http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,955,951
Page Views16,262,213
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

สวนสามพรานร่วมฟื้นตำนาน ข้าวหอมนครชัยศรี

สวนสามพรานร่วมฟื้นตำนาน ข้าวหอมนครชัยศรี

สวนสามพราน ร่วมฟื้นตำนาน “ข้าวหอมนครชัยศรี”

ชูข้าวเกษตรอินทรีย์ของดีคู่นครปฐม

*********************************


              หลังจากที่เคยหายสาบสูญไปนานกว่า 40 ปีวันนี้ ชื่อข้าวหอมนครชัยศรีข้าวนาปีสายพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดนครปฐม คืนกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง นักวิชาการ องค์กร เครือข่ายชาวนา ที่ร่วมกันนำพันธุ์ข้าวพื้นเมืองชนิดนี้ กลับมาทดลองปลูกในพื้นที่นา จังหวัดนครปฐม โดยเน้นการปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผลผลิต และเป็นทางเลือกใหม่ให้คนรักษ์สุขภาพ

   

              สำหรับจุดเริ่มของการฟื้นตำนานข้าวหอมนครชัยศรี ดังคำขวัญของจังหวัด ที่ว่า “ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวสวย” นั้น รศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ร่วมกับชาวนาในพื้นที่โฉนดชุมชนบ้านคลองโยง-ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรีค้นหาพันธุ์ข้าวหอมนครชัยศรีกลับมาปลูกกันอีกครั้ง  เล่าว่า หลังจากได้เมล็ดพันธุ์เมื่อปี 2556  ตน และเกษตรกร ก็ได้ทดลองปลูกด้วยระบบอินทรีย์ในพื้นที่ ประมาณ 6 ไร่  ซึ่งผลผลิตที่ได้ในปีแรก นั้น ส่วนใหญ่เก็บไว้เป็นเมล็ดพันธุ์ในปีต่อไป  อีกส่วนหนึ่งสีเป็นข้าวสารแจกจ่ายให้คนในพื้นที่ได้ทดลองชิม ซึ่งทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า กลิ่นหอม รสชาติอร่อย  ต่อมาในปี 2557 สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านโฉนดชุมชน คลองโยง-ลานตากฟ้า จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกออกไปเกือบ 30 ไร่ และแบ่งเมล็ดพันธุ์ส่วนหนึ่งให้กับโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ไปปลูกขยายพันธุ์ต่อเป็นรุ่นที่ 2


             “สมัยก่อนพื้นที่แห่งนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของคนนครปฐม แต่ระยะหลังชาวนาเลือกปลูกข้าวอายุสั้น ซึ่งเป็นข้าวแข็งสำหรับทำแป้ง ทำให้ข้าวพื้นถิ่นดีๆ หายไปจากทุ่ง ต้องกินข้าวถุงกัน ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าเราก็เลยค้นหาพันธุ์ข้าวดั้งเดิมที่กินได้กลับมาปลูกซึ่งพบว่าข้าวหอมนครชัยศรี คือหนึ่งในพันธุ์ข้าวพื้นเมืองของจ.นครปฐม ที่ให้รสชาติอร่อย มีเอกลักษณ์เฉพาะ คล้ายข้าวหอมมะลิ และข้อดีของข้าวพันธุ์นี้ก็คือ  เป็นข้าวนาปีที่ดูแลง่าย หนีน้ำได้ทัน ไวต่อแสง ไม่กินปุ๋ย และต้านตานโรคได้ดี  โดยเราเลือกปลูกด้วยระบบอินทรีย์ เพื่อหวังอยากให้ทุกคนได้กินข้าวที่ดี มีคุณภาพ และปลอดภัยอีกทั้งช่วยกันฟื้นฟู อนุรักษ์ และส่งเสริมให้ข้าวชนิดนี้กลับมาอยู่คู่นครปฐมอีกครั้ง”


               ด้าน นายอรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ โรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ และเลขาธิการมูลนิธิสังคมสุขใจกล่าวว่า ภายใต้โครงการ สามพรานโมเดล ซึ่งพยายามผลักดันเรื่องเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการนำพันธุ์ข้าวหอมนครชัยศรี มาทดลองปลูกในศูนย์พัฒนาเกษตรอินทรีย์สุขใจ ริมแม่น้ำท่าจีน ฝั่งตรงข้ามกับโรงแรม ในพื้นที่ประมาณ2ไร่   โดยผลผลิตในปีแรกนี้ก็เป็นที่น่าพอใจ


               “เป็นที่น่ายินดีที่ชาวนาในจังหวัดนครปฐม มองเห็นความสำคัญของพันธุ์ข้าวดั้งเดิมของท้องถิ่น และช่วยกันรื้อฟื้นกลับมาปลูกใหม่กันอีกครั้ง ซึ่งเราเน้นว่า จะต้องทำในระบบเกษตรอินทรีย์เท่านั้น เพื่อให้ได้รับอาหารที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันเกษตรกรเองก็มีสุขภาพที่ดี อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าให้กับผลผลิต และสร้างรายเพิ่มได้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย”


