http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,068,193
Page Views16,380,733
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บ้านทุ่งแสนสุขตอน12.ตำข้าวเม่า โดยมณีดิน

บ้านทุ่งแสนสุขตอน12.ตำข้าวเม่า โดยมณีดิน

บ้านทุ่งแสนสุข

ตอน12. ตำข้าวเม่า

โดย มณีดิน

                     คลองห้วยคันทอดยาวมาจากบ้านอบทม เลาะเลียบมาตามทุ่งนาทางทิดตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วเข้าโค้งอ้อมไปทางทิศตะวันออก คลองนี้อ้อมบ้านห้วยคันเหนือ

                    จุดบรรจบระหว่างคลองห้วยคันกับห้วยอีดูดที่ไหลมาจากทางเหนือ  เป็นรูปหนังสติ๊ก แล้วไหลล่องลงใต้ไปผ่านสะพานสูงหน้าวัด ช่วงกลางสะพานต้องสร้างสูงก็เพื่อให้เรือขนาดใหญ่แล่นผ่านได้ ปลายสะพานด้านวัดมีศาลานั่งเล่นหลังหนึ่ง ที่นี่มีร้านค้าใต้ร่มเงาจามจุรีหลายร้าน

ตำข้าวเม่า-ฝัดข้าวเม่า

                     ก่อนเข้าโค้งเหนือบ้านห้วยคันเหนือมีคลองลัดแยกมาทางทิศใต้ คลองนี้เล็กกว่าคลองห้วยคัน แบ่งแยกบ้านห้วยคันเหนือและกลุ่มบ้านเจ๊กโรงสี  เรือที่ผ่านส่วนใหญ่มีขนาดเล็กๆ เช่นเรืออีป๊าบบ้านผม  เรือไพม้าน้าป่วน เรืออีหมูข้ามคลอง เรือสำปั้นส่งข้าวเปลือก  เรือบดของพระพายไปบิณฑบาตตอนเช้าๆ  เรือขายกล้วยแขกพี่ยุง เรือขายปลาตาเครือ  เรือขายก๋วยเตี๋ยวต้มยำ และเรือขายโอเลี้ยงตาใหญ่ เป็นเรือเล็กสัญจรไปมา

                      บ้านผมอยู่ริมคลองนี้ผมจึงใช้สะพานเลียบคลองแยกนี้เดินไปวัด ไปโรงเรียน และไปกระโดดน้ำจากสะพานช่วงสูงกลางคลองห้วยคันกับเพื่อนๆ

                    หลังวัดและหลังบ้านป้าจำปีเป็นทุ่งนากว้างสุดสายตา นาใครบ้างผมก็ไม่รู้ แต่รู้ว่านาทุกผืนแม่ไปเกี่ยวข้าวอ่อนกำลังตำข้าวเม่าได้พอดีทุกปี


เขียวอมเหลือง กำลังใช้ตำข้าวเม่าได้พอดี

                   “น้ำนมข้าวกำลังเปลี่ยนเป็นแป้งเนื้อในข้าวแล้ว เห็นไหมรวงข้าวเริ่มโน้มลงๆ เปลือกนอกรวงเขียวแกมเหลืองบางๆ ไปกับแม่ คืนนี้จะได้ตำข้าวเม่ากินกัน”

                    แม่ชวนหลังผมเดินกลับมาจากโรงเรียน ผมเดินตามแม่บนสะพาน ลงสะพานแล้วก็เดินลัดโบสถ์ไปกลางทุ่งเวิ้งว้างกว้างไกลสุดสายตา

                    “นาข้าวใครนะแม่” ผมถามเมื่อแม่หยุดเดิน                   

                    “น้าเขียว บ้านเหนือฝั่งตะวันออก” แม่ตอบ ผมถามอีก

                   “เขาไม่ว่าเอาหรือแม่” แม่เหลียวมามองแล้วตอบด้วยเสียงเบาๆ

                   “ไม่ว่าหรอก แค่เกี่ยวข้าวไปตำข้าวเม่ากินกัน เราไม่ได้ตำไปขาย ดูแต่ผักตำลึงริมรั้วบ้านเราซี ใครๆก็มาเด็ดยอดตำลึงไปจิ้มน้ำพริก แม่ก็ไม่เคยว่าใครเหมือนกัน”

                   “ทำไมไม่ไปเกี่ยวจากนาเราละครับ” ผมยังติดใจ

                   “ห้วยอีดูดโน่นนะ ไกลและก็ไม่ได้เกี่ยวไปมากมายอะไร”

