http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,066,593
Page Views16,378,818
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบตอน 9 หลังคาร้านอาหารพี่นึก โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบตอน 9 หลังคาร้านอาหารพี่นึก  โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ
ตอน9.  หลังคาร้านอาหารพี่นึก

โดย อินทรี ดำ

         
การระดมทุกหน่วยงานในพื้นที่เดียวกันมาทำงานภายใต้การบริหารงานคนเดียว  ทำให้ทิศทางการบริหารมีเอกภาพ  สายการบังคับบัญชาสั้น  ทันเหตุการณ์  ใกล้ชิดพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรป่าไม้  งานจัดการป่าไม้ดำเนินการไปตามระเบียบของเงื่อนไขป่าสัมปทานทำไม้ระยะยาว   งานปลูกป่าเศรษฐกิจด้วยไม้สักและงานปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำด้วยไม้ไม่ผลัดใบยังเหมือนปกติ เพียงแต่ต้องเจียดงบประมาณมาสนับสนุนงานป้องกันและปราบปรามมากขึ้น ตามระบบการบริหารใหม่

          ถ้างานป้องกันและปราบปรามได้ผล  ป่าถูกทำลายน้อยลง  การปลูกป่าก็เบาบางลง  แต่สำหรับชาวบ้านร้านค้าในท้องถิ่นที่ห่างไกลจากความเจริญ  การหาซื้อไม้ถูกต้องตามกฎหมายจากโรงเลื่อยหรือโรงค้าไม้ ยาก ไปซื้อทีละเล่มก็ไม่มีใครมาส่งให้ถึงที่ ครั้นจะซื้อมากๆคราวเดียว ชาวบ้านก็ไม่มีเงินซื้อ ชาติหน้าก็ยังปลูกบ้านสร้างรังให้ลูกอยู่มีอู่ให้นอนตายไม่ได้

          การเข้าป่าหาไม้เถื่อนจึงเป็นเรื่องปกติสำหรับชุมชนที่อยู่ใกล้ป่า  ซึ่งแต่เดิมทีเดียว กรมป่าไม้เคยมีการให้อนุญาตตัดไม้ใช้สอยเพื่อการสร้างบ้านได้  แต่ด้วยเล่ห์กระเท่ของโรงเลื่อยทั่วประเทศ แอบดอดมาใช้สิทธิ์ตัวนี้แทนชาวบ้าน พูดง่ายๆ ซื้อสิทธิในการขอใช้แทน  ชาวบ้านได้เงิน พ่อค้าได้ไม้  ข้าราชการที่เกี่ยวข้องได้เงินค่าบริการ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่

           แต่ชาวบ้านก็ยังต้องสร้างบ้านอยู่ดี ในที่สุดก็หันเข้าหาป่าเลื่อยไม้เถื่อน ซื้อจากพ่อค้าตัวแสบเช่น สจ., ตำรวจ, ป่าไม้ 

          ที่สำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 วันนี้มีประชุมฝ่ายอย่างเคร่งเครียด

          ช่วงนี้ หน้าแล้ง ผมอยากขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันออกตรวจเป็นพิเศษ ใกล้เปิดเทอมลูกๆ  เว้นว่างจากงานไร่  โดยออกสายตรวจ 3 สายคือ สายหนึ่งขอให้พี่ชัยใช้รถแลนด์โรเวอร์หน่วยป้องกันและปราบปราม นำคณะประกอบด้วย พี่ชัย  โตมร  เอก  ศรีคนขับรถ และลูกจ้างประจำ  ยงค์    ไปทางน้ำมวบแล้ววกล่องเข้าบ้านห้วยเลา  สายที่สองลุงเกียรติไปทางบ้านสันทะและขุนสถาน แล้วย้อนกลับทางเดิมสายนี้ใช้รถสีขาวของธวัช บุญสม   แก้ว  และคนงานอีก สามคน   ส่วนสายที่สาม ผมจะนำคณะปีศาจขาวไต่เขาขึ้นไปทางนาน้อย-บ้านโคก แล้วจะย้อนกลับมาทางเดิมตอนกลางคืน มีสมชาย ประเสริฐ สวัสดิ์ ทวี สา

