http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,013,221
Page Views16,322,478
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 30. ของกลาง โดย อินทรี ดำ เรื่อง

เสือกลิ่นสาบ ตอน 30. ของกลาง โดย อินทรี ดำ เรื่อง

เสือกลิ่นสาบ

ตอน 30. ของกลาง

โดยอินทรีดำ

                  มณีเดินทางกลับไปจังหวัดน่าน ไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความพิพักพิพ่วนเหลือกำลัง เหตุการณ์ที่เผชิญมานั้นสะเทือนใจ

                 แต่เมื่อมาถึงที่ทำงาน มณีต้องปั้นหน้าเหมือนว่าเหตุการณ์ทุกอย่าง ปกติ

                 จะตีอกชกหัวประจานตนอย่างนั้นหรือ มณีทำไม่ได้ สิ่งที่มณีทำได้คือการรวมพลังทั้งของตัวเองและเพื่อนร่วมงาน ออกตรวจการ นึกในใจ ทำไปจนกว่าจะเปลี่ยนแปลง

                 หน้าที่หลักยังเป็นสายสำนัก สมชายทำหน้าที่พลขับ ประเสริฐทำหน้าที่ประกบสมชาย มณีนั่งขอบหน้าต่างตามถนัด ส่วน สวัสดิ์ อ้วน สา นั่งอยู่กระบะท้ายปีศาจขาวเหมือนเดิม  อุปกรณ์จำพวกปืนลูกซอง 2 กระบอกวางนอนกับพื้นกระบะ มีด ขวาน พลั่ว และกระติกน้ำเหน็บเอวแต่ละคน เว้นแต่มณี อาศัยกินจากทุกคน

                   “ซ้ายหรือขวาพี่” สมชายร้องถามเหมือนทุกครั้ง

                  “ซ้าย” สมชายตีวงขึ้นไปซ้ายแล้วก็ไม่มีการถามอีก รู้กันว่า น่าจะวิ่งไปเรื่อยๆ

                   มณีนั่งนิ่งผิดปกติ ประเสริฐนิ่งเหมือนที่เขาเป็นอยู่ สมชายสงบปากสงบคำกว่าปกติ ค่ำนี้จึงผิดปกติกันไปหมด

                   ปีศาจขาวห้อตะบึงไปตามแรงเหยียบ ไฟหน้าส่องสว่างกระทบไหล่ถนนซ้ายทีขวาที เสียงล้อรถที่บดเบียดดังกว่าเสียงที่เคยพูดคุยกัน พฤติกรรมเยี่ยงนี้ นานจึงจะเกิดขึ้นสักที

                   คนใจลอย รถก็วิ่งเลื่อนลอย

                   กว่าสี่สิบนาที รถปีศาจขาวแล่นเข้าเวียงสา ผ่านตลาดแล้วกำลังจะเลยไปทางร้องกวาง มณีสั่งให้จอดหน้าร้านจวนเจ้าเก่า ทุกคนลงแล้วเดินตามกันเข้าไปท่าทาง “งงๆ”      

                   เลือกมุมนั่งตามสูตร หลังพิงหันหน้าออกประตูทางเข้า มุมมืดกว่าได้ทิศทางดีกว่า บริกรร่อนเข้ามาตามหน้าที่    

                   “ชุดใหญ่  กับแกล้มอย่างเก่า”    สมชายสั่งเสียงดังฟังชัดพร้อมกับขยับเสื้อวอร์ม

คลุมชุดเครื่องแบบสีกากี  ประเสริฐนั่งชิดมณี ทุกคนวนกันไปตามที่เคยนั่ง สีหน้ายังงงงันว่าเกิดอะไรขึ้น หัวหน้ากำลังคิดและทำอยู่นี้เพื่ออะไรกัน

                   สมชายใจเร็วด่วนได้ ถามขึ้น

                   “พี่.. เลี้ยงเรื่องอะไรเนี้ย” สมชายเอ่ยเอื้อน

                     “เรื่องอยากเลี้ยง” มณีตอบแล้วยิ้ม มองหน้าที่ละคนๆ

                     “มีปัญหาด้วยเหรอะ” มณีย้อนอีกประโยค ทุกคนยิ้มแล้วหัวเราะครืน

                     “ยก เพื่อพี่มณี เจ้าภาพคืนนี้ เฮ “ เสียงสมชายดังลั่นทุกคนปฏิบัติเต็มเครื่อง และได้เสียงเฮดังลั่นร้าน