                    แม่จบคำตอบก็เดินจากคันนาลงไปในดงข้าวที่กำลังไหวเอน รวงข้าวเขียวๆอมเหลืองแกว่งไกวไปมาตามแรงลม   แม่ใช้มือขวาจับเคียวคล้องต้นข้าวเข้าหาตัว แล้วใช้มือซ้ายรวบต้นข้าว แม่ออกแรงดึงเคียวเข้าหาตัว ต้นข้าวกำมือหนึ่งขาดกระจุย แม่ยื่นให้ผมกำไว้   แม่เกี่ยวได้อีกสี่ห้ากำแม่ก็เหลียวไปวางเคียวกับพื้น ขมวดต้นสะอึกริมคันนามัดข้าว ได้ฟ่อนเพียงผมโอบ ยังเหลือข้าวในทุ่งนาสุดสายตา ผมเดินแบกฟ่อนข้าวตามหลังแม่กลับบ้าน

                   ผมนึกในใจ อะไรที่กินได้ชาวบ้านก็แบ่งกันกินไม่ได้หวงกันนักหนา ดีจริงๆ

                  แม่ให้ผมวางฟ่อนข้าวเม่าในกระด้งขนาดใหญ่ แล้วแม่ก็แปลงร่างให้ผมเป็นควายน้อยเดินเหยียบย่ำ ผมตลบเท้าพลิกข้าวไปมาเพื่อย่ำให้เม็ดข้าวร่วงจากรวง ตกเรี่ยอยู่ในกระด้ง แม่ยกกระด้งขึ้นฝัดไล่เศษผง เหลือแต่เม็ดข้าวเปลือกเขียวๆอมเหลือง

                  “ไปอาบน้ำ เรียกพี่เจนและน้องมากินข้าว เดี๋ยวคืนนี้จะได้ตำข้าวเม่ากินกัน”

                  หลังอาหารมื้อเย็น เสียงย่ำระฆังดังมาจากวัดก้องกังวานไปทั่วคุ้งน้ำ แสงเดือนทางฝั่งฟ้าตะวันออกกำลังโผล่พ้นช่อฟ้าโบสถ์วัดห้วยคัน ดวงแดงขนาดใหญ่ พี่ท้าวญาติผู้พี่ของผมกำลังหนุ่มแน่นยกครกไม้มาตั้งบนสะพาน พี่เจนเดินตามมาพร้อมกับเตาถ่านลุกโชน พี่ลำยงญาติผู้พี่สาวเดินอุ้มมะพร้าวมาอีกคน  พี่อุ่นหิ้วกระต่ายขูดมะพร้าวมาวางนั่งรอ แม่เดินมาพร้อมกระทะ ตะหลิว และกระด้งฝัดข้าวขนาดห้าคืบ

                 ทุกปีเมื่อถึงเวลาจะตำข้าวเม่า ชายหญิงที่อยู่รอบๆบ้านก็จะเดินมาร่วมวงไพบูลย์ พี่อาบพี่อบพี่น้อยใส่เสื้อคอกระเช้าเหมือนสาวบ้านทุ่งทุกคนแต่หลากสีซึ่งเป็นสาวอยู่บ้านเหนือก็เดินข้ามสะพานเล็กมารวมหมู่ เป็นกรรมหนึ่งที่แม่เป็นผู้สร้างให้  หนุ่มสาวชาวบ้านและชาวโรงสีมีส่วนผูกพันกันได้อย่างแนบแน่น ผม น้องชาย และญาติพี่น้องที่ร่วมบ้านเดินมา ”ออรอกิน” กันอยู่  อีกสักครู่จะได้กินข้าวเม่า สายตาทุกคู่จดจ้อง

                 แม่ตั้งกระทะบนเตาไฟอ่อนๆ เทข้าวเปลือกเขียวอมเหลืองลงไปในกระทะ แล้วก็ค่อยๆพลิกคั่วไปเรื่อยๆ พอว่าเม็ดข้าวเปลือกร้อนจะปริ ก็เทใส่ครก

                 พี่ท้าวหนุ่มเหน้าคว้าสากทรงยาวๆ ขึ้นตำลงไปบนข้าวเปลือกคั่วไฟ เสียงดังกึกๆ พี่อาบนั่งลงข้างครก ใช้มือควักลงไปในเบ้าครกแล้วก็พลิกกลับข้าวให้สลับสับเปลี่ยน พี่ท้าวตำไปทีก็เหลือบมองร่องอกพี่อาบไปด้วยแววตาริบหรี่เหมือนไม่ตั้งใจ ก็จะไม่มองได้อย่างไรกัน พี่อาบใส่เสื้อคอกระเช้า มันกว้างจนทุกครั้งที่โยกตัวควักข้าวในก้นครก  หน้าอกหน้าใจก็พลอยกระดกกระเดื่องขึ้นมาอวดสายตาให้โลมเลียม

