ข้าวจี่ฟักทองเชียงคาน
โดย มณี บันลือ เรื่อง-ภาพ
คนอีสานโดยกำเนิดกินข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก ขนมกินเล่นของคนอีสานก็หนีไม่พ้นข้าวเหนียว แม่เข้าครัว หากอารมณ์ดีวันไหนก็ทำข้าวจี่ง่ายๆให้ลูกๆได้กินกัน ก็แค่หยิบข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วมาปั้นแล้วก็บีบให้แบนๆ วางไปบนค้างปิ้งปลา ชั่วพลิกสองครั้งข้าวเหนียวปิ้งก็หอมกรุ่น แต่หลายๆครั้งแม่อยากำใฟ้มีรสชาติก็ทาด้วยไข่แดง หรือไม่ก็ทาด้วยน้ำเกลือนิดๆพอเค็มปะแหร่มๆ ย่างจนหอมก็แจกให้ลูกๆได้แย่งกันกิน
ผมไปเชียงคาน เมืองท่องเที่ยวที่เป็นถนนคนเดินตั้งแต่เช้ามือจนถึงดึกดื่น แม่หญิงคนงามนุ่งซิ่นสวยสวมเสื้อแขนสามส่วนคอกลม กำลังปิ้งข้าวจี่ ตั้งขายอยู่หน้าบ้านริมถนนชายโขง
"ทาด้วยไข่แดงหรือเนี่ย" ผมเร่เข้าไปหาด้วยความสนใจ เธอหันมามองแล้วยิ้ม
"ไม่ใช่ค่ะ ไข่แพง เลยทาด้วยฟักทอง" แล้วเธอก็ยิ่นให้ผมดูไม้หนึ่ง หอมเชียว
ผมซื้อมาไม้หนึ่ง 10 บาท แล้วก็เดินเร่ไปข้างๆเธอ กินไปพลางก็เหลียวมองไปรอบๆร้านของเธอ ชั่วเดี๋ยวเดียวก็มีเหยื่อ เอ้ย ลูกค้าเดินเข้ามาถามซื้อไปอีก
"ขายดีทุกวันไหมครับ" ผมถาม
"เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุดยาวๆ ขายได้ทั้งวันล่ะค่ะ แต่วันธรรมดาไม่ได้ขาย ไม่มีนักท่องเที่ยว" แล้วเธอก็หันไปถามขายลูกค้าที่เดินมาเมียงๆ
ผมนึกในใจ ไม้ละ 10 บาท จะได้กำไรสักเท่าไรนะ ไม้เสียบ ข้าวเหนียว ฟักทองละเลงน้ำและเกลือ ถ่านที่ใช้ปิ้งย่าง ถ้าต้นทุนอยู่ที่ 5 บาทก็กำไร 5 บาท อึ้ ไม่เลวนี่ ถ้าขายได้วันละ 100 ไม้ เดือนละ 8 วัน ก็ได้เงินไม่น้อย ปีหนึ่งอาจได้ขายเพียง 3-4 เดือน ถ้าเป็นแม่บ้านเฝ้าเรือนอย่างเดียว ก็ถือเป็นรายได้เสริมไม่เลว
ผมนั่งเหล่กิจกรรมมองเธอไปด้วยความอิ่มใจ ข้าวเหนี่ยวจี่หมดไปแล้วแต่ก็อยากนั่งอยู่ อากาศยามเช้าเย็นสบาย ได้เห็นความเคลื่อนไหวของผู้คนที่เดินผ่านไปมา ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่น่าจะได้ยินคำว่า เชียงคานๆ จนทนไม่ไหว ต้องมาอย่างที่ผมไขว่คว้าหาโอกาสมาจนได้ แม่ค้าปิ้งข้าวจี่เมื่อสาวๆคงสวยสม ผิวขาวดั่งหยวก วงหน้าหวานๆ ผมดำสยายเคลียไหล่ แม้วันนี้เธอจะเปลี่ยนสีผมตามสมัยนิยมจนออกแดงน้ำตาล แต่งกายด้วยชุดแม่หญิงชาวอีสาน
มาช้าไป 40 ปี ซินะเรา