                     เสียงพูดคุย เสียงตอบโต้ เสียงหัวเราะ และเสียงเล่าเรื่องขบขันระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ถูกนำมาเล่าขานสู่กันฟังอีกครั้ง เป็นความสุขและความสนุกครึกครื้น มณีหัวเราะเกลื่อนไปกับเขาทุกเม็ดเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรมาแผ้วพานร้าวรานใจใดๆ

                     กึ่งคืนพอดี มณีลุกไปจ่ายเงินหน้าเคาเตอร์ แล้วเดินกลับไปขึ้นรถเหมือนทุกครั้ง สมชายยังทำหน้าที่สารถีได้อย่างเยี่ยมยอด เหล้า 2 กลม กับคน 7 คน ไม่มากเกินกว่าที่จะกินกันหมด แบบสบายๆไม่เมาสักคน มณีดื่มแต่น้ำเปล่าและกินแต่เขียดทอด ยิ่งสติมั่นคง รถยนต์แล่นย้อนกลับไปทางอำเภอนาน้อยได้แค่บ้านไผ่ มณีสั่งให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานแม่น้ำน่าน มุ่งหน้าทางบ้านน้ำมวบ แดนดินที่ติดชายแดนลาว แสงไฟส่องไปไกล บางครั้งขึ้นเนินสูงชัน แสงไฟหน้ารถพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิด

                     “คืนนี้คืนแรม” มณีคิดในใจเมื่อเห็นเดือนและดาวพราวท้องฟ้า

                     “จะไปไหนพี่” ประเสริฐถาม

                    “ไปมันเรื่อยๆ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร เจอก็ทำงาน ไม่เจอก็ทำงาน สว่างที่ไหนก็หันหลังกลับที่นั่น” มณีตอบ

                      มณีรู้ดีว่าทำอย่างนี้เพราะอะไร มณีไม่อยากกลับไปนอนคนเดียว มันหนัก คิดวนไปวนมากับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น มณีกลุ้ม เครียด และไม่อยากอยู่คนเดียว มณีใช้เพื่อนร่วมงานเป็นโล่ป้องกันความเหงา

                        “พี่ ตะวันจะขึ้นแล้วนะ วกกลับไหมครับ” สมชายถาม

                        “เดือนมืดแท้ๆ กลับไม่เจออะไรเลย” มณีบ่นเบาๆเหมือนตอบสมชาย ประเสริฐหลับคอพับอยู่เงียบๆ

                        “กลับก็กลับ” สมชายวาดหัวรถเข้ามุมแล้วเหวี่ยงอีกทีก็พ้นวงเลี้ยว มุ่งหน้ากลับทางเดิม รถปีศาจขาวยังวิ่งดิ่งไปตามถนนลาดยาง เวลาล่วงเลยจนพระอาทิตย์ขึ้นโด่ง มณีคอพับหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน  สมชายยังทำหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ประเสริฐเอียงตัวจนพิงไหล่มณี ทุกคนหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

                        สมชายจอดรถหน้าสำนักงาน แล้วเขย่าประเสริฐ ๆเขย่ามณี แล้วก็ลงจากรถยนต์ปีศาจขาว มณีเดินข้ามไปห้องทำงาน แล้วล้มตัวลงนอนในห้องทำงาน ประเสริฐเสแซดๆไปยังบ้านพักของเขา ทุกคนบ่ายหน้าไปยังเคหาแล้วก็หลับกันไปตามระเบียบ

                        มณีตื่นนอนเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง 11 โมงเช้า ไม่มีใครกล้าปลุก ไม่มีใครรู้เลยว่าเกิดอะไรกันขึ้น สงสัยกันว่าทำไมหัวหน้าไปกลับไปนอนที่บ้านพัก แต่ก็เดินมาดูกัน เสียงพึมพำเบาๆ ด้วยความสงสัย มณีกลับลงไปบ้านพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็เดินกลับขึ้นไปทำงานตามหน้าที่ สมชายเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสาร

                      “พี่ เมื่อคืนไปทำไม” สมชายเอ่ย มองสบตานิ่ง

                     “ก็ไปลาดตระเวน ทำไม ไม่เคยไปหรือ” มณีแย้งยิ้มๆแล้วนิ่ง

                     “เดี๋ยวจะสั่งให้ไอ้สาไปหาข่าว จะได้ไม่ไปฟรี เอาตามนั่นนะ เรียกมันเข้ามาหาด้วย” มณีพูดจบก็เปิดแฟ้มอ่าน สมชายเดินออกไป สักครู่ไอ้สาก็เข้ามาหา นั่งนิ่ง

                     “ไปหาข่าวที่ในบ้านห้วยเลาที ดงไม้สักอาจมีการลักลอบ เอาปืนแก๊บสพายไปเหมือนไปส่องสัตว์ ระวังเรื่องแว่นสายตาของมึง ใส่แว่นกันแดดแทนได้ไหม” มณีสั่งแล้วก็ปล่อยให้สาเดินออกไปเตรียมตัว

                     มณีนั่งทำงานตามปกติ หาวเหงานอนเป็นครั้งคราว ประเสริฐไม่กลับขึ้นมาอีก แต่ก็คงทำงานไปตามหน้าที่ของเขาในหมู่บ้าน “ฝายชะลอน้ำ”  สมชายดื่มกาแฟแก้วเว้นแก้ว แก้ง่วง อ้วนเดินเกร่ไปมาแล้วก็หลบไปนอนที่โรงรถ ส่วนยังทำงานอยู่ที่บ้าน  สวัสดิ์ตามประเสริฐไปทำงาน เสียงวิทยุสั่งการและรายงานผลคดีดังขึ้นเป็นระยะ

                    16.20 น. สาเดินกลับเข้าสำนักงาน แล้วเข้ามาหามณี

                    “มีกองไม้สักแปรรูปหน้า 2คูณ4นิ้ว ยาว2 เมตร น่าจะกว่าพันชิ้น/แผ่น ก่อนถึงบ้านห้วยเลา มีใบไม้สุมพรางตาอยู่ เผอิญผมแวะไปฉี่ ก็เลยเห็นใบไม้เฉาๆ แต่ก็ยังสดประมาณ กลางวันที่เอาใบไม้มาพรางตา รอขนส่งขึ้นรถแน่ครับ ช้าไม่ได้ครับ” สารายงานแล้วเน้น ช้าไม่ได้  มณีมองหน้าแล้วรีบลุกขึ้นเดินไปควักมือเรียกสมชาย ๆเดินเข้ามาหาแล้วนั่งฟัง

                     “ระดมคนด่วน สาเจอกองไม้สักแปรรูป รอขนส่งอยู่ก่อนถึงบ้านห้วยเลา เร็วๆ” มณีพูดเสร็จก็รีบเดินไปรอที่หน้าสำนักงาน รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันใด วิญญาณมือปราบเข้าสิงทันใด ทุกคนเดินแกมวิ่งมาที่รถปีศาจขาว แล้วก็พร้อมออกเดินทาง

                     “อ้าวยง มาไงไปไงล่ะนี่” มณีร้องถามเมื่อเห็น “ยง” คนสนิทของพี่ชัย หัวหน้าฝ่ายปราบปราม ยงยิ้มแล้วตอบ

                      “ผมเจอสาที่นาน้อย มันก็เลยขวนมาด้วย เห็นว่าจะเข้าไปห้วยเลา ก็เสริมกำลังไปด้วยก็แล้วกันครับ” ยงผสมโรง ยงรู้ว่าการเข้าไปปฏิบัติงานของสายตรวจสำนัก ได้คดีหรือไม่ได้คดี ก็มีเลี้ยงข้าวทุกครั้ง ได้ร่วมไปด้วยก็ดีเหมือนกัน

                      รถปีศาจขาวมุ่งหน้าไปทำงาน แต่คราวนี้ไม่ต้องถามสมชายก็บ่ายหัวไปทางขวา เพราะว่าเส้นทางที่จะเข้าไปบ้านห้วยเลาได้เร็วที่สุดก็ต้องไปทางอำเภอนาน้อย ผ่านผาชู้ ข้ามแม่น้ำน่าน แล้วไต่ไปตามทางสายนาน้อย-บ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปด้วยความเร็วกว่าปกติ 