                 พี่ท้าวตำพี่อาบควักๆล้วงๆกันอยู่สักพักหนึ่ง แม่ก็ชะโงกมาดู แล้วก็ให้พี่อาบควักข้าวลงในกระด้งห้าคืบ แม่ส่งให้พี่ลำยงไปฝัดเอาเศษขี้ผงออกจากข้าวเม่า ข้าวเม็ดเต่งตึงถูกตำจนบี้แบนสีเขียวอ่อนๆ แต่กลิ่นหอม

                  “ห้อมหอม น่ากินจังแม่”

                    ผมทำท่าสูดดมแล้วน้ำลายก็พลอยสอออกมาจริงๆ เด็กๆเฝ้ามองและจ้องกันตาเป็นกระจุก  แม่สั่งให้พี่เจนปอกมะพร้าวแล้วก็ขูดมะพร้าวให้เสร็จทันกิน

                   “กินคืนนี้นะ เจน”

                    เสียงแม่สำทับด้วยว่าพี่เจนเป็นคนเชื่องช้า ต้องกำกับเวลาไว้ด้วย ไม่เช่นนั้นอาจได้กินตอนเที่ยงคืน พี่ๆที่นั่งพูดคุยกันอยู่หัวเราะขำๆ พี่เจนลงมือแล้วก็ทำได้สำเร็จ  พี่อุ่นยกกระต่ายขูดมะพร้าวมาได้ก็ลงมือขูด รองมะพร้าวด้วยถาดใบหนึ่ง แม่คั่วข้าวเปลือกแล้วก็เทใส่ครกอีกสำรับ พี่มีญาติผู้พี่อีกคนหนึ่งเดินมาสมทบอีกคน  พี่อบมองสบตาแล้วอายม้วนต้วน พี่อาบยังทำหน้าที่ควักล้วงข้าวเม่าให้พี่ท้าวตำ ผมนั่งมองดูแล้วสะกิดทุยน้องชายให้แหงนดูตาพี่ท้าว

                   “เห็นไหม พี่ท้าวมองอะไร”แล้วหัวเราะคิกๆกัน


เกือบจะแก่เกินตำข้าวเม่า

                  พลันเสียงร้อง “โอย”ของพี่อาบดังขึ้น แล้วชักมืออกมาสะลัดเหยงๆ คงเจ็บน่าดู พี่ท้าววางสากพิงครกแล้วโน้มตัวลงมาร้อง

                  “โอย ขอโทษ เจ็บไหมอาบ” แล้วก็ใช้อุ้งมือรวบมือของอาบไว้แน่น

                  “มัวแต่มองอะไรไม่รู้ ตำมือฉันได้เต็มๆเลย” พี่อาบพ้อพี่ท้าวพะวาเข้าไปกระซิบข้างๆหู

                   “ก็เองสวยนี่” เท่านั้นเองพี่อาบหน้าแดงแล้วใช้มือข้างที่ไม่เจ็บไล่ฟาดพี่ท้าว แม่นั่งหัวเราะ ทุกคนก็หัวเราะ

                    “เปลี่ยนคู่”

                    แม่ร้องขึ้นเสียงใส พี่มีเดินมาคว้าสากขึ้นตั้งท่า พี่อบก้าวออกมานั่งแทนพี่อาบที่เดินหลบไปนั่งวงนอกกับพี่ท้าว พี่เจนยังฝัดข้าวเม่าอยู่ พี่ลำยงกำลังผ่ามะพร้าว เตรียมขูด

                    คืนนั้น กว่าจะได้กินข้าวเม่าตำรับแม่ก็ง่วงนอน ทุยหาวแล้วหาวอีก แม่รวบข้าวเม่ามากองในถาด คลุกเคล้าด้วยมะพร้าวขูดสด โรยเกลือป่นนิด น้ำตาลทรายขาวหน่อย ข้าวเม่าสีเขียวตองอ่อนห้อมหอมชวนน้ำลายไหล พี่เจนยกจานเล็กๆมาพร้อมด้วยช้อนด้ามสั้น ตักแจกทุกคน แน่นอนเด็กๆอย่างพวกผมต้องได้ก่อน สิทธิพิเศษ

                   ข้าวเม่าตำรับแม่ ตำปีละครั้ง แต่พี่ท้าวกับพี่มีตำใจได้ครั้งเดียว ปลายปีนั้นทั้งพี่ท้าวและพี่มีแต่งเมียคนละคน

Tags : บ้านทุ่งแสนสุขตอน11. ดอกโสนบานแล้ว

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view