวิชาการจัดการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยเปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น 975 เมตร เรียกว่าเส้นทางเห็ดโคน และระยะกลาง 2,600 เมตร(2.6 กม.) เรียกว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติห้วยอะนะ (อะนะเป็นภาษากระเหรี่ยงแปลว่ายากลำบาก, ทุรกันดาร)

  

                  ไม้ป่าผลิใบ สีหวานๆ                             ดอกไม้ป่าก็งามงดสดใส

                  บนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายส่งเสริมจะให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าของพันธุ์พืชและสัตว์ป่า บางครั้งพบรอยเล็บของสัตว์ตามต้นไม้ก็อธิบายได้ว่าเป็นร่องรอยของสัตว์ชนิดใด พอบอกว่าหมีควายน้ำหนัก2.5 ตันก็ร้อง ฮู้ กันตรึม บางครั้งพบรอยเท้าบนดินที่เปียกชื้น ก็บอกเล่าได้ว่ามันคือรอยเท้าสัตว์ตัวไหน เก้ง กวาง หรือพบ "อึ" ก็บอกได้ว่า"อึกระต่ายป่า"หรือ "อึ อีเห็น"  ชาวกรุง ชาวเมือง และเยาวชนจะรู้สึกตื่นเต้นกันมากๆ

   

                  ต้นยวนผึ้งซึ่งยังมีเหลืออยู่                        นั่งบนปีกไม้ก็ได้อารมณ์

                  แถมด้วยการใช้อาวุธสงคราม(ของ ศอฉ.19 พค.2554) หนังสติ๊กยิงลูกไม้ป่าเพื่อช่วยกระจายพันธุ์ในป่าธรรมชาติ เช่นเมล็ดมะค่าโมง เมื่อธรรมชาติเหมาะสม ได้เวลาจะงอก กลไกธรรมชาติของเขาจะทำงานจนกลายเป็นต้นไม้ป่าอีกกลุ่มหนึ่ง นี่ถ้าต่อไปใช้คันธนูยิง ก็คงจะยิงได้ไกลยิ่งกว่า และก็คงจะทำให้ชาวเมืองรู้สึกอยากจะเก็บภาพเอาไว้อวดเพื่อนๆ หวังว่า ศอฉ.จะไม่เข้ากล่าวหานะว่า มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ห่วย!!

   

ผืนป่าเทือกเขาตะนาวศรีฝั่งเมียนมาร์

                  พื้นที่รับผิดชอบไม่กว้างนัก ประมาณ 1,000 ไร่ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เขตฯทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองพืชพันธุ์และสัตว์ป่าในพื้นที่กว้าง แต่สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักสัตว์ป่าทำหน้าที่สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนคนทั่วไปนึกรักและหวงแหน ด้วยว่ารู้และเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งถึงคุณค่าอันเอนกอนันต์ของป่าเช่น ให้น้ำ ให้อาหาร ให้อากาศ ให้สิ่งแวดล้อม ให้การป้องกันภัยพิบัติจากธรรมชาติ และยังให้รายได้จากการหมุนเวียนของนักท่องเที่ยวอีกด้วย

                  ในการเดินศึกษาธรรมชาติก็เหมือนเดินสำรวจป่า และปกป้องป่า เมื่อมีคนเดินทางอยู่เสมอๆ ผู้ที่ลักลอบตัดโค่นต้นไม้ เก็บหากล้วยไม้ และล่าสัตว์ป่า ก็จะกระดักกระเดิดไปโดยปริยาย  เหมือนมียามเฝ้าระวัง เหมือนหุ่นไล่กาว่าที่นี่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอยู่นะ สถานีโชคดีที่ได้ตั้งหน่วยงานอยู่บนดอยสูงกว่า 500 เมตรจากระดับน้ำทะเล จึงมีภูมิอากาศเย็นสบาย หายใจโล่งโปร่งสบาย และได้ชมทะเลหมอกที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยอะนะทั้งฤดูหนาวและฤดูฝน 

    

ฐานตชด.

                  อยากมาไหมคะ อยากมาก็ติดต่อมาได้ที่ โทร.084-8887209 //081-9888054 หรือจะมาเป็นหมู่คณะก็ติดต่อได้ที่ ตู้ปณ.1 ปณ.สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 70180 การเดินทางหรือคะ ง่ายมาก จากราชบุรี-สวนผึ้ง ระยะทาง 59 กม. แล้วไปตามถนนสาย บ้านบ่อ-ห้วยม่วง หมายเลข SU6007 ระยะทาง 26 กม. แล้วแยกซ้ายไปบ้านห้วยน้ำหนัก ผ่านโบสถ์คริสต์ มุ่งตรงไปอ่างเก็บน้ำห้วยอะนะ ระยะทาง 5กม. สุดเส้นทางถนนก็คือถึงสถานีพอดี 

          

                    สำนักงานสถานี ปลูกไผ่แล้วตัดแต่ง ซึ่งเป็นไม้ในป่าอนุรักษ์ เยี่ยม

                  ที่นี่มีห้องประชุม 80 นั่ง พร้อมโสตทัศนูปกรณ์  เส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 เส้นทาง  บ้านพักรับรอง 6-10 คน เรือนนอนค่ายเยาวชน ลานกางเต็นท์ ลานกิจกรรม ห้องสมุด และเจ้าหน้าที่สื่อความหมายด้านธรรมชาติวิทยา 

                  ไม่ไปไม่รู้ ไม่รู้ก็ไม่รัก ไม่รักก็ไม่อยากปกป้องและหวงแหน ไปดู สัมผัสผืนป่าและสรรพสัตว์ แล้วคุณจะรู้ว่า ป่ามีค่าควรอนุรักษ์เพียงใด

   

               นกปรอด-อกเหลืองหงอน                            นกกะปูดใหญ่

                   "เพียงแค่ได้เห็นนกขุนแผนป้อนเหยื่อให้ลูกก็เกินคุ้ม" จำลอง บุญสอง บก.ท่องเที่ยวโพสท์ทูเดย์ กล่าว แต่ความจริงคุณจำลองบันทึกภาพนั้นไปได้อย่างงดงาม 

                    นักดูนกควรไปดู ไปส่อง แล้วจะพบว่า รอบๆตัวคุณมีเพื่อนสัตว์ป่าประเภทนกมากอย่างไม่น่าเชื่อ

   

นกขุนแผนและลูกในรัง  

                 แถมท้ายด้วยนำเที่ยวชายแดนที่กางกั้นแผ่นดินไทยกับเมียนมาร์ ซึ่งเป็นจุดที่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 850 เมตร ว่ากันว่า ในช่วงฤดูหนาวหนาวถึง 6 องศาเซลเซียส แต่น่าเสียดายว่า ตชด.มีพื้นที่ให้กางเต็นท์ได้ไม่มากนัก ไปก่อนได้ก่อน  

รุ่น 500 ปี  

 

      

 

Tags : ท่องเที่ยวทั่วไทย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view