OTOP MIDYEAR 2561
9-17 มิถุนายน 2561
ณ.อาคารแชนเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผลพวงการแถลงข่าวและเผยแพร่จากคณะกรรมการจัดงาน OTOP MIDYEAR 2561 ผ่านสื่อสารมวลชนประเภทออนไลน์ ที่เข้าถึงมวลชนได้สูงสุดในเวลานี้คือ ไลน์และเฟสบุ๊ก โดดเด่นยิ่งกว่าสื่อออนไลน์และสื่อประเภทอื่นๆ เว็บไซต์ทองไทยแลนด์ดอทคอม ก็ได้รับอานิสงดังกล่าว จึงได้เดินทางไปร่วมงานเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2561 ช่วงค่ำๆ
เมื่อได้ไปเห็นรูปแบบการจัดงานแล้วก็อดใจที่จะถ่ายรูปและเดินชมงานไปจนทั่ว พร้อมกับแวะชิมอาหารหวานคาวหลากหลายจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย ที่น่าแปลกใจคือ งานนี้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณะสุข กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ
พอผมก้าวเท้าเดินเข้าสู่งาน ละลานตาไปจนเต็มห้อง สรุปว่า มีสินค้ามากถึง 10,000 รายการ 2,500 ร้านค้า จาก 36 จังหวัด ที่ถูกคัดสรรมาแสดงให้ได้รับรู้และได้สัมผัสจริง ในงานครึ่งปีนี้ มีสินค้ามาอวดถึง 8 ด้าน เช่น วัฒนธรรมด้านอาหารของแต่ละท้องถิ่น เครื่องแต่งกาย สภาพที่อยู่อาศัยตามวิถีชุมชนดั้งเดิม ประเพณี ศิลปะพื้นบ้าน วิถีชีวิต ความเชื่อ
ตลอดจนสินค้าโอท็อปประเภทแหล่งท่องเที่ยว 4 หมู่บ้าน 4 ภูมิภาค เช่น ภาคเหนือที่บ้านต้นกอก จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ที่บ้านปากบารา จังหวัดสตูล อุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย ผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อปมากมาย ภาคกลาง ที่บ้านใหม่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามรอยกรุงศรีกราบหลวงปู่ทวด ชิมละมุด 100 ปี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี มรดกโลกอารยธรรม 5ล000 ปี และวิถีชีวิตไทพวน
แต่ผมเดินได้ไม่ทั่วทั้งงาน แก่เกินแกงซะแล้ว ผมได้เดินไปชิมและกินอาหารที่เปิดบูธขายกันสองฝั่งงาน เช่น
ผัดไทยปูม้ากับผักกระชับ จากอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ผักกระชับคือต้นกล้าอ่อนๆแบบกล้าทานตะวัน แกล้มสดๆกับผัดไทย กลิ่นหอมชวนกิน สรรพคุณนั้นขึ้นชื่อว่า สตรีเพศคนใดได้กินประจำจะเกิดความกระชับเฉพาะส่วนของร่างกาย เป็นสมุนไพรตัวเก่งมาแต่โบราณ แต่แม่ค้าเล่าว่า กิโลกรัมละตั้ง 200 บาท จึงให้กินทดลองแค่ 7 ต้น
เดิน ๆไป ไปเจอร้าน โรตีและชาชัก จากสตูล กำกับโดยเจ๊หลิว เจ้าเก่า เป็นเรื่องสิ เพราะผู้ที่ชวนผมมาเดินชมงานนี้ก็คือ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ช่วงชัย เปาอินทร์ พอเจอกันก็ต้องนั่งดื่มชาและกินโรตีกันก่อน เจ๊หลิวทักทายแต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร แต่รองเจ้าเมืองเก่าทักได้ถูกต้องจนเจ๊หลิวแปลกใจ ได้แต่บ่นว่า หน้าคุ้น ต้องเคยรู้จักมาก่อนแน่ๆ แก่เกินไปหรือเปล่าเจ๊ 5555 ตกลงก็ต้องนั่งดื่มชาชักพร้อมโรตีราดนมข้น หอมหวานมันสมใจอยาก
เหลียวอีกด้าน เป็นร้านขนมจีบซาลาเปาทับหลี แต่กินข้าวมันไก่ไม่ไหวแล้ว เพราะอิ่มผัดไทยใส่ปูนิ่ม ตอนผมไปเยี่ยมรองเจ้าเมืองที่ระนองก็ได้แวะกินเช่นกัน ร้านขนมจีบ ซาลาเปา และข้าวมันไก่ทับหลี เจ้านี้ก็เป็นแหล่งที่ทัวร์ท่องเที่ยวเมืองระนองต้องจอดให้ลูกค้าได้ลงไปกินและซื้อเป็นของฝากติดมือ
ทุเรียนกวน
แกงโฮ๊ะ เหมือนแกงสมพรมภาคกลาง กับข้าวเหลือๆมาผัดรวมกันใหม่ จ๊าดรำเน้อ
พูดถึงขนมจีบซาลาเปาและข้าวมันไก่ทับหลีผมโชคดีที่อาเจ๊ลูกสาวเจ้าของร้านที่ระนองมาเป็นสะไภ้คนกำแพงแสน นครปฐม ก็เลยได้กินที่ร้านในตลาดอยู่บ่อยๆ
ไก่ย่างบางตาล ราชบุรีไม่มีใครเหมือน
ตกลงคืนนั้น ผมเดินถ่ายรูปไปเกือบทั่วงาน ได้ภาพมาอวดมากมายพอสมควร ชมภาพกันก็แล้วกันนะครับ ไม่งั้น ผมต้องไปเดินในงานแต่ละวันสัมภาษณ์แต่ละร้าน จึงจะได้ข้อมูลที่หลากหลายมาเขียนเล่า
ปิ้งย่างรสชาติแปลกใหม่ ชื่อก็ยังแปลก
ประกอบกับ งานนี้ผมก็ไม่ได้รับเชิญให้ไปทำการประชาสัมพันธ์หรอก แต่ไปเห็นเรื่องราวดี ๆ มีแต่ของสวย ๆงามๆ ก็อดใจตามวิสัยสื่อที่ดี อดใจไม่ไหว ก็ทำให้แก่พี่น้องชาวไทยด้วยกันได้รับรู้ก็แล้วกันเน้อ
www.ced.cdd.go.th เป็นเว็บไซต์ของกรมการพัฒนาชุมชน ที่ทุกคนอาจเข้าถึงได้มากขึ้น
เจ้านี้เด็ดสะระตี่เลยจ้า
ขนมบ้าบิ่นแนวใหม่