พุ่มพวง ดวงจันทร์ ตำนานพรสวรรค์คนอ่านหนังสือไม่ออก

พุ่มพวง ดวงจันทร์

ตำนานพรสวรรค์คนอ่านหนังสือไม่ออก

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ปฐมวัยของเด็กหญิงรำพึง จิตรหาญ

รำพึง จิตรหาญ เกิดวันที่ 4 สิงหาคม 2504 เป็นลูกสาวคนที่ 6 ในจำนวนลูก 12 คนของนายสำราญ-นางเล็ก จิตรหาญ เกิดที่บ้านหนองนกเขา ต.ไพรนกยูง อ.หันคา จ.ชัยนาท รำพึงเป็นเด็กวันพุธอันหมายถึงเธอเกิดเป็นลูกคนกลาง จึงมีน้องๆอีกถึง 6 คนที่เธอต้องคอยดูแลแทนพ่อแม่และพี่ๆ ที่ออกไปทำงาน โดยพ่อ-แม่ของเธอได้ยกครอบครัวมารับจ้างตัดอ้อยที่ ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เธอจึงมาโตที่สุพรรณบุรี

รำพึงเรียนหนังสือชั้นประถม1-2 ที่โรงเรียนบ้านดอนตำลึง ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้องแต่เรียนไม่จบ ป.2 ก็ต้องออกมาช่วยพ่อกับแม่เลี้ยงน้องอีก 6 คน ถ้าน้องๆ นอนหลับเธอก็จะไปเก็บผักตามชายป่าชายคลองและริมรั้วไปขายให้กับคนงานที่โรงงาน รำพึงเป็นเด็กที่มีความจำดีเลิศ จดจำเนื้อเพลงที่ได้ยินได้ฟังได้อย่างแม่นยำ และร้องได้ด้วยเสียงที่ไพเราะเป็นที่ประจักร

พุ่มพวง ดวงจันทร์

ตำนานนักร้องเริ่มจากเป็นนักร้องเพลงประกวดงานวัด

พ่อสำราญรู้ว่าลูกสาวคนกลางมีความสามารถในการร้องเพลงได้ไพเราะ ทั้งยังมีหน้าตาน่ารัก ใบหน้าโดดเด่น แววตาเชื่อมั่น และร้องเพลงไปเต้นไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ จึงตระเวนพาลูกสาวตัวเล็กๆคนนี้ไปแข่งขันประกวดร้องเพลงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ได้รับชัยชนะท่วมท้นไปทุกที่ ได้รางวัลมาเติมเต็มให้ครอบครัว และเริ่มมีชื่อเสียง

พ่อสำราญพาลูกสาวตัวน้อยๆ แต่เต็มไปด้วยความสามารถ ตระเวนร้องเพลงประกวดเพื่อกวาดถ้วยรางวัลและเงินรางวัลตั้งแต่ในท้องที่อำเภอบางปลาม้า ศรีประจัน แล้วข้ามไปอำเภอเสนา ผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ไปไกลจนถึงบ้านแพรก หนองโดน พุทธบาท จังหวัดสระบุรี ไปที่ไหนก็ชนะใจกรรมการทุกที่

อายุ 10 ขวบ เคยไปเป็นหางเครื่องและนักร้องในวงของ ดวง อนุชา ที่กรุงเทพ แต่ไม่ได้ดีเด่นแต่อย่างใด จึงกลับบ้านเกิด

รูปพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่บนแล้วสมใจนำมาบูชาครู

ดาวเปล่งประกายเจิดจ้าที่งานวัดทับกระดาน

ดวงคนจะดัง คืนหนึ่ง ปีพ.ศ.2518 ขณะที่เด็กหญิงรำพึงอายุได้เพียง 14 ปี วงดนตรี ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ได้มาแสดงที่วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พ่อสำราญได้พาไปพบและได้ขึ้นไปร้องเพลง ร้องดีเสียจนพ่อไวพจน์รับเป็นบุตรบุญธรรม และนำพาเด็กหญิงรำพึงเข้าวง พ่อไวพจน์ได้แต่งเพลง แก้วรอพี่ ให้ร้องเป็นเพลงแรกใช้ชื่อว่า น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ น้ำผึ้งเป็นทั้งนักร้องและหางเครื่อง ชีวิตเริ่มมีสีสัน เกิดดาวแซมบนฟากฟ้าดาราพราว

น้ำผึ้งหน้าตาดี มีเสน่ห์ น่ารัก ธรรมดาของสาวแรกดรุณี จึงใกล้ชิดสนิทสนมกับ ธีระพล แสนสุข นักดนตรีในวงเดียวกัน เป็นเหตุให้ถูกพ่อไวพจน์ทำโทษและรู้สึกเสียใจ และจำต้องตัดใจอำลาออกไปอยู่วงดนตรีอื่นๆทั้งคู่ โดย ธีระพล ไปเป็นนักดนตรี น้ำผึ้งไปเป็นนักร้องและหางเครื่องให้กับวงศรเพชร ศรสุพรรณ ชีวิตโลดแล่นไปตามทำนองของผัวหนุ่มเมียสาว

