เกษตรฯจับคู่จังหวัด “บัดดี้พี่กับน้อง”
ส่งผลไม้ตะวันออกขายเมืองท่องเที่ยว
โดยภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร นายอนันต์ ลิลา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยภายหลังงานเปิดตัว “งานผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ภาคตะวันออก” เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่กรมส่งเสริมการเกษตร ว่า ในงานมีการจัดกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิขบวนรถผลไม้จากจ.จันทบุรี ระยอง และตราด เพื่อนำผลไม้สดจากสวนมาจำหน่ายภาย มีการแข่งขันทานผลไม้ และขายบุฟเฟ่ต์ผลไม้คนละ 59 บาท ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในภาคตะวันออกให้มีโอกาสได้ประชาสัมพันธ์ผลไม้คุณภาพดีจากสวนด้วยตัวเอง พร้อมช่วยกระจายผลผลิตสดออกจากแหล่งผลิตได้มากขึ้น
ด้านนายอนันต์ ลิลา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงเดือนมีนาคมถึงสิงหาคมของทุกปี เป็นช่วงที่ผลผลิตเงาะ ลองกอง มังคุด และทุเรียน ออกสู่ตลาดพร้อมๆ กัน ซึ่งจะมีปริมาณผลผลิตมากเกินความต้องการของผู้บริโภค และเกินกำลังกลไกตลาดปกติที่จะรองรับได้ ทำให้เกิดปัญหาราคาตกต่ำแทบทุกปี ในปี นี้ คาดการณ์ว่า ภาคตะวันออกจะมีผลผลิตผลไม้ทั้ง ๔ ชนิด รวมทั้งสิ้น ๗๕๘,๘๕๗ ตัน แบ่งเป็น ทุเรียน มีปริมาณ ๓๔๔,๐๘๙ ตัน มังคุด มีปริมาณ ๑๑๑,๑๒๒ ตัน เงาะ มีปริมาณ ๒๓๗,๕๙๒ ตัน ลองกอง มีปริมาณ ๖๖,๐๕๔ น
นายอนันต์กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำโครงการป้องกันแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก ขึ้น โดยได้วางกลยุทธ์การแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออก มี ๔ มาตรการ คือ
มาตรการที่ ๑ กระจายผลผลิตในประเทศ มีเป้าหมาย ๗๔,๖๒๕ ตัน
มาตรการที่ ๒ ส่งเสริมการแปรรูป
มาตรการที่ ๓ และ ๔ ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศและต่างประเทศ โดยภายในประเทศจะมีการจัดงานผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ภาคตะวันออก ส่วนกิจกรรมในต่างประเทศจะมีการประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยในต่างประเทศในแนวคิด “
นายอนันต์กล่าวอีกว่า จากการดำเนินงาน ๔ กลยุทธ์ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิตได้ไม่น้อยกว่า ๗๔,๖๒๕ ตัน คิดเป็น ๓๘% ของปริมาณผลผลิตในช่วงกระจุกตัว คือ ๑๙๖,๐๒๙ ตัน ขณะเดียวกันยังคาดว่า เกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุน และมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายผลไม้ในช่วงกระจุกตัว เฉลี่ยกิโลกรัมละ ๑ บาท คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ล้านบาท
ส่วนการสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดจัดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ภาคตะวันออก” ขึ้นพร้อมกัน ในระหว่างวันที่ ๑๗-๑๙ มิถุนายน ในจังหวัดที่เป็นสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยในรูปแบบจังหวัดบัดดี้พี่กับน้อง กล่าวคือ มีจังหวัดต้นทางซึ่งเป็นแหล่งผลิตผลไม้ ได้แก่ จันทบุรี ระยอง และตราด จับคู่กับจังหวัดซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในแต่ละภูมิภาค จำนวน 3 คู่บัดดี้ คือ
1) จันทบุรี จับคู่กับ ภูเก็ต จัดงาน ที่บริเวณแหลมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต (๑๗-๑๙ มิถุนายน) ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมจำหน่ายผลไม้คุณภาพและการจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เช่น ผักปลอดภัยจากสารพิษ ฯ
๒) ระยอง จับคู่กับ ขอนแก่น จัดงาน ที่ตลาดบางลำพู บริเวณข้างห้างสรรพสินค้าเซนโทซ่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น (๑๗-๑๙ มิถุนายน) ๓) จังหวัดตราด จับคู่กับ จังหวัดเชียงใหม่ จัดงาน ณ ประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ (๑๗-๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๔) ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การจำหน่ายผลไม้คุณภาพ ฯทั้งนี้คาดว่าตลอดระยะเวลา ๓ วันของการจัดงาน จะมียอดการจำหน่ายผลไม้ ใน ๓ จังหวัด ดังกล่าสวรวมกันไม่น้อยกว่า ๒๐๐ ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า ๘ ล้านบาท