ไหว้พระพุทธบาทพลวง ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี
โดย น้ำ-รัชนี เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
สวัสดีค่ะพี่น้องชาวทองไทยแลนด์ วันนี้น้ำมีเส้นทางบุญมาฝากให้พี่ๆน้องๆชาวทองไทยแลนด์ได้อิ่มบุญกันทุกคน เนื่องจากเมื่อ2วันที่แล้วน้ำได้มีโอกาสพาครอบครัวไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ณ ยอดเขาคิชฌกูฏ จึงอยากเชิญชวนนักแสวงบุญให้มาได้บุญร่วมกันค่ะ เส้นทางบุญนี้ก็คือ พระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
บนยอดเขาคิชฌกูฏ ที่อยู่สูงเทียมเมฆนั้น เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย 1, 050 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง อันเป็นจุดสูงที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ทุกๆปีในช่วงที่เปิดให้มีการขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาท จะมีพุทธศาสนิกชนจาริกแสวงบุญมายังยอดเขาแห่งนี้เป็นจำนวนมาก เพื่อมาสักการะแผ่นหินซึ่งเชื่อว่าพระพุทธองค์ทรงมาประทับรอยพระบาทไว้ ด้วยความศรัทธาและความเชื่อในอานิสงส์ที่แรงกล้าว่าการได้นมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ถือเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัวและชีวิต
รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ มีลักษณะเป็นรอยบนหินแผ่นใหญ่ มีรอยลึกประมาณ 2 เมตรเศษ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ค้นพบที่ยอดเขาพระบาทห่างจากที่ทำการอุทยานเขาคิชฌกูฏราว 4 กม. และต้องเดินเท้าไปสู่ยอดเขาอีกราว 3 กม. มีประวัติว่ารอยพระพุทธบาทนี้ได้ค้นพบโดยนายพรานหาของป่า ที่เดินขึ้นไปบนเขาคิชฌกูฏเมื่อปี พ.ศ.2397 ซึ่งได้พบกับแหวนนาคขนาดใหญ่ และแผ่นหินที่มีรูปก้นหอยเหมือนรอยเท้า จึงได้แจ้งให้กับหลวงพ่อเพชรเจ้าคณะจังหวัดทราบ เมื่อตรวจสอบดูก็พบรอยพระพุทธบาทนั้นจริง
ชาวบ้านต่างก็พากันขึ้นมานมัสการจนกลายเป็นประเพณีสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้
ในบริเวณยอดเขาคิชฌกูฏนั้นยังมีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับตำนานและความเชื่อทางพระพุทธศาสนา เช่นก้อนหินขนาดใหญ่มีรูปคล้ายกับบาตรพระคว่ำ ใกล้กับหินรูปรอยพระพุทธบาท ศิลาเจดีย์รอยพระหัตถ์ รอยเท้าพญามาร ถ้ำฤๅษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินที่มีรูปร่างคล้ายเต่า และช้างขนาดยักษ์เป็นต้น
เดิมทีพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักอีกชื่อว่าพระบาทพลวง แต่ในปี พ.ศ.2515 พระครูธรรมสรคุณ ผู้เป็นหลักในการพัฒนาพระบาทพลวง ได้เสนอให้นำชื่อของเขาคิชฌกูฏจากพุทธประวัติมาใช้เป็นชื่อของภูเขาลูกนี้ ซึ่งประวัติของเขาคิชฌกูฏคือเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงราชคฤห์ มีคันธกุฎีซึ่งเคยเป็นสถานที่ประทับของพระพุทธเจ้าในอดีต เพื่อเป็นที่รำลึกถึงพระองค์และแสดงถึงความเจริญในพระพุทธศาสนาอย่างสูงส่งของประเทศไทย
เทศกาลงานประเพณีคือเปิดให้ขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) จะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ประมาณปลายเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม รวมระยะเวลา 2 เดือน และในปีนี้อยู่ระหว่างวันที่ 24มกราคม 2555 – 24 มีนาคม 2555 ใครที่ยังไม่ได้ไปกราบไหว้ตามความเชื่อที่มีมาเนิ่นนาน ก็ขอให้รีบไปเสีย อีกไม่นานก็จะปิดการให้เข้าถึงได้
เชื่อไหม เพียงช่วงเวลา 2 เดือนที่เปิดให้พุทธศาสนิกชนคนพุทธได้เข้าไปกราบไหว้นั้น มีจำนวนถึงปีละกว่า 800,000 คน นี่คือสถิติการท่องเที่ยวผ่านอุทยานแห่งชาติเขาคิชกูฏ แต่ทรัพยากรท่องเที่ยวทางธรรมชาติของอุทยานฯ เช่น น้ำตก พันธุ์พืช และสัตว์ป่า กลับเป็นเพียงเสริมการท่องเที่ยวไปเสียแล้ว