http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,043,342
Page Views16,353,623
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วัดป่าไทรงาม : แดนธรรมในแมกไม้ ไทรงาม

วัดป่าไทรงาม : แดนธรรมในแมกไม้ ไทรงาม

วัดป่าไทรงาม : แดนธรรมในแมกไม้ ไทรงาม

เอื้อยนาง

                ในท่ามกลางความวุ่นวายสับสนของสภาพสังคม  เศรษฐกิจ  และการเมือง อันเป็นเหตุหมอง ๆ สยอง ๆ ครองใจให้ผู้คนรุ่มร้อน  ไม่ผ่อนคลาย  อย่างปัจจุบันนี้นั้น ยังมีสถานที่ได้พักใจกายให้คลายร้อนท่ามกลางแมกไม้  และกลิ่นอายธรรมชาติแห่งป่าดง  เป็นเสมือนดวงเทียนที่พราวแสงวิบวับขึ้นมาในยามค่ำคืนอันมืดมน

                นั่นคือแสงแห่งธรรมะที่ส่องประกายจากวัดป่า

                
                                                                        พระอธิการเอนกยสทินโน
                                      
               
มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์  ในท่ามกลางยุควัตถุนิยมสุดโต่งที่ธรรมชาติถูกตักตวง ขุดค้น ป่นทำลาย  ต้นไม้ถูกโค่นเผา  เคลื่อนย้ายหดหายไปทุกวัน  พื้นที่ป่ามีแต่จะเตียนโล่งไม่มีกฎหมาย  และข้อหวงห้ามใด ๆ สามารถขวางกั้นได้  แต่ป่าไม้ร่มรื่นที่วัดป่าแทบทุกแห่ง  โดยเฉพาะสาขาของวัดหนองป่าพงของหลวงปู่ชา (ชา  สุภทฺโท  หรือ  พระโพธิญาณเถร
) กลับยังเขียวครึ้มขยายอาณาเขตออกไปเรื่อย ๆ ด้วยแรงแห่งศรัทธาธรรม

                วัดป่าไทรงาม  อำเภอเดชอุดม  จังหวัดอุบลราชธานี  สาขาที่ ๑๐ ของวัดหนองป่าพง ก็เป็นที่หนึ่งในจำนวนดังกล่าว



                    
                                                                                   สวนธรรม

               
ตั้งแต่ทางแยกที่แยกจากถนนในตัวเมืองเดชอุดม  ผู้เข้าวัดจะเดินทางลอดทิวไม้ที่เรียงรายเป็นทิวแถวเหยียดยาว  เขียวครึ้มเหมือนลอดสู่คูหาในไพรพนา   ครั้นถึงประตูเข้าวัดก็มีหมู่ไทรใบหนาเอนกิ่งแผ่ใบปกคลุมห้อยย้อย  เป็นม่านให้ลอดผ่านสู่แดนสงบงามท่ามกลางแมกไม้นานาพรรณ  ที่ขึ้นเบียดเสียดคลุมเป็นหลังคาอยู่เบื้องบน เป็นที่อาศัยของเหล่านก กา กระรอก กระแต   ตลอดเหล่าแมลง แลกิ้งก่า  ส่วนเบื้องล่างนั้นประดับประดาตกแต่งด้วยสิ่งที่ผู้คนมองเมิน คือ แท่งหิน  กรวด ดิน ตอไม้ รากไม้ ตลอดของใช้เก่า ๆ โบร่ำโบราณ  ที่เคยไร้ค่า  แต่กลับกลายมาเป็นสิ่งที่
ผู้คนต้องมองตะลึง  ด้วยความคิดในการสรรสร้าง  จัดวาง  ที่แทรกไว้ด้วยหลักธรรมคำสอน และเรื่องราวแห่งพุทธศาสนา

           
                                                                             ร่มไม้ไทรงาม

               
แท่งหิน  ตอไม้  รากไม้เหล่านี้ เป็นสิ่งที่หลวงพ่อเจ้าอาวาส และพระลูกวัด พร้อมชาวบ้านไปมุดเอาขึ้นจากใต้น้ำลำโดมที่เขาสร้างเขื่อน น้ำท่วมจมหายโน่นแน่ะ  นั่นเป็นเสียงบอกเล่าจากชาวบ้านผู้อยู่ใกล้ชิดวัด  ผู้รู้เรื่องราวความเป็นมาของวัดดี

               

                หากคุณมาที่นี่เมื่อ ๓๐ ปีก่อน คุณจะต้องรีบเดินจ้ำอ้าวด้วยความสยดแสยง เชียว   เพราะที่สวยงามร่มรื่นแห่งนี้   ตอนนั้นคือป่าร้าง  หย่อมกลางเป็นโพนดินที่ฝังศพแห่งป่าช้า  บ้านตลาดเดชอุดม  เนื้อที่ประมาณ ๓๐ ไร่  รอบ ๆ คือทุ่งนาโล่งที่กลายมาเป็นป่าร่มครึ้มให้คุณน้อมกายลอดผ่านเป็นเนื้อที่ เกือบ ๒๐๐ ไร่ในปัจจุบัน