            มณีสั่งการเบ็ดเสร็จก็เลิกประชุม   

             หลังอาหารกลางวัน ทุกสายออกเดินทางไปตามแผนการ  เสบียงสำหรับมื้อเย็นถูกจัดเตรียมไว้ให้แล้ว   ปืนลูกซองห้านัดมีเพียงสี่กระบอกจึงต้องแบ่งกันไปตามสภาพที่มีอยู่  น้ำมันเชื้อเพลิง  เงินสำรองจ่ายพิเศษจากกองกลางที่หัวหน้าสะสมไว้  เบี้ยเลี้ยงพิเศษสำหรับคนที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงตามกติกาที่ตั้งขึ้น         สายตรวจสำนักปีศาจขาวออกเดินทางไปตามแผน  แวะเข้าตลาดเพื่อส่งข่าวปล่อยที่ร้านค้า


                     
                                                                 พญากระรอกดำ
         
ไปทางไหนหัวหน้า พี่นิจคนขายหมูหน้าตลาดถาม

          บ้านโคกอุตรดิตถ์  เส้นนี้ไม่เคยไปอยากไปดู เห็นว่าทะลุไปบ้านม่วงเจ็ดต้นติดลาวได้อยากไปดูแล้วว่าจะเลยไปวกกลับทางน้ำมวบเวียงสา คงสว่างโน่นแหละครับ

        เหนื่อยแทนหัวหน้าจังเลย พี่นิจส่ายหน้าแล้วหัวเราะ

มณีพูดเหมือนการคุยโต้ตอบปกติ  พี่นิจพยักหน้าแล้วจัดการเรื่องน้ำแข็งและน้ำดื่มส่งให้  สมชายออกรถสายตรวจวิ่งผ่านร้านอาหารพี่นึกที่เคยกินข้าว สมชายพูดขึ้นลอยๆ 

หลังคาร้านยังไม่มีไม้มั้ง  เลยไม่มุงสักที เสียงหัวเราะฮึๆ

          นั่นซิ  ตั้งแต่แกย้ายมาปลูกบ้านที่นี่แล้วต่อโรงอาหารหน้าบ้านก็เห็นคาอยู่นั่นแหละ มณีพูดต่อ

          เฮ้ย  แกอาจจะเปิดโล่งๆ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศก็ได้นะ

          เสียงหัวเราะดังเบาๆ เหมือนขำ

          คงอีกไม่นานต้องหาไม้มาใส่แน่ ประเสริฐเสริมต่อ

          รถพุ่งขึ้นไปตามถนนสายนาน้อย-บ้านโคกเช่นที่เคยไป พนักงานด้านหลังนั่งโต้แดดลมเหมือนไม่รู้สึกร้อนหรือเย็น

           ถ้าเจอจังเบอร์มิลูบหน้าปะจมูกอีกหรือป่านศรนารายณ์      

          สมชายแซว

           ก็งั้นมั้ง เรามานั่งกินข้าวร้านแกนานกี่ปีแล้ว  ตั้งแต่ปีพ.ศ.2522จนถึงวันนี้ปี2530 รวม 9 ปี ตอนมากินสมัยนั้นลูกสาวพี่นึกยังเล็กๆ  แต่พอปี2529ปลายปีที่เราจัดงานบอลล์หาเงินตั้งกองทุนสวัสดิการผู้สูงอายุภูพยับหมอกบอลล์ มีการประกวดนางงาม ลูกสาวพี่นึกได้เป็นนางงาม โตเป็นสาวเต็มตัวเลย  สวยจริงๆมณีเล่าถึงความหลัง

           ปีศาจขาววิ่งดิ่งขึ้นไปถึง กม.16 สันปันน้ำระหว่างน้ำแหงกับน้ำน่าน  มีทางแยกซ้ายมือเข้าไปยังไร่เหล่าที่ชาวบ้านตีนเขาขึ้นมาบุกรุกกันมายาวนาน  มณีรีบบอกสมชายให้หันเหรถเข้าไปตามเส้นทาง

