หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง
ร้านไอศครีม”อินจัน”ไปโลด
“ ชาคริต แย้มนาม”เล็งขยาย ในสถาบันการศึกษา
ผู้ชายจำนวนมากที่ไม่ชอบเข้าครัว ไม่ชอบทำกับข้าว ถ้าได้ดูรายการ”ครัวแล้วแต่คริต” ทางช่อง3 ที่มี”ชาคริต แย้มนาม” เป็นพิธีกร บางคนอาจจะเปลี่ยนใจอยากลองทำอาหารให้คนที่รักรับประทานก็เป็นได้ เพราะหนุ่มชาคริตทำเรื่องการเข้าครัวให้เห็นชัดๆว่าไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ขอแค่มีใจเท่านั้นเป็นพอ
000ความเป็นมาร้าน”อินจัน”
ด้วยความรักความชอบในการทำอาหาร และเป็นคนชอบรับประทานเช่นนี้เอง เขาตัดสินใจทำเป็นธุรกิจเสียเลย โดยร่วมกับคุณแม่” สมลักษณ์ แย้มนาม” และญาติผู้พี่ชื่อ “พี่จุ๋ม สุภัชชา ปัตตะโชติ” เปิดร้านขายไอศครีมโฮมเมดที่พาราไดซ์ พาร์ค ย่านศรีนครินทร์ ชื่อร้าน “อินจัน อัมพวา” อีกร้านเพิ่งเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้ อยู่ที่สถาบันเทคโนลีเจ้าคุณ
เห็นเขาเป็นพิธีกรรายการอาหารแบบนี้ บางคนอาจจะไม่เชื่อว่า หนุ่มหล่อวัย 33 ปี คนนี้ชอบเข้าครัวและรักการทำอาหารการรับประทานอาหารเป็นชีวิตจิตใจ
“งานทุกอย่างที่ผมทำใครก็บอกว่าไม่ตรงกับบุคลิกเลย เป็นธรรมดาครับ ไม่แปลกเพราะเขาไม่รู้จักเรา เพราะเขาเห็นเราจากทีวี แต่จริงๆผมเข้าครัวอยู่แล้วครับ อยู่เมืองนอกก็ต้องทำอาหารกินเอง ถ้าเราอยากกินดีต้องหัดทำเองเพราะไปกินที่ร้านทุกวันก็จนตาย และด้วยความที่มีเพื่อนมาสังสรรดึก ๆ ก็หิวกันก็เป็นหน้าที่เรา และจะชินกับที่ว่ามีอะไรเหลือในครัวเราก็จับใส่ ๆ ประกอบกับเป็นคนใฝ่รู้อ่านหนังสือแล้วก็ลองผิดลองถูก ทำไปจนเริ่มเข้าใจว่าอะไรมันเข้ากับอะไร”
ขาคริตย้อนเล่าถึงที่มาของการทำธุรกิจร้านไอศกรีม ซึ่งครบหนึ่งปีแล้วว่า “ผมเป็นชอบทาน ชอบกินทุกอย่าง เป็นคนตะกละครับ พูดง่าย ๆ แล้วก็เป็นคนขี้ร้อน อากาศบ้านเราก็ร้อนมาก เลยคิดว่าไอศครีมก็ดี พอดีมีเพื่อนของลูกพี่ลูกน้องเขาเป็นนักวิจัย ทำงานอยู่ที่โครงการของสมเด็จพระเทพฯ เป็นคนทำให้ตลาดน้ำอำพวามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง ผมจึงมีแนวความคิดเรื่องไอศกรีม ไปคุยกับเขาก็แนะนำเรื่องดอกไม้ไทย เราน่าจะทำให้มีคุณค่า นอกจากอร่อยด้วยแล้วยังมีประโยชน์และยังอนุรักษ์ความเป็นไทยด้วย”
สาเหตุที่ชื่อร้านอินจัน เพราะหนุ่มชาคริตเห็นว่าเป็นชื่อไทยๆที่คนทั่วโลกรู้จักกันดี ภาษาอังกฤษสะกดว่า “ อิง ชาง” ถ้าใช้ชื่อนี้ชาวต่างชาติก็ต้องรู้ว่านี่เป็นไอศกรีมของคนไทย