                        
                                                                                  ธรรมมะจากตอไม้

               
เดิมบริเวณนี้เป็นป่าช้า  มีต้นไทรใหญ่อยู่ต้นหนึ่งตรงโน้น...   เสียงเล่าของผู้อารี พร้อมชี้มือไปให้ดู     หลวงปู่ชาท่านมาธุดงค์ท่านพักใต้ร่มไทรนั้น  ต่อมาพ่อออกชาวบ้านสี่ห้าคนเดินทางไปขอให้หลวงปู่ชามาตั้งวัด  พ่อออกไทยวัฒนาในเมืองเดชก็ขอซื้อที่จากชาวบ้านเพิ่มให้  แล้วก็พากันสร้างกระท่อมมุงแฝกขึ้นเป็นศาลาชั่วคราว  หลวงพ่อเจ้าอาวาสองค์นี้เป็นประธานสงฆ์  นำพาพระเณร  และชาวบ้านสร้างสาพัฒนา  ท่านขยันมากไม่อยู่ไม่นอนหรอก     พูดยิ้ม ๆ ตาเป็นประกายเปี่ยมศรัทธาและเคารพรัก     ท่านได้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก องค์เดียวตลอดมา
 

                บอกคุณแล้วไงว่าป่าอื่น ๆ ในสภาพสังคมปัจจุบันมีแต่จะหดหายไปทุกวัน  แม้แต่ป่าสงวนที่มีกฎหมาย   มีงบแผ่นดิน มีเจ้าหน้าที่ดูแลกวดขัน  แต่ป่าในวัดป่าที่พระท่านฉันวันละมื้อไม่มีงบไทยเข้มแข็ง ไทยเอื้ออาทรมาลง  แต่ป่าดงกลับนับวันงอกเงยให้โลกคลายร้อน

                อำเภอเดชอุดม  อยู่ห่างจากตัวจังหวัดอุบลราชธานี ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร  ถนนหนทางสะดวกสบาย  หากจะไปทำบุญตอนเช้าออกจากอุบลฯเจ็ดโมงก็ทันจังหันทันได้ฟังธรรมะสบาย ๆ


                        
                                                                    แม่ชีวัดป่าไทรงาม

               
ตามธรรมเนียมวัดป่าสายหนองป่าพง  เช้า ๆ เมื่อพระท่านกลับจากบิณฑบาตท่านจะนำทุกอย่างในบาตรมารวมกันที่ศาลาโรงครัว  หากมีปิ่นโต หรืออาหารจากญาติโยมนำมาถวายสมทบก็จะจัดรวมกันที่นี่  แล้วยกไปถวายที่หอฉันอีกที 

                หลังวันพ่อปี ๕๒ หนึ่งวัน ยังเป็นวันหยุด เราสามคน มีผู้เขียน  อรพินเพื่อนรัก   กับหนุ่มขุนผู้ลูกชายชวนกันเดินทางลอดม่านไทรงามเข้าสู่ประตูวัด  จัดการนำอาหารไปรวมที่ศาลาแล้วก็ไปคอยหลวงพ่อเจ้าอาวาสอยู่ที่ หอฉันซึ่งปลูกสร้างตกแต่งกลมกลืนกับแมกไม้ และธรรมชาติจนดูคล้ายกับว่ามานั่งอยู่ ในถ้ำคูหา  อันเป็นบ้านักพิงของคนโบราณหลายร้อยปีผ่านมา  อาสนะที่ท่านหลวงพ่อนั่งเด่นเป็นสง่าอยู่ นั้น  ก็ดูดั่งว่าเราต่างย้อนยุคกลับไปอยู่ในสมัยพุทธกาล

                  
                 
                                                                   ในแมกไม้ใบบัง สงบร่มเย็น

               
นอกจากเราผู้สนใจในแดนธรรมแห่งไทรงามแล้ว  เช้านี้ยังมีผู้มาคอยพบหลวงพ่ออยู่ ๓ กลุ่ม ๓ จุดประสงค์   คือ  หนุ่มหน้าใสจากเมืองเดชอุดมคนหนึ่งมากราบมนัสการท่านเพื่อขออนุญาตนำชื่อท่านไปเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ที่เขาและชาวบ้านจะทำผ้าป่ามาถวายวัด  หลวงพ่อให้ข้อคิดเนิบช้า ชัดเจนว่า  ให้เป็นเรื่องของญาติโยมจะทำมาเถิด  อย่าเอาชื่อท่านไปเลย  มีชื่อวัดด้วยก็พออยู่แล้ว  เขาก้มลงกราบด้วยความเข้าใจ

               
ส่วนอีกคนเป็นคุณตาคนหนึ่ง  อายุมากแล้ว  มากราบขออนุญาตจากหลวงพ่อที่จะขายควายตัวหนึ่ง  ซึ่งฟังจากการสนทนาทำให้เราได้รับรู้ว่า   ที่วัดมีกองทุนควาย  ให้ชาวบ้านนำไปเลี้ยง  โดยมีกติกาตกลงก่อนว่าลูกของมันตัวแรกเป็นของกองทุน  ตัวต่อไปจะเป็นของผู้เลี้ยง แต่คุณตาจะมาขออนุญาตขายตัวแรก  หลวงปู่จึงไม่อนุญาต 