          ไปดูหน่อยมันเข้าไปลึกแค่ไหน 
         
รถไต่ไปตามถนนขนส่งพืชไร่ ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ  บางจุดเป็นเนินกว้างจนเมื่อลงไปยืนดูจะเห็นแม่น้ำน่านได้ชัดเจน มีหน้าผาที่เรียกกันว่า"ผาหัวสิงห์"ตระหง่านอยู่ริมดอย  นี่ก็อีกจุดหนึ่งที่น่าตั้งหน่วยงานเพื่อปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำ มณีเรียกประเสริฐมาคุยใกล้ๆ แล้วกางแผนที่ระวาง 1
:50,000 ดู

          สูงจากน้ำทะเลปานกลาง 880 เมตรครับ  เป็นขุนต้นน้ำกาดที่ไหลไปลงน้ำแหงที่บ้านศรีษะเกษครับ

          พื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกหลายพันไร่อยู่นะ  น่าจะราวๆ 7-8 พันไร่ได้ มณีคาดเดา  กวาดสายตาไปรอบๆ อย่างสุขุม ประเสริฐมองตาม

          ปีหน้าเจียดงบปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกมาลงที่นี่สัก 250 ไร่ ดีไหมประเสริฐ  


                               
         
สมชายนั่งพิงเบาะหลับตาอยู่ ส่วน สวัสดิ์ สา ทวี เดินไปเดินมาคุยกันเหมือนปกติธรรมดา  มณีเดินกลับประเสริฐเข้าที่นั่งประจำ ทุกคนกระโดดขึ้นรถตาม สมชายตื่นขึ้นแล้วสตาร์ทรถดังกระหึ่ม

          กลับ เข้าแผนเดิมคร๊าบ มณีสั่งค่อยๆ

          สายตรวจสำนักยังคงตั้งเข็มทิศไปที่บ้านโคกอุตรดิตถ์   รถปีศาจขาวพุ่งลิ่วลงดอยผ่านผาชู้หน้าผาที่ทีเรื่องเล่า แล้วข้ามแม่น้ำน่าน  เลาะเลียบไปตามแม่น้ำน่าน แยกเข้าซ้ายไปตามทางมุ่งสู่บ้านโคก  แต่พอผ่านผืนป่าเต็งรังที่เต็มไปด้วยโขดหินซึ่งมีรูปทรงแปลกตา  ต้นไม้กำลังผลิใบอ่อน เมื่อตกกระทบกับแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ เกิดประกายระยิบระยับ มณีมองผ่านหน้าต่างออกไปด้วยความรู้สึกถึงคุณค่าแห่งสีสันพรรณไม้ป่าที่สวยจับใจ  พอถึงเนินสูงสุด มณีส่งสัญญาณให้สมชายหยุด แล้วเดินลงไปถ่ายรูปสวยๆไว้                   

                                

         
ใบไม้ป่าผลิใบอ่อนสวยนุ่มไปอีกมิติหนึ่ง  บางต้นให้ใบอ่อนสีสนิมเหล็ก บางต้นสีเขียวอ่อน บางต้นสีแดง และบางต้นสีปูนแห้ง มันเป็นความสวยงามที่หาไม่ได้ในเมือง  ป่าเท่านั้นที่เสกสรรค์มันขึ้นมาตามธรรมชาติ

           มณีพรรณนาด้วยอารมณ์สุนทรี  ประเสริฐและสมชายได้แต่ฟัง ไม่มีความเห็นใดๆ เหมือนชายผู้ปราศจากอารมณ์โรแมนติก แต่ถ้าเป็นในวงเหล้าหรือรัมมี่ จะได้ยินสองหนุ่มกระเซ้าเหย้าแหย่กันอย่างคึกครื้น นี่คือความแตกต่างของมนุษย์ ชอบในสิ่งที่ตนเองชอบ ไม่ชอบในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ

          ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง แสงแดดหลบเหลี่ยมเขาไปแล้ว  แต่รถปีศาจขาวยังวิ่งไปเรื่อยๆ ด้วยเส้นทางที่ไม่ราบเรียบนัก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หลายสิบกิโลเมตรไม่พบหรือเจอเหตุการณ์การทำไม้เถื่อนๆ เลย เซ็งจริง  

          สุดเขตอำเภอนาน้อย ถนนลาดฝุ่นยิ่งแย่มากขึ้น  บ้านโคกเป็นหมู่บ้านกลางป่าจุดเชื่อมต่อกับอำเภอนาน้อย มีป่าเบญจพรรณเป็นหลัก ไม้สักมองเห็นได้ทุกตารางเมตร ไม้ประดู ไม้มะค่าโมง และไม้ชิงชันยังหนาตา นี่ถ้าเข้าออกสะดวกและอยู่ใกล้ชุมชนก็คงจะหมดไปนานแล้ว

          ตะวันลับทิวแมกไม้ มืดสนิท  สายตรวจจอดรถใต้ร่มไม้ใหญ่ต้นหนึ่งริมทาง แต่มีลำห้วยเล็กๆ ที่น้ำใสไหลผ่านแก่งหินเสียงดังแซ่ๆ  ส่วนยกกล่องข้าวห่อที่เตรียมมาแจกกันคนละห่อ  กระติกน้ำใบเก่าใส่น้ำและน้ำแข็งเย็นเฉียบตั้งกลางวง  น้ำยาเพิ่มพลังสีชาถูกรินใส่จอกประจำแล้วเวียนกันคนละหนึ่งกรุ๊บ เรียกน้ำย่อยและเพิ่มรสชาติอาหารที่เย็นชืดและฝืดคอ

          มีข้าวเหนียวหมูแดดเดียวอีกห่อใหญ่  ใครไม่อิ่มต่อได้เลยนะ สมชายร้องบอกพลางแกะห่อข้าวเหนียวนึ่งออก แล้วแผ่กลางวง

          หลังอาหารค่ำ ทุกคนหามุมงีบชั่วครู่  เวลาที่ผ่านไปช่างเชื่องช้า ดูนานนับชั่วโมง มณีสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเอะอะมาจากหลังกระบะรถปีศาจขาว

          เก้งๆ  เร็วๆ ปืนๆ อยู่ไหน ส่วนเรียกหาปืนลูกซองที่สวัสดิ์คว้าไปหนุนนอน  มณีโดดลงไปแล้วร้อง

          เฮ้ย!  ห้ามยิงนะ  มองกวาดไปที่กลุ่มส่วน สา ทวี และสวัสดิ์

          ถ้าเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือคณะทำเสียเอง จะไปไล่จับคนอื่นได้อย่างไรกัน


                              
         
มันเคยมือครับ  ส่วนพูดพลางยกมือไหว้หัวหน้าด้วยท่าทีสำนึกผิด  ทุกคนขึ้นรถแล้วสมชายก็ออกรถกลับทางเดิม

          ไปต่อก็คงพ้นเขตสำนักเราไปแล้ว เดี๋ยวก็งามอีกแหละ สมชายพูดขึ้น

          ปีศาจขาวยังคงตะบึงไปตามเส้นทางเส้นเดิมแต่เป็นการวิ่งย้อนกลับ  ถนนที่เป็นหลุมบ่อทำให้การเดินทางกลางคืนช้าไปอีก 

          ถ้าไม่พบการกระทำผิดใดๆ คงถึงสำนักราว ตีสองกว่าๆ

          มณีพูดเบาๆ พลางก็มองตามแสงไฟที่ส่วนส่องไปตามแนวป่า  บางทีก็เห็นบ่างเหวี่ยงตัวหลบกิ่งไม้ เก้งกระโดดผ่านเร็วมาก กระรอกดำไต่ลงมาตามต้นไม้   ร่องรอยไม้เถื่อนหรือกลับไม่พบอะไรเลย 

