http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,067,840
Page Views16,380,331
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

พระราชนิเวศน์ มฤคทายวัน โดย สาวภูไท

พระราชนิเวศน์  มฤคทายวัน   โดย สาวภูไท


พระราชนิเวศน์ มฤคทายวัน

“สาวภูไท”

 

          หมู่อาคารที่วางตัวเรียงตามชายหาดริมทะเล สร้างด้วยไม้ใต้ถุนโปร่ง  แบบไทยผสมยุโรปสีหวานละมุน   ตั้งอยู่ท่ามกลางแมกไม้ร่มรื่น และสนามหญ้าเขียวขจีนั้นคือ 
          หมู่พระตำหนัก มรดกทางสถาปัตยกรรมล้ำค่าของชาตินาม   พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน 

                        

         
พระตำหนัก สีหวานชวนฝันแห่งนี้หันหน้าออกสู่ทะเลรับลม  เคยได้รับการขนานนามว่า  ”พระราชนิเวศน์แห่งความรักและความหวัง”  ตั้งอยู่ในบริเวณค่ายพระรามหก   ตำบลห้วยเหนือ  อำเภอชะอำ  จังหวัดเพชรบุรี

                        

            ชาวคณะของเรามาถึงเมื่อสาย ๆ แดดจ้าแจ่ม  เพื่อนหลายคนรวมทั้งฉันด้วยต้องเช่าร่มคันละ ๑๐ บาทเพราะต้องเดินเข้าในส่วนที่เป็นพระตำหนัก  เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ ซึ่งมีมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ  หลายคนเช่าจักรยานขี่ไป  เพราะในบริเวณค่ายมีป่ากว้างใหญ่จัดแบ่งส่วนให้เป็นที่ท่องชม  และศึกษาธรรมชาติในป่าริมทะเลด้วย


          

            แหนวกับเพื่อนบางคนบอกว่าเคยมาชมพระตำหนักนี้บ่อยครั้งแล้ว  จึงพอใจจะเดินดูสินค้า ของที่ระลึกคอยอยู่ในส่วนทางเข้า  ฉันคิดว่าเพราะมีสินค้าสวย ๆ งาม ๆ ชวนซื้อด้วยนั่นแหละ  แถมมีร้านอาหารใต้ร่มไม้ให้นั่งหลบแดดอีกด้วย  ฝ่ายจัดการของเพื่อนเราคุณเวไนย  คุณนิคมรีบไปจัดการเรื่องบัตรผ่านสำหรับเพื่อน ๆ คนที่ต้องการเข้าชมพระตำหนัก
                    

          แดดจ้าก็จริงแต่ถนนสู่พระตำหนักตัดตรงผ่านป่าร่มครึ้ม  ริมถนนสองข้างมีทิวไม้ดอก  ไม้ใบ สวยแปลกเรียงรายส่ายไหวเป็นทิวแถว  เป็นเส้นแบ่งระหว่างป่ากับถนนทางเดิน  กลิ่นหอมของดอกไม้โชยกรุ่นมาต้อง  ตั้งแต่ก้าวแรกที่ผ่านประตูใหญ่เข้ามา  เสียงนกบางชนิดทักทายลงมาจากต้นไม้สูง ๆ เสียดายไม่เข้าใจภาษาของมัน  ไม่งั้นคงได้รู้ว่ามันดีใจ หรือรำคาญใจกันแน่ที่มีผู้คนมากมายเดินไปมาไม่ขาดสายอย่างนี้

            
          

            เกือบจะสุดถนนซึ่งมุ่งตรงสู่ทะเล  ถึงซุ้มประตูเข้าสู่บริเวณที่ตั้งพระตำหนักซึ่งอยู่ทางขวามือ   กำลังจะเลี้ยวเข้าไปเห็นคุณนิคมกวักมือเรียกอยู่ข้างหน้าบอกว่าฉันต้องเอาบัตรประจำตัวไปแลกผ้าห่มคลุม  เพราะวันนี้ฉันสวมเสื้อแขนสั้นกุดมา  ฝรั่งหลายคนทำท่าไม่เข้าใจเจ้าหน้าที่ที่ซุ้มต้องคอยอธิบาย  ฉันได้ผ้าฝ้ายทอมือสีเหลืองสดใสมาคลุมไหล่  ซึ่งก็ดีไม่น้อยกันแดดไปในตัวด้วย

        

            ที่ประตูทางเข้าสู่บริเวณเป็นพระราชนิเวศน์มฤคทายวันมีส่วนที่เป็นห้องจัดแสดง  และจำหน่ายสินค้า  ของที่ระลึก สวยงาม  ฝีมือประณีตให้แวะชมสำหรับผู้สนใจ  ก่อนจะผ่านทะลุสู่เงาแมกไม้  อันเป็นเสมือนด่านแรกที่จะเข้าชมความงามแห่งสถานที่
ที่ครั้งหนึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์  พร้อมฝ่ายในและเหล่าข้าราชบริพาร

