http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,060,806
Page Views16,371,914
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เกาะหวายบีชรีสอร์ท : สวรรค์กลางทะเลตะวันออก โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

เกาะหวายบีชรีสอร์ท : สวรรค์กลางทะเลตะวันออก  โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                                          เกาะหวายบีชรีสอร์ท : สวรรค์กลางทะเลตะวันออก

                                                                                               ธงชัย เปาอินทร์  เรื่อง-ภาพ

                 เมื่อร้อนตอนต้นเดือนมีนาคม 2553 โชคดีเหลือรับที่ได้ไปท่องทะเลตราด ซึ่งเป็นกลางทะเลตะวันออกของประเทศไทย เป้าหมายที่ไปมาคือไปเกาะหวาย ฝั่งทะเลนอก บรรยากาศเยี่ยม แล้วนอนค้างอ้างแรมที่เกาะหวายบีชรีสอร์ท อันเป็นบ้านพักส่วนตัวของคุณวีระกร คำประกอบ นักการเมืองคนดังเมืองนครสวรรค์ แต่หลงไหลการผ่อนคลายให้หายเครียด ด้วยการดำน้ำดูปะการัง และปลาสวยงามในโลกใต้ทะเล เฮงจริงๆ 

 
                        ประภาคารท่าเรืออุทยานฯ                                                     นี่ก็เรือประมงดัดแปลงสภาพ

                 ก็อย่างว่า ไปจังหวัดตราดวันนี้ไปได้รวดเร็วกว่าอดีตมากนัก เส้นทางวิ่งด่วนๆหลายเส้นจากกรุงเทพ ผ่านอำเภอแกลง ระยอง  ถึงจังหวัดจันทบุรีวิ่งเลยไปจังหวัดตราด แล้วเลี้ยวไปท่าเรือข้ามเกาะช้างรวมระยะทางราวๆ 340 กม.  
ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. ไม่เร็วไม่ช้า กำลังดีมีความปลอดภัย 
                 ข้ามเกาะช้างไปแล้วก็รอเรือของรีสอร์ทที่ท่าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง อยู่ช่วงบ้านโรงถ่าน ท่าเรือมีประภาคารสีขาวโพลนเด่น รูปแบบก็เก๋ดี

    
                                 เลี้ยงปลาในกระชัง                                                              เรือแคนูกับเรือใบ    

                 เรือท่องเที่ยวรับส่งลูกค้าของรีสอร์ทซึ่งแปลสภาพมาจากเรือประมงในอดีต  พาล่องไปในท้องทะเลสีคราม ลมเย็นโชยผ่านชื่นใจ กลิ่นอายทะเลไทยไม่เน่าเหม็นและไม่มีมลภาวะทางอากาศ ผ่านแพเลี้ยงปลาในกระชัง 2-3 แพ มีไม้หลักปักกลางทะเลเลี้ยงหอย ผ่านเกาะพร้าว เกาะเหลายาเหนือกับเกาะเหลายาใต้ ระหว่างสองเกาะนี้มีสพานทอดข้ามถึงกัน เก๋  มีเสน่ห์  ดูมีชีวิตชีวา และโรแมนติกเหลือหลาย
                 "สะพานที่เห็นนั้นเป็นการปรับปรุงจากตอเก่า เจ้าของสวนมะพร้าวบนเกาะเดิมไม่มีอยู่แล้ว เขาขายสวนและตอสะพานให้กับเจ้าใหม่ คนกรุงเทพทั้งนั้นแหละครับ ที่ว่าขายตอนั้นคือ ตอสะพานเก่าที่เคยมีอยู่ในทะเล อุทยานแห่งชาติยินยอมให้ซ่อมปรับปรุงจากตอเดิมที่มีอยู่ได้ ก็เลยลดปัญหาความขัดแย้งไปได้เยอะ" 
                 คุณวีระกร คำประกอบ อดีตรัฐมนตรี บรรยายสรุปเรื่อง "ตอ" ให้ฟัง 

