หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
ลุยหมอกหยอกความหนาวเหน็บที่อุทยานแห่งชาตินันทบุรี
โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
หนาวปีนี้ ป่านโชคดีที่ได้ร่วมไปกับคณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ เพื่อส่งเสริมการศึกษาต่อเนื่องให้กับเด็กด้อยโอกาส แล้วก็ได้ไปท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศจากที่พักกลางหุบเขาเดิมๆ ปีนี้ ได้ไปพักแรมที่หน่วยฯดอยกาด อ.ปง จ.พะเยา แต่กลับได้ไปสัมผัสบรรยากาศยามเช้าอีกแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน อุทยานแห่งชาตินันทบุรี อ.ท่าวังผา จ.น่าน กำไรเกินเงินที่ได้ร่วมบริจาคไปกับการให้ทุนเยาวชน ปีหน้า คณะกรรมการมูลนิธิฯจะพาไปไหนอีกหรือ ต้องรอข่าวสารจากสุดยอดประธานกรรมการมูลนิธิ อุดม หิรัญพฤกษ์ จะขอตามไปอีกน่ะค่ะ
หลังจากประชุมคณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์เพื่อการศึกษาต่อเนื่อง และมูลนิธิเฮียะ เปาอินทร์ เพื่อผู้สูงอายุ บำนาญประชาชน ที่อำเภอนาน้อย จัหวัดน่าน คณะกรรมการทั้งหมดก็ได้เดินทางกันต่อมายังจังหวัดน่าน แล้วก็เลยขึ้นไปที่อำเภอท่าวังผา ถนนเรียบวิ่งรถยนต์ได้สบายมากๆ ถึงตลาดก็เดินจ่ายอาหารหวานคาวกันสารพัดสารเพตามปากอยากกินของแต่ละคน ซึ่งตลาดอำเภอท่าวังผานี้พัฒนาไปมากกว่าแต่เก่าก่อน อาคารโล่งโปร่งน่าเดินซื้อ อาหารก็มีทั้งอาหารพื้นเมืองและอาหารภาคกลาง มีให้เลือกตามชอบทีเดียว
อ้อ มีข้าวหลามกระบอกย้าวยาวด้วยค่ะ
จากนั้นเดินทางไปยังเป้าหมาย หน่วยฯดอยกาด แต่ก่อนเข้าถึงต้องผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาตินันทบุรี และหน่วยจัดการต้นน้ำดอยวาว สามหน่วยงานบนยอดดอยแห่งนี้เรียงกันอยู่บนเทือกเดียวกัน แต่แตกต่างในลักษณะงานโดยสิ้นเชิง หน่วยฯดอยวาว ปลูกป่าต้นน้ำ หน่วยฯดอยกาดทำงานวิจัยต้นน้ำ และอุทยานแห่งชาตินันทบุรีให้ท่องเที่ยวตามเจตจำนงค์วัตถุประสงค์ของการจัดการอุทยานแห่งชาติ
เมื่อถึงดอยกาดได้พักแรมด้วยบรรยากาศหนาวจัด แต่ก็ไม่หนาวเจ็บอย่างปีก่อนๆ บางคนนอนบ้านพัก บางคนนอนในที่ทำการแบบง่ายๆ บางคนไปนอนในเต็นท์ที่กางหน้าสำนักงาน คุยกันว่า ปีนี้ อยากไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จึงได้ตั้งเวลากันว่า ตี ห้า ต้องตื่นเพื่อขับรถยนต์ลุยขึ้นไป
หมอกไม่จับตัวก็ฟุ้งงามไปอีกมิติ
เจ-ธีรภาพ พัฒนใหญ่ยิ่ง นักศึกษาสารสนเทศ มหาวิทยาลัยพะเยา ขันอาสาเป็นโชว์เฟอร์นำทางเช่นเคย รถยนต์โฟร์วีลแล่นบุกไปตามทางลูกรังที่ผ่านลาดเนินเขาสูง หมอกลงพรางตาน่าหวาดเสียว แต่เราก็ไปจนถึงตามเวลา รถจอดหน้าที่ทำการศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาตินันทบุรีเรียบร้อยก็ออกจากรถเพื่อเดินไปหามุมถ่ายรูป
เจ-ธีรภาพ พัฒนใหญ่ยิ่ง นำทางทุกครั้งทุกปี
แต่ อนิจจา ฟ้าหม่นไปทั้งดอย หมอกที่ควรเป็นทะเลหมอกเหมือนในภาพของอุทยานฯกลับกลายเป็นฟุ้งกระจายพรัดพรายไปทั่วบริเวณ ครอบคลุมไปทั้งพื้นที่จนแทบมองไม่เห็นตัวศูนย์บริการฯ ป้ายบอกจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นลางเลือนอยู่ในหมอก ภาพที่ถ่ายได้ต้องใช้โหมดแสงน้อย และต้องใช้ขาตั้งกล้องหรือขาตั้งดินแทน มิเช่นนั้นก็จะได้ภาพที่ไม่คมชัดพอจะนำมาใช้งานได้
บ้านเกวียนน่ารักอุทยานแห่งชาตินันทบุรี
อุทยานแห่งชาตินันทบุรีตั้งขึ้นเมื่อพ.ศ. 2537 พื้นที่รับผิดชอบ 283,319 ไร่ ครอบคลุมอำเภอบ้านหลวง อำเภอท่าวังผาบางส่วน อำเภอเมืองจังหวัดน่าน เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว-น้ำสวด เป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำและห้วยหลายสาย ซึ่งทุกสายเป็นห้วยสาขาของแม่น้ำน่าน นั่นคือไหลไปลงสู่แม่น้ำน่าน แต่ก็มีบางส่วนเป็นป่าต้นน้ำคาง ไหลไปลงลุ่มน้ำยม
พื้นที่ป่าเป็นภูเขาสูงชัน สลับซับซ้อน ความสูงสุดยอดอยู่ที่ดอยวาว สูง 1,710 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ความลาดชันกว่า 50 % เทือกเขาทอดยาวจากเหนือลงใต้ ไม้ป่าที่มีเป็นป่าดงดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง จึงมีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดขึ้นผสมผสานกันอยู่ ส่วนสัตว์ป่าก็หลากหลายชนิด เช่น เก้ง อีเห็นข้างลาย หมาไม้ ฯลฯ
บ้านพักแรมที่อนุญาติให้พักได้ 3 หลัง กระท่อมเกวียนพักคู่อีก 5 หลัง ลานกางเต็นท์ ไม่น้อยกว่า 50 หลัง สนใจไปพักแรมติดต่อตรงที่หัวหน้าอุทยานชื่อคุณ ทองหล่อ วรินทร์ โทร.089-9992420
บ้านพักในสายหมอก
การเดินทางไปง่ายๆดังนี้คือ จากจังหวัดน่านวิ่งรถไปตามถนนสาย 1080 ถึงตลาดท่าวังผาระยะทาง 45 กม. วิ่งเลยไปตามถนนสาย 1148 (ท่าวังผา-สองแคว) ระยะทาง 1.5 กม. แยกไปตามถนนสาย 1082 (บ้านนาหนุน-สบขุ่น) ผ่านบ้านม้งดอยติ้ว ถึงหลัก กม.27 แยกขวามือไปอีกเพียง 500 เมตรถึงอุทยานค่ะ
ร้านอาหารสวัสดิการ
ว่ากันว่าชมพระอาทิตย์อัสดงสวยงามที่สุด
ถ้าหมอกไม่ฟุ้ง จะได้เห็นภาพอย่างนี้