พุ่มพวง เมื่อเป็นดาวจรัสฟ้า

ดาวจรัสฟ้า เมื่อพบกับครูเพลง มนต์ เมืองเหนือ

ปีพ.ศ.2519 น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ โคจรไปอยู่กับครูเพลงชื่อดัง มนต์ เมืองเหนือ ได้แต่งเพลงให้บันทึกเสียงเป็นแผ่นแรกของตนเองพร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ในนามว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ กำเนิดเป็นดาวแจ่มฟ้าตรงนี้ โดยการสนับสนุนของ นักจัดรายการวิทยุคนดัง สมญานาม คารม คมคาย ในค่ายเสกสรรเทป แผ่นแรกได้แก่เพลงรักไม่อันตราย ในที่สุดก็ตั้งวงดนตรีของตนเองขึ้นสำเร็จ แต่ก็ไปไม่รอด

นายห้างประจวบ จำปาทอง สนับสนุนให้ตั้งวงดนตรีกับ เสรี รุ่งสว่าง แต่ไปไม่รอด

ปีพ.ศ.2521 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดา ในเพลง อกสาวเหนือสะอื้น แล้วย้ายค่ายเพลงไป อโซน่า โปรโมชั่น ตั้งแต่ปีพ.ศ.2525-2535

อัฐิของพุ่มพวง

เพลงอมตะของพุ่มพวงที่เป็นต้นตำรับเพลงประกวด

รายชื่อ อัลบั้มดังๆ ได้แก่ คนดังลืมหลังควาย อื้อฮื้อ หล่อจัง พ่อจอมตื้อ จะให้รอ พ.ศ. ไหน สาวนาสั่งแฟน ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน น้ำตาหางเครื่อง ทิ้งนาลืมทุ่ง นัดพบหน้าอำเภอ เรื่องของสัตว์โลก โลกของผึ้ง ขอให้รวย พี่ไปดู…หนูไปด้วย รักแท้แพ้รักเทียม หนูไม่รู้ หนูไม่เอา ส้มตำ พุ่มพวง หลาย พ.ศ. ลากรุง พรุ่งนี้ฉันจะเป็นสาว ว่าจะไม่แล้วเชียว ส่วนเกิน เป็นต้น

ช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ ได้เป็นทั้งนักร้องและดารานำแสดงในภาพยนตร์

พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์ด้วยการแสดงนำ(เป็นนางเอก) เมื่อปีพ.ศ.2526-2531 หนังเรื่องแรกคือ มนต์รักนักเพลง ต่อมาพบกับไกรสร แสงอนันต์ จึงใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผยปีพ.ศ.2527 โดยไกรสรได้หย่าขาดจากภรรยาที่เชียงใหม่ พ.ศ.2530 เธอให้กำเนิดลูกชาย 1 คน (เพชร-สรภพ ลีละเมฆินทร์) เป็นปัญหาชีวิตพุ่มพวงก่อนล้มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี (SLE : Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง

พุ่มพวงแสดงนำในภาพยนตร์ หลายเรื่องเช่น สงครามเพลง มนต์รักนักเพลง ที่ทำให้พบกับไกรสร แสงอนันต์ รอยไม้เรียว ผ่าโลกบันเทิง นักร้องนักเลง นางสาวกะทิสดด ลูกสาวคนใหม่, อีแต๋น ไอเลิฟยู, หลงเสียงนาง, จงอางผงาด, ขอโทษทีที่รัก, คุณนาย ป.4, อาจารย์เด๋อเจอพุ่มพวง, สาวนาสั่งแฟน, เสน่ห์นักร้อง

พุ่มพวงก้าวไม่หยุดเมื่อนำแสดงในภาพยนตร์โทรทัศน์ เรื่อง นางสาวยี่ส่าย ฯลฯ

โพธิ์ บุชา

รางวัลชีวิตของศิลปินบ้านนอก

พุ่มพวงได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำ เมื่อปีพ.ศ.2521 ด้วยเพลง อกสาวเหนือสะอื้น จากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี

พุ่มพวงได้ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ชื่อ”ส้มตำ”

ปีพ.ศ.2532 พุ่มพวงได้รับรางวัล ขับร้องเพลงดีเด่น จากพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี จากเพลง สยามเมืองยิ้ม

ชีวิตเด็กหญิงบ้านนอกที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ลำบากยากจน มีพี่น้องมากถึง 12 คน แต่ด้วยพรสวรรค์ที่ฟ้าประทานให้ เธอกลายเป็น ดาวจรัสฟ้าทุกราตรีกาลที่ไม่เคยดับแสง จนถึงวันที่เธอสิ้นแสงไฟแห่งชีวิต