                                                  
                                                                                 เสื้อแดงแรงฤทธี         

                 "เพราะฉะนั้น ตามหน้าบ้านกลางทะเล จึงมักมีการตั้งตอทิ้งไว้ แล้วก็ค่อยๆสวมตอแต่งตัวเป็นอาคารหลังใหม่ได้อีก" 
                  ฟังถึงตรงนี้ ผมนึกในใจ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จะเฝ้าระวังไม่ให้ชาวบ้านตั้งตอเพิ่มได้อย่างไร จะมีเวลาและกำลังมาตรวจตราไหม เหนื่อยแทนครับ
                  "เห็นอยู่ลิบๆทางตะวันออกโน่น เป็นเกาะกระดาด ถ้ามีเวลาอาจจะได้ไป  เกาะกระดาดเป็นเกาะเดียวที่รัชกาลที่ 5 ทรงพระปรีชาสามารถจึงโปรดให้ออกโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสำแดงสิทธิความเป็นประเทศไทย"
                   ไม่งั้นเสร็จฮุนเซน

            
                                                                           ปลามารอรับแขกเพียบ     

                  เรือนำเที่ยววิ่งตะบึงผ่านสายลมเย็น ละอองน้ำทะเลกระเด็นใส่ บางเม็ดเข้าปาก เค็มดี เบื้องหน้าผมเป็นเกาะหวายด้านทิศเหนือ มีรีสอร์ทอยู่สองสามแห่งเป็นรีสอร์ทประเภทแบ็กแพ็คเกอร์เสียส่วนใหญ่  ทิวมะพร้าวแสดงอาณาเขตที่ดินทำกินเก่า ชายหาดเห็นอยู่ลิบๆ เรือเบี่ยงไปทางตะวันออกแล้วเลี้ยวตีโค้งเข้าไปยังทิศใต้ของเกาะหวาย บนเขาสูงชันมีต้นไม้ป่าหนาแน่น มีหาดทรายขาวแซมแทรกด้วยต้นมะพร้าว 4-5 ต้น แสดงความมีเจ้าของ 
                  เรือแล่นต่อไปถึงท่าเรือเกาะหวายบีชรีสอร์ท ภาพความสวยใสของชายหาดสีขาวละออ โค้งรับกับน้ำทะเลและเกลียวคลื่นที่โหมใส่ กระแทกกระทั้น ช่างน่าดู

      
                                                                ท้องฟ้าสีคราม สวยใสไหมครับ

                  อาคารรับแขกเรียบง่าย เสาเก๋มาก กรอบด้วยปูนแซมเปลือกหอย ปะการังหลากหลายรูปแบบ 
                  "เศษปะการัง เปลือกหอย เก็บมาจากชายหาดที่คลื่นสาดซัดเข้ามาทุกวัน" 
                  ผู้จัดการรีสอร์ทเล่าให้ฟัง ตามผนังกั้นห้องก็ดารดาดไปด้วยวัสดุธรรมชาติน่ารักเช่นเดียวกัน ชุดสนามไม้สักทองรับแสงแดดและสายลมเก๋ ตั้งอยู่บนชานไม้ริมทะเล น่านั่งอ่านหนังสือครับ
                  "เรือนไม้สักน็อคดาวน์สั่งมาจากแพร่ ส่วนเรือนสร้างใหม่ๆ เป็นแบบครอบครัว ราคาก็ไฮน์เอ็นหน่อย"

                     
                                                               เรือนนอนในร่มไม้ใบบัง ลมโชยเย็นชื่นใจ
  
                   "ส่วนด้านหลังเขาทางทิศตะวันตก เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ยามเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน สีสันและสายลมที่เอื่อยๆ ผ่านช่องเขา เย็นชื่นใจ มีกระท่อมเล็กๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็คเกอร์ชุดหนึ่ง ส่วนริมทะเลเป็นบาร์เบียร์เล็กๆ สำหรับให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน  ราคาค่าห้องพักก็เป็นอีกราคาหนึ่ง รีสอร์ทนี้
จุงรองรับได้ทั้งกลุ่มไฮน์เอ็น และแบ็กแพ็คเกอร์" คุณวีระกรสาธยายให้ข้อมูล ด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
                   "ราคาสอบถามได้หรือเปิดเว็บไซท์ www.kohwaibeachresort.com"