เพราะว่ารู้เป้าหมายแล้ว เว้นแต่ไปไม่ทันการณ์

                       รถปีศาจขาวเลี้ยวซ้ายไปตามทางเข้าบ้านห้วยเลา ทางลูกรังมันเลี่ยม เนื่องจากมีรถวิ่งเข้าออกมาก เป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวไปในดงสักงาม และป่าไม้เบญจพรรณหนาตา สาชี้เป้า แล้วเคาะหลังคาดังลั่น รถยังจอดไม่สนิทนัก พนักงานมือปราบที่อยู่กระบะหลังก็กระโดดกันตามสาไปอย่างรวดเร็ว

                     “ไม้ยังอยู่ครบ ยังไม่มีการขนย้ายครับ” สาตะโกนบอดก มณีเคลื่อนตัวลงไปสมทบ ประเสริฐ สมชาย ส่วน สวัสดิ์ ปรี่เข้าไปที่กองไม้ ช่วยกันยกกิ่งไม้เฉาๆทิ้ง จึงได้เห็นไม้สักแปรรูปขนาดกำลังทำกรองประตูชั้นเยี่ยม ยงเข้าไปลูบคลำแล้วพึมพำเบาๆ

                       “ขายได้หลายหมื่นนะนี่ เยียบแสน” แล้วก็เดินไปสมทบกับทุกคน

                       สา วิทยุแจ้งผลการดำเนินการไปยังสำนัก เพื่อให้สำนักแจ้ง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้(ออป.) ส่งรถเข้ามาบรรทุกของกลางไปเก็บรักษา  สมชายบันทึกการจับกุม ประเสริฐกับส่วนและสวัสดิ์วัดขนาด ทำบัญชีไม้ อ้วนเดินไปตรวจรอบๆ ทันใดเสียงอ้วนตะโกนดังลั่น

                       “เลื่อยยนต์ครับ ซุกอยู่โคนต้นกร่าง” มณีเดินตามเข้าไป ทุกคนตกตะลึงที่ได้ของกลางทั้งไม้และเลื่อยยนต์ 

                       สมชายบันทึกการจับกุม แล้วก็รับบัญชีไม้และของกลางมาแนบ แต่เกิดข้อถกเถียงกันนิดหน่อย

                       “เลื่อยยนต์ แยกไว้ดีไหม เผื่อเก็บไว้ใช้งานขณะออกปฏิบัติงาน” สมชายเอ่ยขึ้น

                       “ผิดระเบียบไหม หากผิดก็เสี่ยงเกินไป “ มณีกล่าว แล้วก็เดินไปดูไม้สักแปรรูป

                         มณีรู้ดีว่า การนำของกลางออกจากบัญชีเพื่อใช้สอยนั้น ทำกันแบบผิดๆ แต่ก็ทำกันตลอดมาเพื่อใช้งานอำนวยความสะดวกของทีมงาน 

                        หลังจากจับกุม มณี สมชาย ประเสริฐ และส่วน เดินทางออกไปส่งคดีที่โรงพักตำรวจภูธร อำเภอนาน้อย สวัสดิ์ สา อ้วน ยง อยู่เฝ้าไม้ของกลาง เพื่อรอให้ ออป.เดินทางมารับของกลางไปเก็บรักษาไว้ในหมอนไม้

                       หลังการดำเนินคดีนี้ สามาเล่าให้ฟังว่า ค่ำนั้นไปส่งพี่ยงที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่หน่วยน้ำแหง-น้ำหิน  พี่ชัย ยืนรอด้วยใบหน้าบึ้งตึง พอยงลงไปถึงก็ได้ยินเสียงด่าอย่างรุนแรง ถึงขั้นขึ้นมึงขึ้นกู

                       "มึงง่าวหรือไง พาไปจับไม้ของเรา คืนนี้จะขนออกไปส่งอยู่แล้ว ฉิบหายไปเป็นแสน แล้วเครื่องเลื่อยยนต์นั่นอีก ก็ของกลางที่เราเอามาเก็บรักษาแท้ๆ       

                         

 

                         

 

               

Tags : เสือกลิ่นสาบ ตอน 29.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view