000เน้นรสชาติผลไม้-ดอกไม้
ใครเคยทานไอศรีมของชาคริตจะรู้ว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพราะนำผลไม้ไทยและดอกไม้ไทยมาเป็นส่วนผสม เรียกว่านอกจากจะได้ความอร่อยชื่นใจแล้วยังได้ประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
“เรานำผลไม้และดอกไม้หลาย ๆ อย่างที่ปลูกในเมืองไทยมาทำไอศครีม ไม่ว่าจะเป็นดอกกุหลาบ ดอกเข็ม กระทกรกหรือเสาวรส มะตูม มะขาม ฝรั่ง มะม่วง รวมทั้งผลไม้ต่างประเทศอย่างกีวี สตรอเบอรี่ ถ้าเป็นมะยมเราก็เอาพริกเกลือมาโรยให้ ถ้าเป็นมะม่วงก็มีน้ำปลาหวาน ถ้าฝรั่งก็มีผงบ้วย ทุกอย่างใช้ธรรมชาติหมดเลย อย่างทุเรียนก็ไม่ใส่สี พอทำออกมาก็เป็นสีนวล ๆ คุณกินไอศครีมของเราก็คือกินผลไม้นั้นอยู่นั่นแหละเพียงแต่เปลี่ยนรูปเป็นไอศครีม”
สำหรับรสชาติไอศกรีมนั้น ชาคริตบอกว่า “ของเราจะไม่หวาน ไม่เหมือนกับไอศครีมที่มาจากอเมริกาของเขาจะออกรสหวานหน่อย ๆ แต่ของเราธรรมชาติมาอย่างไรจะเป็นอย่างนั้น เราไม่ปรุงแต่ง เนื้อไอศครีมจะใช้ส่วนผสมที่ดีเพราะฉะนั้นคุณภาพของโอศครีมเทียบเท่ากับของต่างประเทศครับ”
วันที่นัดไปถ่ายรูปชาคริตกับคุณแม่ที่ร้านในพาราไดซ์ พาร์ค นั้น ได้ชิมไอศกรีมหลายรส ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอรี่ ทุเรียนและอื่นๆ ต้องบอกว่าอร่อยสมกับที่เจ้าตัวสายยายไว้ไม่มีผิด คือไม่หวาน และเป็นรสผลไม้นั้นๆจริง
000หนุ่มคริตเป็นคนชิมก่อนทำขาย
หลายคนอาจจะสงสัยว่านักแสดงอย่างเขาจะเอาเวลาไหนมาทำไอศกรีม จริงๆแล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้มาทำอะไร หน้าที่ทำเป็นของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องกับคุณแม่ เขาเองรับหน้าที่เป็นคนชิมว่ารสชาติเป็นอย่างไร ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง และเป็นพรีเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตามบางรสชาติพระเอกรูปหล่อคนนี้ก็เป็นคนคิดสูตรขึ้นเอง เช่น รัมกล้วยตาก
“ การตรวจสอบเรื่องรสชาติเป็นหน้าที่ของผมครับ ส่วนเรื่องการตลาดเป็นของพี่เขา รสชาตินี่ผมต้องตรวจสอบ บางคืนอยู่ที่บ้านก็กินขนมกันจนอ้วน เพราะบางอย่างมีคนทำมาเสนอทำแล้วก็ส่งมาให้เราชิม ถ้ามันไปได้เราก็สั่งเขาครับเพราะเราทำเองทุกอย่างไม่ได้ บางอย่างนำมาวางในร้านให้คนเลือก”
