http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,068,067
Page Views16,380,571
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน๗กระทงหลวง ลอยล่อง ณ สระพังทองสกลนครโดยสาวภูไท

ในคมขวาน๗กระทงหลวง ลอยล่อง ณ สระพังทองสกลนครโดยสาวภูไท

ในคมขวาน๗

กระทงหลวง ลอยล่อง ณ สระพังทองสกลนคร

สาวภูไท

 

            วันลอยกระทงปี๕๔ มีโอกาสเดินทางจากชายทุ่งกุลาร้องไห้ในแอ่งโคราชข้ามเทือกภูพานสู่แอ่งสกลนคร  ในช่วงบ่ายคล้อย ๆ สายลมวอย ๆ พัดทิวข้าวที่กำลังเหลืองอร่ามทั่วท้องทุ่งให้เอนพลิ้ว

          ตั้งแต่สารคามผ่านกาฬสินธุ์สู่สกลนครหากผ่านช่วงที่เป็นชุมชนตัวเมือง จะเห็นรถติดขลุกขลักขึ้นมาทันที   เพราะมีขบวนแห่กระทงยาวเหยียด อวดความสวยงาม โดดเด่นเต็มท้องถนน  กระทงใหญ่โตมโหฬารประดับ ตกแต่ง ด้วยดอกไม้  ใบไม้  ผ้าผืน  แพรวา มาบนรถยนต์คันโต  โดยมีขบวนนักดนตรีปี่แคนและผู้คนร่ายรำนำหน้า  ซึ่งมีทั้งแบบสวยงามตามธรรมเนียมนาฏศิลป์ของกรมศิลป์ที่เผยแพร่ในกระบวนการเรียนการสอนตามสถานศึกษา  และแบบร่ายรำเสรีที่มีทั้งเต้น ทั้งฟ้อนอ่อนแอ่น วาดแขน  แกว่งขาตามจังหวะสนุกสนานประสาชาวบ้านอีสานทั่วไป

           เราอยู่กรุงเทพกำลังทุกข์หนาสาหัสด้วยมหาอุทกภัยจนลืมไปเลยว่าเคยมีเทศกาลลอยกระทง  หันหน้ามาบ้านกลับเห็นความผ่องใส   เห็นความสวยงามพร้อมการสืบสานประเพณีให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความหวังในชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

           รถถึงสกลนครเมื่อเวลาหกนาฬิกาตะวันตกดินไปแล้วเป็นเวลาแห่งการจุดประทีปลอยกระทงของชาวสกลนครพอดี  มีชื่อเรียกขานตามภาษาถิ่นว่า  เทศกาลสิบสองเพ็งไทสกล  ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณสระพังทอง ริมหนองหานด้านทิศตะวันออกของตัวเมืองสกลนคร

            สระพังทองสกลนคร  เดิมเป็นบารายในคติขอมโบราณ  ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดกับหนองหานอันกว้างใหญ่เอกลักษณ์ของสกลนคร  บริเวณใกล้กันจัดเป็นสวนสมเด็จพระศรีนัครินทร์สกลนคร  ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใช้เป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองท่ามกลางบรรยากาศอันสดชื่นเย็นสบายด้วยสายลมและเงาไม้ชายน้ำ  เป็นที่สำหรับจัดงานรื่นเริง  งานเทศกาลต่าง ๆ ด้วย

            พื้นดินถิ่นสกลนครในอดีตเคยเป็นบ้านเมืองส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรขอมโบราณ  ตำนาน  นิทานพื้นบ้านหลายเรื่องมักกล่าวถึงพระยาขอมผู้เป็นใหญ่  ปัจจุบันมีร่องรอยเหลือปรากฏอยู่เป็นสถาปัตยกรรมปราสาทหินหลายแห่ง เช่น สะพานขอม  ปราสาทหินนารายณ์เจงเวง  ปราสาทหินภูเพ็ก  พระธาตุดุม  และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระธาตุเชิงชุมซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับบริเวณนี้

            สระพังทองเป็นสระน้ำกว้างใหญ่รูปสี่เหลี่ยมริมหนองหานมีน้ำขังตลอดปี  เชื่อว่าเป็นบารายที่มีความเกี่ยวพันกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระธาตุเชิงชุม  มีเรื่องที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่ามาว่า  หากใครทำครุ  หรือถังตักน้ำหล่นลงไปในบ่อน้ำแห่งนี้ให้ไปคอยเก็บเอาที่สระพังทอง  เพราะด้านล่างมีอุโมงค์ทะลุถึงกัน  เรียกว่าภูน้ำลอด ซึ่งถ้าวัดระยะทางคงได้หลายร้อยเมตร

