http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,002,128
Page Views16,310,947
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน3.เส้นสายลายคำ ที่คำปุน Khampun Ubon Weaving Centre, Thailand. โดย

ในคมขวาน3.เส้นสายลายคำ ที่คำปุน  Khampun  Ubon  Weaving  Centre, Thailand. โดย

ในคมขวาน๓ 

เส้นสายลายคำ ที่คำปุน 

Khampun  Ubon  Weaving  Centre, Thailand. 

โดย  “สาวภูไท” 

                คำ  ในภาษาลาวอีสานแต่โบราณมาหมายถึงทองคำ  และทุกสิ่งทุกอย่างที่มีค่าในสายตา  ในความรู้สึกรัก  และหวงแหน  แม้บุคคลอันเป็นที่รักและหวงแหนอย่างเด็กในครอบครัวที่ผู้ใหญ่แสนรักและห่วงหวงมักถูกเรียกด้วยคำหวานหูจ้อย ๆ เช่น  “คำเอย” “คำน้อย”  “คำหล้า”  “คำแพง”   “คำพอ”  “สายคำ”  .....  ล้วนแสดงว่าผู้ถูกเรียกนั้นมีค่ายิ่งนักยกความรักให้สุดจิตสุดใจเลยทีเดียว  คนที่มีชื่อ “คำ” นำหน้า  หรือต่อท้ายจึงเสมือนเป็นตัวแทนแห่งความรัก ความหวงแหน

            คำปุน  ที่จะพาไปรู้จักวันนี้ก็มีความหมายไม่แตกต่างจากที่กล่าว  คำปุนวันนี้เป็นความรักความภูมิใจของไทอุบลราชธานีอย่างแท้จริง

            เดิมทีเดียวเรารู้จักคำปุนด้วยสินค้าผ้าไหมทอมือสวยล้ำ  เลอค่า  มักซื้อไปเป็นของฝากจากใจที่ปีติปลื้มเปรมทั้งผู้ให้และผู้รับ  หลัง ๆ มานี้เรารู้จักคำปุนในสัญลักษณ์แห่งมูนมังมรดกทางวัฒนธรรมล้ำค่าของอุบลราชธานี  ที่หน่วยงานทางราชการที่มีหน้าที่ในด้านนี้ยังต้องอายม้วน

            โดยเฉพาะในด้านการทอผ้าไหม  ที่คุณแม่คำปุน  ศรีใสรักเป็นชีวิตจิตใจ  จึงเก็บกำทุกอย่างที่เป็นอุปกรณ์ กระบวนการผลิตด้วยกี่แบบพื้นบ้านอุบลราชธานี  เมื่อมีแรงสนุบสนุนจากลูกชายนักออกแบบที่มีหัวใจเดียวกันแล้ว  ความรู้สมัยใหม่  ผสมผสานงานฝีมือมรดกของแม่  บ้านคำปุนจึงกลายเป็นดั่งพิพิธภัณฑ์แสดงถึงวิถีชีวิตคนทอผ้าด้วยกี่ที่สืบทอดความเป็นอุบลราชธานีได้อย่างภาคภูมิใจ

            ผ้าทอเมืองอุบลเคยมีชื่อเสียงว่าสวยงามล้ำค่ามาแต่อดีตในสมัยบุกเบิกสร้างบ้านแปงเมืองใหม่ ๆ บรรพบุรุษชาวอุบลเชื้อสายเวียงจันทน์และจำปาศักดิ์ได้ย้ายครอบครัวอพยพมาตั้ง ณ ดอนมดแดง  ดงอู่ผึ้ง  บ้านห้วยแจะระแม  ริมฝั่งแม่น้ำมูล  สตรีชาวเมืองอุบลยังคงสืบทอดศิลปะการทอผ้าด้วยฝีมือฝีเท้า(เหยียบกี่)และมันสมองคิดออกแบบลวดลาย จากการเก็บขิด มัดหมี่ ลายถี่ ลายห่าง หมี่คั่น  หมี่ขอ  หมี่มับไม   ไหมเงิน  ไหมคำ  ลายล่อง  ลายขวาง ลายพญานาค  ลายดอกจิกดอกผักแว่นมากมายที่พัฒนาให้สวยขึ้นเรื่อย ๆ มา

            สมัยเจ้าพรหมเทวานุเคราะห์เจ้าเมืองอุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช  เป็นผู้ที่มีสายสัมพันธ์กับราชสำนักรัตนโกสินทร์  ได้ส่งของกำนัลเป็นผ้าทอพื้นเมืองอุบลไปทูลเกล้าฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัวและขุนนางผู้ใหญ่ในราชสำนักกรุงเทพฯเป็นจำนวนมาก เช่น ไหมลาวต่างสี ๑๐๐ ผืน  ผ้าขาวลาว ๑๐๐ พับ (ร.ต.สุนัย ณ อุบล ๒๕๓๕)  ต่อมาครั้นพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นสรรพสิทธิประสงค์มาดำรงค์ตำแหน่งข้าหลวงใหญ่ต่างพระองค์(รัชกาลที่๕)สำเร็จราชการมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ ณ อุบลราชธานี ได้ส่งผ้าไหมอุบลไปทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ซึ่งได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาตอบมาดด้วยความชื่นชมความงามแห่งผ้านั้น