000ในสถาบันการศึกษาขายไม่แพง
ปัจจุบันร้านไอศครีม “อินจัน” ทั้ง 2 แห่งไปได้ดี และเจ้าตัวยังเล็งที่จะไปเปิดขายตามสถาบันการศึกษาต่างๆ พร้อมกันนี้ก็มีเพื่อนดาราหญิงอย่าง เป้ย “ปานวาด” ชอบใจรสชาติไอศกรีมของร้านอินจัน และบางครั้งก็นำไอศครีมของเขาไปขายในงานอีเว้นท์ด้วย แต่ไม่ได้มีการลงทุนเปิดร้านร่วมกันแต่อย่างใด
“เราเริ่มขยายแล้ว เข้าไปเปิดในมหาวิทยาลัย เพื่อให้นักศึกษาได้มีอะไรดี ๆ กิน ราคาเป็นกันเอง ผมชอบแนวความคิดแบบนี้เพราะผมก็สนับสนุนเรื่องทุนการศึกษาอยู่ เราชอบกินของอร่อย กองทัพเดินได้ด้วยท้อง พอกินอะไรอร่อยสุขภาพจิตก็ดี ราคาเราก็ไม่ได้คิดราคาแพงเพราะเราต้องการลองตลาดด้วย และคิดว่าจะต้องจับลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราอยากให้ทุกคนสามารถกินได้เพราะฉะนั้นราคาไม่แพงครับ ตอนนี้เข้าที่ลาดกระบังและคิดว่าจะเข้าที่มหาวิทยาลัยราชภัฏด้วย อาจจะเป็นลักษณะรถเคลื่อนที่ นอกจากนี้กำลังดูอีกหลาย ๆ ที่”
ร้านไอศครีม “อินจัน อัมพวา” ใช่จะมีไอศกรีมตักอย่างเดียว ยังมีไอศกรีมแบบแท่งที่มีให้เลือกหลายรสชาติ อาทิไอศครีมรสมะพร้าวหอม ข้าวเหนียวมะม่วง ลอดช่อง ชาไทย เผือก สัปปะรด ข้าวเหนียวถั่วดำ ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวทุเรียน และทุเรียน ขายแท่งละ 15 บาท ใครชอบทานแบบนี้ก็มีให้เลือก ส่วนไอศกรีมถ้วย ขายถ้วยละ 45 บาท และที่ร้านอินจัน บายชาคริต จะมีของอื่นๆเสริมด้วย
“นอกจากไอศครีมก็มีกาแฟ ขนมเค้ก พวกอาหารที่กินง่าย อย่างครัวซอง ราคาก็ไม่แพงมากครับ ไอศครีมตกก้อนละประมาณ 20 บาท แต่ราคาเค้กอาจะสูงหน่อยเพราะใช้ส่วนผสมอย่างดี เราเน้นเรื่องคุณภาพ พอดีคุณแม่ก็มีความรู้ด้านนี้แล้ว และพี่จุ๋ม ลูกผู้พี่ของผมก็ช่วยกันทำ เป็นธุรกิจในครอบครัว”
อย่างที่บอกไอศกรีมร้านอินจัน เป็นรสชาติที่ได้จากดอกไม้-ผลไม้ ซึ่งใช่แต่จะมีในเมืองไทยเท่านั้น บางอย่างก็ต้องซื้อของต่างประเทศด้วย เนื่องจากไม่มีในบ้านเราหรือหายาก นอกจากนี้บางรสชาติก็เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องน้ำตาล เพราะไม่ได้ใส่น้ำตาลเลย แต่ใช้น้ำเชื่อมของลูกอินทผาลัมแทน
000ลูกค้าต่างติดใจ
บรรดาลูกค้าทั้งหลายที่ได้มาลิ้มลองไอศกรีมร้านอินจัน ต่างติดอกติดใจ และบางรายได้นำไปเขียนลงในเว็บเพจต่างๆ ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ทำเอาเจ้าของปลื้มสุดๆ รวมทั้งยังมีลูกค้าจากต่างจังหวัดด้วย ถึงขั้นขับรถมาซื้อเลย
