เยี่ยมเยือนปะการังเมียนมาร์ ที่เกาะ St.luke Island :รอยต่อความสัมพันธ์ โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                             เยี่ยมเยือนปะการังเมียนมาร์ ที่เกาะ St.luke Island
                                                :รอยเชื่อมต่อความสัมพันธ์
 
                                                                                                                โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                  เมื่อเมียนมาร์เปิดให้นักท่องเที่ยวจากบ้านพี่เมืองน้องเช่นประเทศไทย เข้าไปเยี่ยมยามตามไปดำดูปะการังที่เกาะเซ็นต์ลุกได้  ความรู้สึก ตื่นเต้น  ตื่นตาตื่นใจ เหมือนได้เข้าไปดูของแปลกในถ้ำคนรูสมัยเด็กๆที่เปิดให้ชมตามงานวัด แต่เมื่อไปแล้ว อยากบอกว่า ได้อย่างเสียอย่าง ไม่ได้ทั้งหมดอย่างหวัง แต่ก็ได้เกินหวังอย่างที่คาดไม่ถึง
                  ไปครั้งนี้ จึงมีแต่ได้กับได้ครับ



                  จุดเริ่มต้นอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นนทบุรี มีนายแพทย์คนหนึ่งชื่ออนุราช กุลวานิชไชยนันท์ เป็นคนระนอง และหมอคนนี้ไม่ยอมเปิดคลีนิกแต่ชอบชวนเชิญเพื่อนร่วมงานอันประกอบด้วย แพทย์ด้วยกัน พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล บุคลากรทั่วไปของโรงพยาบาลไปท่องเที่ยว ปีหนึ่งๆหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีบริษัททัวร์เป็นของตนเอง ของเพื่อนๆก็ไม่มี ไปเที่ยวแบบคนชอบพอกันไปด้วยกัน "คอเดียวกัน" ว่างั้นเถอะ
                  นั่นคือเป็นกลุ่มชอบเที่ยวสบายๆ ไม่เร่งร้อนและไม่เคร่งครัด 



                  ผมติดร่างแหไปกับเขาด้วย เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน รถปรับอากาศขนาดสองชั้นจำนวนกว่า 55 คน เจ้าประจำ ไปเร็วกลับช้าไม่ว่ากัน สบายๆ อีกเหมือนกัน ลูกทัวร์มีตั้งแต่อายุ 73 ปีลงมาจนถึงเล็กที่สุด 3 ขวบ จำนวนเด็กราวๆหนึ่งในสี่ของลูกทัวร์ ราคาทัวร์ ออกค่ำวันศุกร์ กลับบ่ายวันอาทิตย์ ถึงโรงพยาบาลจุดเริ่มต้น ดึกไม่เกิน 5 ทุ่ม กำลังดี แม้ว่ายังอยากเที่ยวและพักมากกว่านี้ 



                   เป้าหมายการเดินทางนนทบุรีถึงชุมพร ระหว่างนี้เข้าห้องสุขาเป็นระยะๆ ช่วงผ่านจากชุมพรไประนองถนนคดเคี้ยวไปตามสันเขา หมอกลงขาวโพลนไปทั่ว สวยงามจับใจ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รูปเลยสักรูป  รถยนต์ไปถึงจังหวัดระนองเช้าตรู่ แวะเข้าห้องสุขาล้างหน้าล้างตาที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่เจ้าหนึ่งใกล้ตัวเมือง ผมรู้สึกทึ่งที่เจ้าของปั๊มนี้ใจดีมาก จอดเข้าห้องสุขาแล้วก็ไป ไม่ได้สนับสนุนปั๊มสักอย่างก็ไม่มีใครมาว่าอะไร เออแน่ะ  คนระนองนี่ใจดีจริงๆ ฮู้ 
                  


                   อาหารเช้าแนะนำเจ้าแรกอยู่มุมถนนลุวัง เจ้าของร้านขอให้ทัวร์จดรายการที่สั่งแล้วโทรมาแจ้งล่วงหน้า จะได้เตรียมไว้ก่อน ร้านนี้เป็นร้านโจ๊กภูเก็ต แต่มาเปิดกิจการที่ระนอง มีทั้งโจ๊ก  บะกุ๋ดเต๋  ข้าวต้มเครื่อง  ต้มเลือดหมู  อร่อยครับ
                   ตรงข้ามกันเป็นร้านกาแฟโบราณ โต๊ะหินอ่อนกลมเก่าๆ เจ้าของร้านดูท่าทางก็โบราณเช่นกัน รสชาติกาแฟก็แบบโบราณ ไม่ใช่กาแฟผสมเหมือนทั่วๆไป  ทีเด็ดอยู่ที่ ขนมหน้าร้าน คล้ายข้าวเกรียบอ่อน หรือก๋วยเตี๋ยวหลอด แต่ไม่ใช่ ชื่อเรียกเป็นภาษาพม่า จำไม่ได้ 
                   ผมซื้อติดมือไปอย่างละ 2-3 ห่อ ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ 