            วัฒนธรรมการใช้ผ้าทอแต่เดิมมาจะแยกแบบ แยกลาย และเทคนิคการทอเป็นผ้าที่ใช้ในโอกาสต่าง ๆ ผ้านุ่ง ผ้าผืนแพรวา  ผ้าถือ ผ้าห่ม  ผ้าถวายพระ  ผ้าห่อคัมภีร์ใบลาน ผ้าทำธง(ทุง)  ผ้าสำหรับผู้หญิง  ผ้าสำหรับผู้ชายจะไม่ปะปนกัน  ครั้นยุคสมัยเปลี่ยนผันความสวยงามแห่งผืนผ้าและลวดลายยั่วใจให้นำไปตัดเป็นเสื้อผ้าทั้งผู้หญิงผู้ชายไม่แบ่งแยกอีก  ผ้าทอก็ยิ่งเฟื่องฟู  ข้าราชการ  พนักงานของรัฐ  ครูอาจารย์หันมาให้เป็นเอกลักษณ์กันทั่วไป

            ยุคกลุ่มสีเฟื่องฟู  ผ้าทอจากโรงงานมากลืนกลบแทบทำให้เราลืมมรดกชิ้นนี้ไปเสียสิ้น  ร้านโอทอป  กลุ่มผ้าทอ  กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้านมีอาการหายใจรวยรินกันทั่ว

            ไม่นึกเลยว่าวันเข้าพรรษาปี ๕๔ จะบังเอิญโชคดี ด้วยหนูเปิ้ลผู้กระตือรือร้นได้กระหืดกระหอบมาบอกว่า  บ้านคำปุนเปิดให้ชมวันนี้

            “จริงเหรอ  งั้นจะช้าอยู่ไย  ไปกันทันทีเลย”

            คำปุน  แห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งอำเภอวารินชำราบ  ริมถนนสายอุบล-ศรีสะเกษ ห่างจากโรงเรียนวารินชำราบไปนิดเดียว   เป็นสถานที่ผลิตผ้าไหมลายคำอย่างมัดหมี่ กาบบัว เก็บขิด ด้วยกี่พื้นเมืองกระบวนการทั้งหมดใช้มือแบบดั้งเดิม  เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์จะเปิดต้อนรับผู้มาเยือนเพียงปีละครั้ง เพียง ๑ วันเท่านั้น  ส่วนมากเราอยากเข้าชมแต่มักจะลืม ๆ ไปว่าวันไหนกันแน่จึงได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่นี้ไม่บ่อยนัก  เพราะหากต้องการสินค้าของคำปุนก็ไปที่ร้านในตัวเมืองอุบลอยู่แล้ว    

            ไม่ผิดหรอกที่จั่วหัวเรื่องว่า เส้นไหมลายคำที่คำปุน

            Khampun  Ubon  Weaving  Centre  Thailand   เลขที่ ๓๓๑ ถ.ศรีสะเกษ  อ.วารินชำราบ  อุบลราชธานี โทร.๐๔๕-๔๒๔๑๒๒ ในเทศกาลแห่เทียนพรรษา ของทุกปีจะเปิดต้อนรับผู้มาเยือนเพียงปีละหนึ่งครั้งจึงทำให้รอคอยซึ่งก็มักลืมไปบ่อย ๆ แต่ได้เข้าเยือนแล้วก็คุ้มค่าด้วยความเจริญตาเจริญใจภาคภูมิใจที่เห็นวิถีอุบลราชธานีในอดีตปรากฏเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะศิลปะการทอผ้า

        วิถีทอผ้าในอดีตที่ใช้พัฒนาลวดลายแสนงามล้ำค่ามาจนปัจจุบันของคำปุน  มิใช่จะแสนงามล้ำค่าเฉพาะในชิ้นงาน  แต่ยังรวมถึงน้ำใจของผู้เป็นเจ้าของที่แผ่ขยายออกไปยังอุบลราชธานีใจส่วนอื่น ๆ

            ลายคำจากคำปุนจึงหมายถึงคำในหัวใจด้วย

            ปีนี้เป็นปีที่ ๑๓ แล้ว ที่บ้านคำปุนและกลุ่มมูนเมืองเปิดให้เข้าชมนิทรรศการ  รวม ๒ วัน คือวันที่ ๑๕ และ ๑๖ กรกฏาคมที่ผ่านมา  โดยเก็บค่าผ่านประตูท่านละ ๑๐๐ บาทเพื่อนำรายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เป็นทุนสนับสนุนพิพิธภัณฑ์ศรีอุบลรัตนาราม  อีกส่วนให้แก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนและการกุศลอื่น ๆ ดังที่คำปุนเคยทำมา   อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้วได้นำไปช่วยมูลนิธิบ้านโฮมฮัก  ๒๐,๐๐๐ บาท   สมทบในการสร้างลวดลายดินเผาประดับหน้าบันวัดป่านานาชาติอุบลราชธานี ๕๐,๐๐๐ บาท   ถวายเป็นปัจจัยบำรุงเสนาสนะ  วัดภูจ้อมก้อม อ.โขงเจียม  อุบลราชธานี  ๕๐,๐๐๐ บาท  บริจาคศูนย์การแพทย์ชุมชนวัดใต้(พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ)  ๔๗,๘๕๐ บาท  สมทบกองทุนเพื่อเป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่และค่าดูแลพิพิธภัณฑ์วัดศรีอุบลรัตนาราม ๕๐,๐๐๐ บาท.

             ขอบคุณ  คุณแม่คำปุน  ศรีใส  และคุณมีชัย  แต้สุจริยา ทรัพยากรบุคคลล้ำค่าของชาวอุบล  ที่เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ทัศนาความสวยงาม  แล้วยังได้ฟังเพลงกันตรึม ดนตรีเพราะ ๆ ของน้อง ๆ จากสุรินทร์ด้วย  นี่เป็นสิ่งหนึ่งควรปรบมือให้คุณมีชัยผู้มองเห็นคุณค่าของดนตรีพื้นบ้านอีสานใต้ด้วยค่ะ

๐๐๐๐๐๐

 

Tags : ในคมขวาน2.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view