           การออกตรวจวันนี้ใช้เวลาครึ่งวันกับครึ่งคืนเข้าไปแล้ว ยังไม่พบอะไรเลย   เหตุการณ์ช่างไม่เป็นใจ    รถวิ่งข้ามแม่น้ำน่าน แสงจันทร์ส่องสว่างจ้า เวลายามสองเข้าไปแล้วหรือนี่ สมชายจอดรถกลางสะพาน ดับเครื่องและไฟหน้ารถ ทุกคนลงไปบิดขี้เกียจ อากาศกลางป่าเย็นชื่นใจ รู้สึกปลอดโปร่ง ลมเย็นพัดต้องผิวกาย หายเหนื่อย

          มณีมองกวาดไปไกลถึงบนยอดเขา พลันสายตาก็เห็นแสงไฟรถส่ายไปส่ายมาตามโค้งขอบเขา  มณีไล่ทุกคนขึ้นรถแล้วให้สมชายเหยียบเต็มที่  รถวิ่งใกล้เข้าไปทุกขณะ  แสงไฟจ้าข้างหน้าหลุบหายไปหลังสันปันน้ำ  รถปิศาจขาววิ่งข้ามสันปันน้ำแล้ววิ่งจ่อก้นรถบรรทุกไม้ขนาด 4 ตันเบื้องหน้า

          รถ 4 ตัน มีไม้เต็มเลยพี่ ไม้ยาวด้วย

          สมชายร้องขึ้นด้วยความดีใจ มณีเร่งให้ติดตามเพื่อที่จะอ้อมไปดักหน้าขอตรวจจับกุม  แต่รถวิ่งลงดอยสูงไม่ง่ายอาจพลาดลงเหวลึก

           เป็นไปดังคาด พอรู้ว่ามีรถตาม คันที่มีไม้เต็มก็เหยียบยกกำลังสอง  เสียงเครื่องยนต์ครางกระหึ่มไปทั้งราวป่า

               เกมส์การๆล่ล่าเริ่มขึ้น บนไหลเขาสูงและทางลาดฝุ่นสีแดง การขับเคลื่อนรถต้องมีความระวังมากขึ้น   แต่ถ้าขับชักช้าก็ไล่ไม่ทัน สมชายเหยียบสุดเท้าคันเร่งจมติดพื้น  รถพุ่งใกล้เข้าไปทุกที และเกือบถลาออกนอกโค้งไปหลายครั้ง  แต่รถไม้เถื่อนฝีมือเยี่ยม ปาดโค้งได้หวาดเสียวทุกโค้ง  ไล่กวดกันจนถึงถนนพับผ้า กม.7 รถสองคันต่างต้องลดความเร็วลงกว่าเท่าตัว 

แต่พอพ้นเนินสุดท้ายต่างเร่งเครื่องเต็มกำลัง รถปีศาจขาวเกือบจะแซงได้หลายครั้งแต่แรงเหวี่ยงกระแทกของรถใหญ่ ทำให้ต้องยอมอ่อนแรงลง  ยิ่งเมื่อลงมาถึงทางราบลาดยาง ต่างบึ่งกันเต็มอัตราศึก รถวิ่งผ่านหน้าร้านพี่นึกเสียงดังกึกก้อง เสียงไม้กระแทกพื้นดังก้อง   เสียงล้อบดถนนดังเอี๊ยดแล้วเอี๊ยดเล่า ก็ยังไล่กันไม่ทัน 

                 รถสี่ตันวิ่งเข้าสามแยกร้านจินดา แล้วเลี้ยวซ้ายแหกโค้งไปอย่างเฉียดฉิว  พอถึงประตูสถานีตำรวจนาน้อย รถสี่ตันเลี้ยวเข้าไปจอดพรืดหน้าสถานีตำรวจ  สมชายจอดประกบ

พอมณีก้าวลงจากรถ จ่าพลและจ่าแก้วรีบเดินเข้ามายกมือไหว้แล้วพูดขึ้น

                 “พี่มณี ผมจับมาเอง  โธ่ ! ไล่กวดกันอยู่ได้

                 ตำรวจบนโรงพักทำหน้าที่เสมียนเวร  จ่ากองร้อยและหมวดหนุ่มเดินออกมาดูความโกลาหลที่ลานจอดรถ บางคนหัวเราะ บางคนยิ้มกว้าง