                 ด้านนายอนิรุทธ์ ขาวสนิท เกษตรกรอินทรีย์ ซึ่งเป็นหัวหอกสำคัญ ในการฟื้นตำนานข้าวหอมนครชัยศรีโดยได้รับมอบหมายจากโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซด์ ให้เป็นผู้ดูแลศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และเป็นผู้ ทดลองปลูกข้าวหอมนครชัยศรีด้วยระบบอินทรีย์ เล่าถึงวิธีการปลูกข้าวชนิดนี้ว่า  เริ่มปลูกในเดือนสิงหาคมและเกี่ยวในเดือนธันวาคมใช้เวลาปลูกทั้งสิ้น120 วัน หรือประมาณ 4 เดือนกว่า  ได้ลำต้นสูงประมาณ 150 เซนติเมตร รวงใหญ่จะให้เม็ดข้าวประมาณ 175 เม็ด รวงเล็กประมาณ 150 เม็ด แต่จะไม่เกิน 200 เม็ด ในการปลูกให้ได้ผลนั้น เกิดจากการยึดถือ 3 หลักของวิถีการทำนาแบบโบราณ คือ แม่ธรณี แม่คงคา และแม่โพสพ

                 “ถ้าเอาอาหารที่ดีๆ ให้ 3 แม่นี้กิน ให้ทุกแม่มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยที่ไม่ทำลาย ไม่ใช้สารเคมี ไม่จุดไฟเผา สุดท้ายทั้ง 3 แม่ก็จะให้ผลผลิตที่ดีกลับคืนมาเช่นกัน และการปลูกข้าวนั้น ขึ้นอยู่ที่การเตรียมดิน เพราะถ้าเตรียมดินดี เมล็ดข้าวจะงอกงามโดยปุ๋ยไม่ต้องใส่ อย่าจุดไฟเผา แต่ให้ใช้วิธีไถดะแล้วว่านปอเทืองทิ้งไว้ได้สัก 1-2 เดือน เพื่อเตรียมดิน หลังนั้นไถกลบปอเทือง แล้วปล่อยน้ำเข้าแปลงนา ปล่อยทิ้งไว้ให้ปอเทืองย่อยสลายเพื่อเพิ่มธาตุอาหารให้กับดินก่อนปักดำ ส่วนเรื่องการให้ปุ๋ยและฮอร์โมนต้องคอยสังเกตุช่วงเวลาให้เหมาะสม ถ้าใส่ไม่ถูกจังหวะอาจทำให้ต้นข้าวเสียหายได้”


                 ขณะที่นายธัญญสิทธิ์ ยอดศรีโสภณเกษตรกรหนุ่มวัย 38 ปีจาก ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ที่หันมาปลูกข้าวหอมนครชัยศรีด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ เมื่อปี 2556 เล่าว่า การทำนาอินทรีย์ต้องใช้ความอดทนในช่วงแรกแม้ปริมาณผลผลิตที่ได้ไม่มากเหมือนการทำเกษตรเคมี แต่ก็ชวยลดต้นทุนได้มากอย่างข้าวอินทรีย์ได้ประมาณ 50 ถังต่อไร่ ราคาขายกิโลประมาณ 80 บาท ขณะที่นาข้าวเคมี 1 ไร่ ได้ประมาณ 120 ถัง ราคาขายเท่ากัน แต่ค่าใช้จ่ายด้านเคมีสูงกว่า หักลบกลบหนี้แล้วจำนวนเงินที่ได้ไม่ต่างกันมากนัก แต่ความต่างที่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นั่นคือ ได้สุขภาพที่ดี และได้ฟื้นของดี ของนครปฐมให้กลับคืนมาอีกครั้ง


               “ข้าวหอมนครชัยศรีนั้นปลูกไม่ยาก ข้อดีคือเป็นข้าวที่หนีน้ำได้ทัน ต้านทานโรคได้ดี ไวต่อแสง แต่จะใช้เวลานานกว่าข้าวอื่นๆ ส่วนข้อเสียสำหรับพื้นที่ลุ่มในย่านดินเหนียวพอต้นใกล้เวลาออกรวงจะสูงระดับ 150 เซ็นติเมตร ถ้าน้ำหนักรวงเยอะ จะโน้มตันล้มหมด ถ้าน้ำในนาไม่แห้งเวลาเก็บเกี่ยวจะเสียหายเยอะ ฉะนั้นดินที่เหมาะคือดินร่วนปนทราย” ธัญญสิทธ์ บอกเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ


                  เหล่านี้คือ ส่วนหนึ่งของความพยายามในการฟื้นตำนานข้าวหอมนครชัยศรี  ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่าน ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ และช่วงการทดลองตลาด แต่ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นและเป็นข้าวอินทรีย์ที่มีความหอม อร่อย ก็เชื่อแน่ว่าในไม่ช้า  ข้าวหอมนครชัยศรี จะกลับมาเป็นข้าวที่ได้รับความนิยมอีกครั้งเช่นอดีตที่ผ่านมาอย่างแน่นอน


เครื่องไล่นกง่ายๆ

                  สำหรับเกษตรกร หรือเครือข่ายชุมชน ที่สนใจเรียนรู้เรื่องการปลูกพืชผัก และข้าวในระบบเกษตรอินทรีย์สามารถติดต่อมาได้ที่ มูลนิธิสังคมสุขใจ ศูนย์พัฒนาเกษตรอินทรีย์สุขใจโทร034-225-203

Tags : สวนสามพราน

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view