 
                          Teak House สวยไหม                                                              รับลมทะเลยามบ่าย

 
                            ห้องนอนสะอาด สวย                                                                   นั่งเล่นสบายๆ

                    ในช่องแคบๆ มีผาอยู่ซึกหนึ่ง ตั้งตระหง่าน ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นกระท่อมหลังเล็กๆ และต้นเตยทะเลห่มคลุมให้เกิดมิติในภาพถ่ายยามตะวันรอนๆ ดูภาพนี้ซี สวยไหม

     
                                                                       ยามเมื่ออาทิตย์อัสดง

                     ค่ำลง แสงสุรีย์ผ่อนคลาย ลมเย็นโชยมาทุกวินาที
                     กุ้ง กั้ง ปูม้า ปลาเก๋าในฟอยสีเงิน หอยเชลล์ นอนเรียงอบไอร้อนจากเตาปิคนิก คล่องคอด้วยต้มยำทะเลรสแซบ ผัดผักรวมๆ สดๆ น้ำมันหอย ข้าวสวยร้อนๆ ชวนกิน
                    เป็นมื้อค่ำท่ามกลางลมทะเลที่พัดอวล เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น เป็นดนตรีขับกล่อม  

 
                                  กั้ง-กุ้ง น่ากิน                                                                 ปูม้าย่างไฟกลาง

                     ถ้าหลบมาพักผ่อน เงียบๆ มีความเป็นส่วนตัวมากๆ ท่ามกลางธรรมชาติ ชายหาด แสงจันทร์ แสงดาวที่พราวพร่าง น้ำทะเลใสๆ กับเสียงคลื่นที่กระทบชายหาด สุดยอด
                     หลังอาหารเพื่อนกลุ่มหนึ่งนั่งร้องคาราโอเกะ กระหึ่ม แต่สำหรับผมค่ำคืนที่มีเสียงดนตรีทะเลขับกล่อม สายลมห่มคลุม และบรรยากาศน่านั่งเล่นที่ชายทะเล ช่างชวนให้หลงไหล
                     คิดถึงใครบางคนที่เคยเนา และคิดถึงความหลังครั้งเมื่อยังมีแรงโลดแล่น 
                     อากาศที่เย็น สดชื่น นอนหลับสบายๆ แม้ไม่เปิดเอร์

 
                             รุ่งอรุณ งามเหลือใจ                                                         จิบกาแฟรับอรุณรุ่ง..เยี่ยม 

 
                     ดื่มกาแฟ   รับลมทะเลยามเช้า                                                      ดำน้ำตื้นดูปะการัง

                      เช้าตรู่ แสงสีทองทาบทาขอบฟ้ากว้าง ผมเดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศแสนงามไว้ในไฟล์กล้อง เรือรับนักท่องเที่ยวลอยคว้างอยู่กลางทะเล เป็นองค์ประกอบภาพกับภูเขารูปเต่าเบื้องหน้า พระอาทิตย์กำลังจะเริ่มบทบาทและหน้าที่ ผมกดชัตเตอร์กล้องเป็นระยะ ๆ ด้วยว่าโอกาสเช่นนี้มีได้ยาก ไม่รู้ว่าจะอีกเมื่อไรถึงจะได้มา
                      เพื่อนๆร่วมทริปช่วยบันทึกภาพแทน ผมนั่งเป็นองค์ประกอบภาพริมทะเล บนชุดนั่งเล่นไม้สักเก๋ จิบกาแฟร้อนทีละนิดๆ กลัวหมดแก้วแล้วต้องไปชงใหม่ กลัวเสียจังหวะแสงและภาพที่จะได้ 

 
                        น่ารัก...น่าชัง ทั้งแม่และลูกๆ                                                      โอ้...เหนื่อยนะจ๊ะที่รัก