                “เหรอ!  เอ้าไม่รู้  เห็นขับหนีมาสัก 16 กม.เห็นจะได้ ยาวเลย ดีแล้ว ประเสริฐใช้ ค้อนตรายึดตีหัวไม้ทุกเล่ม บันทึกการจับกุมร่วมกับจ่าเลยนะ

มณีสั่งการเสร็จเดินไปโอบเอวจ่าทั้งสองคน    แล้วเดินขึ้นไปบนโรงพัก หมวดเดินมาทักทายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จ่ากองร้อยและสิบเวรหัวเราะด้วยอารมณ์ขัน

                “มันจับตัวมันเองว่ะ

                แล้วจ่ากับคณะก็หัวเราะกันด้วยความขบขัน มณีตีหน้าพาซื่อเพื่อปกปิดพฤติกรรมจ่าตำรวจสองคน ของกลางเป็นไม้ยางแปรรูปไม้หน้า 3 นิ้วครึ่ง หนา 3 นิ้ว ยาว  8 เมตร จำนวน 50 เล่ม  หน้า 5 นิ้วหนา 1 นิ้วครึ่ง ยาว4.50 เมตร จำนวน 36 เล่ม หน้า 6 นิ้วหนา 1 นิ้วยาว 8 เมตร 6 เล่ม เก็บรักษาของกลางไว้ที่สำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2  ส่วนรถบรรทุกสี่ตันจ่าพลและจ่าแก้ว ยืนยันว่าขอยืมรถผู้ใหญ่บ้านศรีษะเกษมาบรรทุกส่งคดี 

                 ทุกคนลงชื่อในบันทึกการจับกุม จ่าพลและจ่าแก้ว จดปากกาลงนามร่วมจับกุมด้วยสีหน้าเหยเก ตำรวจเวรยิ้มพยักพเยิดใส่กัน และกัน มณีและคณะลากลับ รถไม้ตามมาส่งของกลางที่สำนักงาน

                อีกสามวันต่อมาหลังการตรวจปราบปรามตามปกติ สายตรวจจะต้องแวะไปกินข้าวเย็นก่อนออกตรวจที่ร้านพี่นึก มณีเดินไปสั่งรายการอาหารกับพี่นึกโดยตรง เมื่อสั่งเสร็จก็อดเอะใจไม่ได้และด้วยความสนิทสนมกันมายาวนาน มณีพลั้งปากถาม

                “พี่นึก  เปลี่ยนบรรยากาศร้านหรือไง ?  เปิดหลังคาโล่งแจ้งแดงแจ๋เลย  นานแล้วนะครับไม่เห็นเสร็จสักที

                พูดเสร็จก็จะหันหลังกลับไปนั่งรออาหาร เสียงพี่นึกตะโกนมาเต็มเสียง

                “จะไม่เปิดโล่งแจ้งแดงแจ๋ได้ยังไงเล่า ก็คืนก่อนมณีไล่ต้อนเข้าโรงพักไปหมดเลย

                มณีฟังแล้วก็ตีหน้าปูเลี่ยนเต็มที  ทีมสายตรวจก้มหน้าหัวเราะงอหาย แอบสบตากันปะหลับปะเหลือก  พี่นึกกลับเข้าไปต้มยำปลาคังตามสั่งทันที  กับข้าวมื้อนั้นอร่อยกว่าปกติ ข้าวหมดสองหม้อ พี่นึกคงอารมณ์เดือดเลยใส่เครื่องไม่บันยะบันยัง รสแซบจริงๆ

                “เฮ้ย ใครสังเกตมั้งไหมวะ พี่นึกแกถุยน้ำลายใส่ต้มยำให้เรากินหรือเปล่าวะ อร่อยผิดปกติ ”  มณีปุจฉา เล่นเอาทุกคนสะอึกพร้อมกัน

Tags : Tiger line Forester life The Forester

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view