แม้ในโลกของความทรงจำ ไม่เคยมีใครลืมพุ่มพวงดวงจันทร์ และไม่มีใครที่คิดจะก้าวเข้ามาเป็นนักร้องลูกทุ่งจะมองข้าม เพลงประกวดจากเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เธอคือ ตะเกียงส่องนำทางชีวิตให้กับเด็กสาวบ้านนอกอีกมากมายหลายร้อยคน ทำให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษามีกำลังใจ ทำให้เด็กยากจนที่ดิ้นรนจนพบกับหนทางของตนเอง เธอคือพลังกำลังใจที่ทำให้วงการลูกทุ่งรุ่งเรืองตลอดมา เธอคือดาวประดับฟ้าที่เจิดจรัสนิรันดรกาล เธอคือ พุ่มพวง ดวงจันทร์

เวทีแสดงปีนี้ กร่อยไปหน่อย

วันสิ้นลมแต่เป็นวันเริ่มต้น ตำนานพุ่มพวง ดวงจันทร์

ในช่วงปีพ.ศ.2534-35 พุ่มพวงหดหายไปจากการแสดงทั้งดนตรี ภาพยนตร์ และภาพยนตร์ทีวี เธอป่วยด้วยโรคโรคเอสแอลอี (SLE : Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นข่าวไปทั่วทั้งวงการ เป็นเรื่องที่แฟนเพลงเป็นห่วงและพยายามติตามเรื่องราวของเธอ ในช่วงนี้เธอต้องประสบปัญหาชีวิรักและครอบครัว

เธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล แต่เบิกเงินจากไกรสรไม่ได้ เพราะไปเปิดบัญชี 6 ล้านบาทที่เชียงใหม่ แม่และพี่น้องพุ่มพวงไปรักษาทางไสยาศาสตร์ที่จังหวัดพิษณุโลก เธอช็อคเมื่อนำส่งโรงยาบาลพุทธชินราช วันที่ 13 มิถุนายน 2535 เวลา 20.55 น.

วันที่ 25 มิถุนายน 2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จพระราชทานเพลิงศพ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดทับกระดาน วัดที่เธอจุติบนโลกแห่งเสียงเพลง และลาลับดับสูญ ด้วยแฟนเพลงจากทั่วประเทศแห่แหนกันมาล่ำลาจากเธอผู้เป็นดวงใจ ท่ามกลางเสียงสะอื้นนับแสนคนบนลานวัดทับกระดาน

พุ่มพวงสองและทีมงาน มาทุกปี

หุ่นขี้ผึ้งของผึ้งที่สถิตทั่วถึง 7 หุ่น

ด้วยเสียงเพลงอมตะของพุ่มพวง ดวงจันทร์ จึงเกิดหุ่นขี้ผึ้งถึง 7 หุ่น สถิตอยู่ที่วัดทับกระดานเพื่อให้แฟนเพลงได้เข้ามากราบไหว้ขอพรและรำลึกถึงเธอ เช่นในสระน้ำข้างวัดซีกซ้ายมือขาเข้าประตูวัดทับกระดาน มีร่มโพธิ์ใหญ่แผ่ศาลบดบังแสงที่แผดจ้าให้เย็นชื่นใจ บนคาคบของต้นโพธิ์พาว่างด้วยเครื่องบูชาที่พุ่มพวงชื่นชอบ เช่นเสื้อสำเร็จชุไทย ผ้าหลากสี ฯลฯ

ซีกขวาขาเข้าประตูวัด เป็นศาลาพุ่มพวงมีหุ่นขี้ผึ้งสถิตอยู่ในตู้กระจก รูปถวายเมื่อสาวน้อยที่มาบนบานศาลกล่าวเมื่อประสบความสำเร็จในการประกวดร้องเพลงไปทั่วทุกแหล่งที่หุ่นพุ่มพวงตั้งอยู่ ไม่เว้นแม้แต่หุ่นขี้ผึ้งที่สถิตในมณฑปหลังใหญ่ที่เปรียบเสมือนเป็นศาลาการเปรียญของวัดทับกระดาน

หลังการฌาปนกิจพระราชทานแล้ว อัฐิของพุ่มพวงได้บรรจุอยู่ในโกศ ตั้งอยู่ที่ศาลาหลังใหญ่นี้ ทุกปีเมื่อถึงเดือนมิถุนายน ระหว่างวันที่ 11-16 จะมีการเฉลิมฉลองด้วยเสียงเพลงของพุ่มพวงจากนักร้องที่เคยใช้บทเพลงของเธอจนก้าวเข้าสู่วงการนักร้องลูกทุ่ง

เช่น ยุ้ย ญาติเยอะ เปาวลี พุ่มพวงสอง ฯลฯ ซึ่งจะสละเวลาอันมีค่าของตนเองมาร้องบูชา ครู และแม่พุ่มพวงของทุกคน ชั่วนิจนิรันดร