                      หลังอาหารเช้า ทุกคนแต่งองค์ทรงเครื่อง ดำน้ำตื้นดู "ปะการังสีน้ำเงินที่มีเพียงแห่งเดียว"
 ณ ชายหาดเกาะหวายบีชรีสอร์ทเท่านั้น เป็นปะการังหายากที่สวยงามมาก ดำนำขบวนโดยคุณวีระกร 
                      สิ่งที่เห็นไม่เหมือนที่ท้องทะเลอื่นๆ แต่ก็น่าเสียดายที่แหล่งปะการังแห่งนี้ถูกคลื่นจากทะเลซัดแรงไปหน่อย มันหักสะบั้นโดยธรรมชาติพิโรธ 


 
                                     สวยจังฮู้                                                              กิ่งเขากวางปะการังสีน้ำเงิน

 
                               ปะการังอ่อนสีเขียว                                                         ปลาสีฟ้าสดใส....อัศจรรย์

                      "มันกำลังฟักตัวและเติบโตเร็วมาก ผมมาดำดูทุกเดือน เห็นครับว่ามันกำลังสร้างตัวกันอีกแล้ว กิ่งเขากวางที่หักไปตกตรงไหนก็เติบโตตรงนั้น" 
                      อีกไม่นาน จะมีกลุ่มปะการังสีน้ำเงินเต็มท้องทะเลแห่งนี้ ให้เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ

                  
                                                        นักท่องเที่ยวหมุนเวียนเปลี่ยนกันมาทั้งวัน 

                        นักท่องเที่ยวที่ซื้อออฟชั่นดำน้ำดูปะการังถูกปล่อยลงทะเล ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ แต่ผมไม่รู้ว่าชาติไหน ภาษาอะไร เห็นแต่ว่าเป็นฝรั่งอั้งม้อแน่นอน  ไม่ใช่บัณฑิตจากอ็อกฟอร์ดนะครับ ผมมันพวกไทยแลนด์แดนปลาแดกครับผม ก็เลยรู้แค่นี้แหละ...มาร์ค
                        "ทุกวัน จะมีเรือพานักดำน้ำดูปะการังมาที่นี่ เพื่อจะดำดูปะการังสีน้ำเงิน บ้านเรามีทรัพยากรทางทะเลที่ขายได้เยอะนะ"
                        ท่านวีระกร เล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจที่ปกป้องและอนุรักษ์ปะการังสีน้ำเงินหน้าบ้านไว้ได้  
 
 
                          สาวชุดดำผู้มาดมั่น.........อื้อฮือ เมย์                                                พ่อกับลูกก็ชอบ

                         หลังอาหารกลางวัน เตรียมอุปกรณ์ของใครของมันลงเรือล่องท่องทะเลอีกแล้ว 
                         "ผมจะพาไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะรังใหญ่ แต่จุดดำน้ำดูปะการังชื่อเกาะทองหลาง อีกราวๆ 30 นาทีก็ถึงครับ" คุณวีระกรเปล่งเสียงกังวานแข่งกับเสียงเรือ                        
 
 
                              ห้องอาหารริมทะเล                                                           นั่งเล่นหน้าอาคาร
                       
                   เรือนำเที่ยวบึ่งไปทางทิศใต้ของเกาะหวายบีชรีสอร์ท 30 นาทีถึงเป้าหมายเกาะรังใหญ่ แต่จุดที่ลอยเรืออยู่ที่เกาะทองหลาง ซึ่งคาดว่าชื่อน่าจะมาจากมีต้นทองหลางอยู่เยอะ แต่ก็ไม่เห็น ที่เห็นไกลๆก็ไม่รู้ว่าต้นอะไร ฮ่วย!!
                   รู้แต่ว่าเกาะนี้เป็นกองหินระเกะระกะ ท่วมทับกันเป็นชั้นๆ สลับซับซ้อน  เรือนำเที่ยวทุกลำจะหันหัวเรือออกนอกเกาะแล้วทิ้งสมอ เพื่อปล่อยนักดำน้ำตื้นทั้งหลายลงสู่ห้วงมหานที   
                   ทีท่าดูตื่นเต้นกันทุกคน


 
                   เรือนำเที่ยวที่เกาะทองหลาง                                                                    ปะการังรูปแปลกๆ