“ภูมิใจครับที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีคนเชื่อถือแล้วเชื่อมั่น และภูมิใจที่จะบอกว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของเรา เราจะไม่ยัดเยียดของไม่ดีให้เขา ตัวผมเองเป็นคนชอบกินดีอยู่ดี ลูกค้าบางรายที่ซื้อของเราแล้วจะกลับมาซื้อใหม่ บางคนขับรถมาจากต่างจังหวัดเพราะดูในทีวีอ่านหนังสือพิมพ์แล้วสามีไม่ยอมมาด้วย คุณป้าก็งอน เลยขับรถมาเองเลย ซื้อกลับไปทุกรสที่ตัวเองอยากกิน ยกเว้นรสที่สามีอยากกิน ถ้าอยากกินก็ขับกลับมาใหม่”
นักร้อง-นักแสดงบางคนหันมาทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้เอาจริงเอาจัง เพราะอาจจะไม่มีเวลาทุ่มเต็มที่ กระทั่งต้องเลิกราไปในที่สุด แต่สำหรับหนุ่มคริตแล้ว เขายืนยันว่าทำยาวแน่นอน
”เมื่อทำแล้วผมก็จริงจังครับ ทำเล่นๆ ไม่ได้เพราะเงินลงทุนมันก็หมดไป ผมลงทุนไปเป็นหลักล้านแล้ว ถ้าทำธุรกิจทุกคนก็หวังกำไรแต่ว่าถ้าได้ลูกค้ามีพอใจด้วยก็ดี เหมือนการเป็นนักแสดงที่เราได้ผูกพันกับผู้ชม อย่างละครซิทคอมเรื่องเป็นต่อข่าวจะโดนหลุดผู้คนก็ลุกขึ้นมาประท้วง...โอ้โฮหัวใจที่เขาให้เรามันเต็มที่....มันวินวิน แบบนี้ผมชอบครับคือไปด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย
ธุรกิจนี้ถือเป็นธุรกิจแรกที่ทำกับครอบครัวแบบเข้ามามีส่วนร่วมเต็ม ๆ ซึ่งผมเองทำงานด้านบันเทิงก็คิดว่าถึงเวลาที่จะกลับไปทำงานให้ครอบครัวมากขึ้น ผมคิดว่าตัวเองก็เผชิญโลกมาพอแล้วก็ควรจะกลับบ้านได้แล้ว กลับไปทำอะไรกับที่บ้านบ้าง”
000ไม่หห่วงเรื่องการแข่งขัน
การทำร้านไอศกรีมนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะแม้จะเป็นตลาดกว้าง แต่คู่แข่งก็เยอะ ยิ่งเปิดในห้างด้วยแล้ว มีสารพัดยี่ห้อให้เลือกทั้งไอศครีมแบรนด์ไทยและแบรนด์นอก และบางยี่ห้อขายแบบโคนๆละ9 บาท หรือ 10กว่าบาทเท่านั้นเอง
“การแข่งขันก็อยู่ที่คุณภาพครับ บางคนอาจจะเป็นงานดีไซน์ แต่ของผมเป็น traditional มากกว่า ไม่วิลิสสมาหรา ไม่ต้องดีไซน์ใส่ถ้วยปักร่ม แต่บางอย่างก็เป็นกิมมิก ธุรกิจนี้ของผมเดินทางมาเกือบครบปีหนึ่งคิดว่าน่าจะไปได้แล้วครับ และเมื่อทำเป็นธุรกิจก็คงจะต้องมีการขยายไปเรื่อย ๆ ก็ดูสถานที่ดูอะไรไว้ แต่ถ้าทำหวือหวาทำเล่น ๆ อยู่ที่เดียวก็ได้ แต่เราเองรู้สึกสนุกเรื่องการทำอาหาร”
000วางแผนขายแฟรนไชส์