           
                       

              ทันทีที่เดินผ่านประตูเข้ามา ที่จัดไว้สวยงามเป็นกลุ่มเป็นซุ้ม มีชื่อตามเรื่องในวรรณคดีที่เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖
 เสียงดนตรีไทยสำเนียงเสนาะดังแว่วมาให้ได้ยิน  ฉันรีบเดินตามเพื่อนหลบลอดแมกไม้จนผ่านทะลุสู่บริเวณทางเดินผ่านสนามหญ้าสีเขียวขจีที่โอบล้อมพระตำหนักสีหวานทางด้านขวามือ  ส่วนทางซ้ายเป็นด้านสู่ทะเลมีแนวรั้วแห่งริ้วดอกไม้บานไสวอวดสีสัน

                    

            ด้านล่างของพระตำหนักองค์แรกนั่นคือที่มาแห่งเสียงสำเนียงเสนาะ  เพราะนักร้องนักดนตรีไทยวงใหญ่นั่งบรรเลงเพลงไทยเดิม  ทำนองพลิ้วหวานให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้ยินยล

            เห็นแล้วให้นึกกระหวัดถึงพระองค์ท่านผู้เป็นเจ้าพระราชนิเวศน์นี้ขึ้นมาทันที  ไม่แปลกใจเลยว่าทรงเป็นกวีเอก  ทรงรักการดนตรี  การประพันธุ์  ได้ทรงพระราชนิพนธ์กลอนที่เอ่ยถึงความสำคัญของดนตรีไว้ในบทละคร

             ชนใดไม่มีดนตรีการ  ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก
             อีกใครฟังตนตรีไม่เห็นเพราะ  เขานั้นเหมาะคิดกบฏอัปลักษณ์..."

             ใช่แล้วค่ะ  พระราชนิเวศน์มฤคทายวันแห่งนี้  เป็นพระตำหนักที่ประทับพักผ่อนริมทะเลที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ โปรดให้สร้างขึ้นในปี ๒๔๖๖  และแล้วเสร็จในปี ๒๔๖๗  ก็ ๘๖ ปีมาแล้ว

           

           ก่อนนั้นมีตำหนักที่ประทับริมทะเลที่ทรงโปรดมากอยู่ที่หาดเจ้าสำราญ  ใกล้เพชรบุรี  แต่พระตำหนักนั้นอยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านชาวประมงมากนักทำให้ข้าราชบริพารบ่นว่ามีแมลงวันเยอะ  และกลิ่นไม่ดีด้วย  จึงทรงโปรดให้รื้อพระตำหนักที่หาดเจ้าสำราญมาปลูกใหม่ที่นี่ซึ่งเดิมเป็นป่าเขาห่างจากชุมชน  พระองค์โปรดเกล้าฯให้แบ่งพื้นที่เพียงส่วนน้อยติดทะเลเป็นเขตพระราชนิเวศน์  ส่วนพื้นที่ส่วนใหญ่ที่เหลือให้คงสภาพธรรมชาติไว้ให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าที่มีมาแต่เดิม  ทั้งให้ประกาศเป็นเขตอภัยทานด้วย เป็นบริเวณที่เคยมีสัตว์ป่าชุกชุม  โดยเฉพาะกวาง  ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ  มฤคทายวัน

                        

            หมู่พระตำหนักประกอบด้วยพระที่นั่งสามองค์ต่อเชื่อมกันตลอด คือ 

พระที่นั่งสุนทรพิมาน  พระที่นั่งไพศาลสาคร  และ พระที่นั่งสโมสรเสวกามาตย์

ทั้งหมดเป็นอาคารไม้ ใต้ถุนโปร่งโล่ง หลังคามุงด้วยกระเบื้องสี่เหลี่ยม พื้นล่างเป็นซีเมนต์  ต่อเชื่อมถึงกันด้วยระเบียง  และบันได

            พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงร่างแผนผังการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง  โดยมีเจ้าพระยายมราช (ปั้น  สุขุม) เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้อำนวยการสร้าง เสร็จแล้ว  เคยเสด็จมาประทับที่นี่ ๒ ครั้ง คือในปี๒๔๖๗  และ ปี ๒๔๖๘  ซึ่งเป็นปีสุดท้ายก่อนเสด็จสวรรคต

            หลังจากนั้นพระราชนิเวศน์ มฤคทายวันก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง  จนกระทั่งได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ตามรูปแบบเดิมทั้งหมด  เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี ๒๕๓๗  ปัจจุบันเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันเวลา 08.30-16.30 น.เว้นวันพุธค่ะ  

 

Tags : พระราชวัง ชะอำ เพชรบุรี รัชกาลที่ 6

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view