            สระพังทองจึงเป็นเสมือนหัวใจของสกลนคร  และประเพณีสิบสองเพ็งไทสกลก็จัดขึ้น ณ สระน้ำกว้างใหญ่แห่งนี้

            พระจันทร์ดวงโตลอยเด่นอยู่บนขอบฟ้าด้านหนองหาน  คล้ายจะมาส่องเยี่ยมดูผู้คนที่แออัดคลาคล่ำ ณ ลานเหนือสวนสมเด็จฯในค่ำคืนแห่งมนตร์ขลัง  ต่อเนื่องออกไปเป็นถนนด้านหลังวัดพระธาตุเชิงชุมนั้นมีร้านค้าร้านขายผุดเรียงราย เป็นเส้นเป็นสาย  สินค้าที่ผุดพรายมาล่อตาล่อใจให้ซื้อก็คือกระทงใบน้อยประดับด้วยดอกไม้สวยสดใส  ให้ความสะดวกแก่ผู้มาเที่ยวงานและอยากลอยกระทงริมหนองหานบ้าง   กระทงทั้งหมดเป็นกระทงทำจากใบตอง  ประดับด้วยดอกไม้สด  เสียบธูปและเทียนไว้ตรงกลาง  บางร้านนั่งทำไปด้วยขายไปด้วย  เรียกว่าทำกันสด ๆ เลยทีเดียว

            ริมตลิ่งที่ทอดยาวของสระพังทองค่ำคืนนี้จึงวิบวับ เรืองรองไปด้วยแสงประทีปจากกระทงน้อยที่ล่องลอยในผืนน้ำ

            และกระทงสำคัญที่ใคร ๆ ก็มุ่งหน้ามาชมในค่ำคืนนี้ คือ กระทงพระประทีบพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ที่พระราชทาน แก่ชาวสกลนครเป็นประเพณีสืบมานับเนื่องหลายสิบปี  เรียกกันติดปากว่ากระทงหลวง

          นับเป็นบุญตา  บุญใจให้ประชาราษฎร์ชาวสกลนครในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงให้กระทงหลวงลงลอยล่องในสระพังทอง

            หลังอำนาจขอมเสื่อมเมืองหนองหานใหญ่แห่งนี้อยู่ในอิทธิพลของล้านช้าง  และมีชาวพื้นถิ่นหลากหลายเผ่าพันธุ์อยู่อาศัย เช่น ไทย้อ ไทโย้ย ไทกะเลิง  ไทญวน  และผู้ไท อยู่ผสมผสานหล่อหลอมเป็นไทสกลมีวัฒธรรมประเพณีฮีตสิบสองสืบสานต่อเนื่องมายาวนาน 

            ครั้นปี พ.ศ. ๒๕๑๘  เป็นความภาคภูมิใจใหญ่หลวงก่อเกิดกับชาวสกลนครและจังหวัดใกล้เคียง  ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ได้เสด็จแปรพระราชฐานพักแรม ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์  บนภูพานในเขตจังหวัดสกลนครซึ่งเป็นปีแรก  และต่อเนื่องมาทุกปี  และบังเอิญว่าช่วงเวลาเสด็จมานั้นเป็นช่วงเทศกาลสิบสองเพ็งไทสกลพอดี  จึงได้มีการขอพระราชทานพระประทีปกระทงหลวงเพื่อร่วมลงลอยในสระพังทอง  และได้รับพระมหากรุณาธิคุณประทานให้ในมีแรก พ.ศ.๒๕๒๒  นับเป็นความปลื้มปิติของชาวสกล  มีการตั้งขบวนแห่ไปรอบเมือง ก่อนนำไปประกอบพิธีลอยในสระพังทองดั่งในค่ำคืนแห่งเพ็ง(วันเพ็ญ)เดือนสิบสองที่ผ่านมา

           น้ำในแม่เจ้าช่วงเวลานี้เอ่อนองเข้าท่วมกรุงเทพฯ  กลายเป็นน้ำเน่าเหม็นที่ทุกคนขยะแขยง  แต่ผืนน้ำในสระพังทองยังมีกระทงที่เต็มเปี่ยมด้วยแรงอธิษฐาน  ของผู้คนทั้ง  หนุ่มสาว  ผู้เฒ่า  และเด็กน้อยลอยล่องออกไปกลางสายน้ำ  ห้อมล้อมกระทงหลวงดูราวกับดาวล้อมเดือน  

            ฤาเป็นดาวจากฟากฟ้าได้ลอยลงมากะพริบพราว ระยิบระยับในสระพังทอง

๐๐๐๐๐

           

 

 

 

           

 

Tags : ในคมขวาน 6

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view