สำหรับเรื่องชายแฟรนไชส์ ชาคริตบอก “ วางแผนไว้แล้ว ซึ่งราคาแฟรนไชน์ไม่แพงครับ เพราะเป็นสูตรของเราเอง ถ้าใครสนใจก็มาคุยกับพี่สาวผม คุณจุ๋ม เราต้องการให้คนที่นำสินค้าเราไปขาย ต้องเป็นคนที่รักมันจริง ถ้าเอาไปแล้วไปตัดส่วนผสมหรือไปลดต้นทุนก็ไม่ควรครับ อยากให้เขารักษาคุณภาพที่ดี เพราะเป็นคุณภาพของของที่เราจะเอาไปให้คนกิน”
ชาคริตพูดถึงหลักการทำงานที่ยึดถือมาตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรืองานการแสดงว่า “ ผมว่าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานอะไร ทำงานต้องมีความสุข มีใจรักที่จะทำและจริงใจกับมันก่อน และเมื่อเราจริงใจกับงาน งานก็จะจริงใจกับเรา ผลิตผลที่ออกมาก็จะไปสื่อสารกับคนดูได้ ถ้าเราทำตรงนี้ให้ดีที่สุด มันก็จะสานต่อด้วยตัวของมันเองครับ”
เห็นความตั้งใจจริง และความทุ่มเทของนักแสดงหนุ่มคนนี้ รวมถึงคนในครอบครัวแล้ว ทำนายได้เลยว่าธุรกิจร้านไอศกรีมของเขาไปโลดแน่
000ล้อมกรอบ
คุณแม่”สมลักษณ์ แย้มนาม”
“ของเราเป็นไอศกรีมโฮมเมดที่ใช้ของสดทั้งหมด ผลไม้ก็เป็นผลไม้สด ๆ ใช้ของธรรมชาติไม่ใส่สีและไม่ใส่กลิ่น บางยี่ห้อเขาจะใส่สี บางรสเขาก็ปรุงแต่งกลิ่น พูดง่าย ๆ อย่างชมพู่มะเหมี่ยวเราก็เอาชมพู่มะเหมี่ยวแท้ ๆ มาทำ ไม่ได้เติมรสหรือเติมสีเพื่อให้เป็นชมพู่ม่าเหมี่ยว หรืออย่างบลูเบอรี่ ลิ้นจี่ เราก็ปั่นออกมา เราจะเน้นธรรมชาติทุกอย่าง และทำสดหมด ไม่ได้แปรสภาพให้เป็นผงก่อนแล้วทำ
ไอศครีมตักนั้นเราทำกันเองในบ้าน ไม่ได้ทำเก็บไว้มาก สมมติเราทำอย่างละ 10 กิโล เมื่อถาดที่ 1 หมด พอขึ้นถาดที่ 2 เราก็จะเริ่มทำใหม่ มีหลานช่วยทำ แต่ทุกรสจะผ่านการทดสอบจากชาคริตก่อน ถ้าเขาบอกว่าผ่านก็ใช้ได้เลย แต่ถ้าเขาบอกว่าหวานไปเปรี้ยวไปเราก็จะปรับใหม่
เรื่องราคาเราไม่ได้เปรียบเทียบกับคนอื่น แต่เปรียบเทียบกับคุณภาพของเราเอง ราคาก็พอใช้ได้ ของเรานี่ประเภทคนมาชิมแล้วชอบ
นอกจากไอศกรีมแล้วก็มีชาหอมหมื่นลี้ เป็นส่วนผสมของชาอู่หลงและความหอมของดอกหมื่นลี้ ส่วนความหวานใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ซึ่งจะดีสำหรับคนที่เป็นเบาหวานและคนที่ควบคุมเรื่องน้ำตาล นอกจากนี้ก็มีน้ำดอกดาหลา น้ำอัญชัน น้ำกุหลาบ น้ำดอกบัว ซึ่งสกัดความเข้มข้นจากดอกไม้แล้วนำมาผสม น้ำทุกอย่างขายได้เรื่อย ๆ ส่วนมากลูกค้าที่เคยชิมแล้วก็กลับมาซื้อใหม่ ขายขวดละ 35 บาท หรือ 3 ขวด 100 บาท”
”