                ส่วนอีกคนเป็นคุณตาเช่นกัน  แต่คุณตาท่านนี้มากับลูกหลาน  มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ภรรยาผู้ล่วงลับ

                ที่เล่าให้ฟังนี้ เพื่อจะให้ได้เข้าใจความสัมพันธ์กับชุมชนของวัดป่า  ที่หลาย ๆ คนเห็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวทัศนาความสวยงาม  และเห็นว่าพระท่านอยู่สงบจนไม่เกี่ยวข้องกับภายนอก  แต่ที่จริงแล้ววัดก็มีกิจกรรมสำหรับชุมชนอยู่มากมาย  นอกเหนือจากการเป็นแหล่งธรรมะชำระจิตใจ


                      
                                                                           ทางเดินสู่ศาลา

               
ก่อนเวลาฉันจังหันวันนั้น  เราได้ฟังธรรมะจากหลวงพ่อ  ในหัวข้อ  ครอบครัวอบอุ่นทำให้คนเป็นสุข  ใจเป็นสุข  สังคมสงบสุข

                ท่านชี้ให้เห็นถึงสาเหตุทั้งหลายมาจากความโลภของคนในปัจจุบัน  ทำให้ละเลยภาระหน้าที่  หรือทำเกินเลยหน้าที่  ลูกไม่เป็นลูก  พ่อแม่ไม่เป็นพ่อแม่  ...  ครอบครัววุ่นวายความสุขจะเกิดขึ้นได้ฉันใด

                วันนี้  เป็นส่วนหนึ่งที่คุณตา  และลูกหลานของคุณยายผู้ล่วงลับไปได้มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้
                
ความแก่นั้นเป็นไปตามธรรมดา  เราจะระงับ  บังคับความแก่ไม่ให้มาเยี่ยมกรายนั้นไม่ได้  ไม่ว่าเราจะสรรหาเงินทองทรัพย์สมบัติมาได้มากมายเพียงใด  เป็นกฎเกณฑ์ที่มันเป็นไปของมันอย่างนั้น
  มันจะเป็นอยู่อย่างนั้น  มันเป็นของมันอยู่เรื่อย ๆ ทุกลมหายใจ

                หายใจเข้ามันก็เอาความแก่มาหาเรา  หายใจออกมันก็เอาความหนุ่มสาวของเราออกไป ทุกๆ ลมหายใจ

                ให้เราตระหนักรู้

                รู้ดั่งนี้แล้ว  คิดได้ดั่งนี้แล้วเราจะเบาสบาย ห่างไกลความโลภโมโทสัน

                ความเห็นแก่ตัวจะค่อย ๆ หมดลง 

                หลังจากรับพรแล้วเราก็ออกมาทานอาหารร่วมกันที่ศาลานอก  ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ให้ทุกคนแบ่งปัน  อาหารทุกอย่างที่มีจะต้องไม่มีเหลือที่วัด  ทุกอย่างที่เรานำไปถวายเหลือจากพระท่านแล้วก็จะแบ่งปันลงสู่ญาติโยม  และชาวบ้านผู้ปฏิบัติดูแลในวัด  วัดจึงเป็นสะพานทอดเชื่อมให้คนสองกลุ่มได้มีความสุขร่วมกัน  แรงศรัทธาจึงยังคงรินไหลไม่เคยขาดสาย 

                แรงศรัทธานี้นอกจากเกื้อหนุนให้ธรรมชาติ  ต้นไม้  ป่าไม้  นกหนู  ปูปีกได้คงอยู่  ยังเป็นแรงเกื้อหนุนให้ผู้คนได้พักพึ่งพิงทั้งใจและกายอีกด้วย

                ปัจจุบันวัดป่าไทรงามแพร่ขยายสาขาในเครือออกไปอีก ๓๐ วัดในแถบใกล้เคียง  ปกครอง ดูแล ร่วมใจรักษา  และปลูกเพิ่มผืนป่าโดยอาศัยธรรมะเป็นเนื้อที่รวมกันหลายพันไร่

                               

                                                                  เอื้อยนางกับอรพิน..เพื่อนสุดเลิฟ

               
และทุกวันที่  ๒๗  ธันวาคม ถึง ๑  มกราคมของปีถัดไป  เป็นประเพณีปฏิบัติธรรมประจำปีของวัด  ขอเชิญญาติโยมทุกคนที่สนใจเข้าร่วมรักษาศีลปฏิบัติธรรมได้    ลานธรรม  ที่วัดป่าไทรงามแห่งนี้  ลงทะเบียนเช้าวันที่ ๒๗  เวลา  แปดโมงเช้าเป็นต้นไป

                มีเวลาก็ลองไปปฏิบัติธรรมท่ามกลางแมกไม้ไทรงามกันนะคะ

๐๐๐๐๐๐

Tags : Religion Land Tour

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view