                   มีเรือลอยล่องท่องดำน้ำจอดอยู่รอบๆเกาะหลายลำ นักดำน้ำดูปะการังแวกว่ายในสายธาราอย่างหนาตา คณะของสื่อมวลชนก็ลงไปร่วมด้วยช่วยกันแสวงหาความสวยงามใต้ทะเล
                   มีปะการังอ่อนหลายสี ปะการังสมอง   ปะการังเขากวางสีน้ำเงินไม่มีเลย หอยมือเสือเยอะไปหมด ปลาหรือครับ หลากสียังกับดำดูในตู้เลี้ยงปลาสวยงาม มีทั้งปลาน้ำตื้นตามผิวน้ำและใต้ผิวน้ำ เวียนว่ายไต่หากินไปตามก้อนหินและปะการังนานาชนิด 

  
                                  ปลาสวยแปลก                                                                   ปลาข้างเหลือง

 
                             ซากปะการังชนิดหนึ่ง                                                     นี่ก็อีกรูปแบบหนึ่ง

                   ดำผุดดำว่ายกันอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ ไม่รู้จักเหนื่อยอ่อน เพียงว่ายวนไปวนมาระยะ 5-10 เมตร เท่านั้น ก็จะได้เห็นสารพัดพืชและสัตว์น้ำสวยงามเวียนว่ายเข้ามาให้ชมไม่ขาดสาย ครั้นจะนับดูว่ากี่ชนิดกันแน่ก็นับไม่ทันและลืมเสียบ่อยๆ จนหมดความพยายาม
                   แต่บอกได้คำเดียว การเดินทางมาครั้งนี้มีแต่กำไรกับกำไร ไม่น่าเสียดายเวลาและเงินตราเลย คุ้มเกินคุ้มครับ 
                   "ปลาตัวดำๆ ปากแดงๆชื่อปลาอะไรครับ" ผมตะโกนถามท้ายเรือ
                   "ปลากะรังปากแดง" เสียงตะโกนตอบดังไม่แพ้กัน
                   "ปะการังเป็นแผ่นๆ บางๆ ชื่ออะไรครับ"
                   "ปะการังจานบิน"

                  
                                                                           ทะเลทอง ผ่องอำไพ

                   ตะวันคล้อยเคลื่อนเลื่อนไปที่ 16 นาฬิกา ได้เวลาเคลื่อนทัพกลับเกาะ เพื่อไปยลยินกับแสงสุรีย์ที่ท้ายเกาะ ฝั่งตะวันตกของเกาะหวายบีชรีสอร์ท ไปชมแสงสีทองที่ทาบทาแผ่นน้ำ สะท้อนเกร็ดสีทองพราวพราย ความแปลกตาของทะเลทองยามค่ำย่ำสุรีย์โรย ให้มิติแห่งความงามที่นิยมบันทึกภาพเก็บไว้ในไฟล์ความทรงจำประทับใจ ลมทะเลยามเย็นพัดพรูกระทบผิวหน้า แสงสีทองอาบไล้ไปบนเส้นผมปลั่งดุจสีทอง
                   ร่มเงาต้นเตยทะเลกลายเป็นโฟร์กราวน์ที่ได้จังหวะ ภาพซิลลูเอท งามงดเหลือพรรณนา

                   

                   อีกกลุ่มหนึ่งพายเรือแคนู บางคนนั่งอ่านหนังสือ บางกลุ่มเสวนาเหมือนว่ากลัวจะไม่ได้พบเจอกันอีก เป็นวันคืนที่อิงแอบแนบทะเลทองอย่างสุขสม เป็นภาพประทับใจฝังในไมโครชิพท์สมอง เป็นความทรงจำที่ตราตรึงใจ คิดถึงคราใดก็ไม่วายถวิลหา
                   อยากมาอีกแน่นอน อยากมานอนปรับโคร้งสร้างอารมณ์และความรู้สึก ปล่อยวางสมองให้ปลอดโปร่ง และเติมเต็มความพึงพอใจกับใครสักคน อื๋ย..อื๋ย!!

                      

Tags : kohwai Trad -INBOUND

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view