                   ผ่านขั้นตอนการทำบัตรผ่านแดนที่ท่าเรืออันดามัน เรือสำราญขนาดใหญ่กว่า 170 ที่นั่ง  บึ่งไปยังทะเลอันดามัน แสงแดดยามสายส่องสว่าง ท้องฟ้าครามเข้ม  ลมทะเลพัดเย็นเยือก แต่เรือลำนี้ติดแอร์ ก็เลยต้องลุกออกไปบนดาดฟ้าเรือ มองโลกกว้างใหญ่ไพศาล เบิกบานใจนัก 
                   เรือแล่นผ่านเกาะสอง อันเป็นที่ตั้งคาสิโนซึ่งอันดามันคลับเป็นเจ้าของกิจการ บนเกาะของเมียนมาร์(พม่า)



                   สายแก่เต็มที หมดเวลาไป 1.30 นาที เรือถึงเกาะไก่ เห็นทุ่นลอยเต็มชายฝั่ง เข้าใจว่าเป็นทุ่นแนวปะการัง แต่ผิดถนัดครับ เป็นทุ่นที่ผูกหอยมุกเลี้ยงไว้กลางทะเล เจ้าหน้าที่เล่าว่า เลี้ยงหลายร้อยล้านตัว ท้องทะเลเขียวสดใส  ชายหาดเห็นขาวละออตา เรือสปีดโบ๊ทขนาดเล็กเทียบข้างรอบริการดำน้ำดูปะการัง
                    เจ้าหน้าที่อันดามันคลับแจกหน้ากากดำน้ำตื้นดูปะการัง เสื้อชูชีพ เกิดความโกลาหลนิดๆ เมื่อบางคนสมบูรณ์เกินเหตุ ต้องเลือกหาชูชีพขนาดใหญ่ๆ 
                    เจ้าตัวเล็กสุด 3 ขวบ มีเสื้อชูชีพให้สวมใส่ด้วย โอ้โฮเฮะ เลย



                    คลื่นแรงมาก น้ำค่อนข้างลึก ปะการังที่เห็นรางเลือนในน้ำทะเลสีคราม ไม่สวยอย่างที่หวัง ไม่สะใจอย่างที่คาด แต่ก็ได้เห็นแล้วว่า ในระหว่างการดำผุดดำว่ายป่ายเปะปะอยู่กลางกระแสน้ำที่มีคลื่นลมแรง ทุกคนต้องช่วยกันระวังภัย ห่วงใยกันและกัน
                    ปลาทะเลตัวเล็กๆแหวกว่ายในหมู่ปะการัง สีไม่สดใสนัก แต่ก็อาจเพราะว่าคลื่นลมแรง น้ำทะเลมีแต่ฝุ่นทราย จึงมองอะไรไม่ค่อยเห็นนัก 



                    ขบวนเคลื่อนที่ไปอีกเกาะหนึ่ง  เป็นเกาะเซ็นต์ลุกนั่นเอง  เรือพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วรี่ แหวกน้ำกระเซ็นผุดพราย ใกล้เกาะเข้าไปทุกขณะ เห็นหาดทรายขาวสะอาดตาแต่ไกล เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะอพยพขึ้นเกาะไปนั่งกินข้าวกล่องใต้ร่มไม้ชายหาดให้สุขสม เข้าห้องสุขาได้สะดวก และพักท้องด้วยการดูขั้นตอนการเพาะเลี้ยงหอยมุก 



                   ตกบ่าย กลุ่มหนึ่งออกไปดำน้ำดูปะการังตามแผน อีกกลุ่มหนึ่งนั่งในห้องแอร์เปิดเกมส์ถนัดมือกันตามประสา  อีกกลุ่มหนึ่งไปเยือนฟาร์มเลี้ยงหอยมุก ฟังเรื่องราวจากเจ้าหน้าที่เพาะเลี้ยงอย่างสนใจ ซึ่งฟังดูแล้ว ไม่ง่ายเลย และเมื่อเพาะเลี้ยงได้มุกเม็ดงามสีขาวลึกล้ำ(Deep white) ก็ต้องนำไปให้เจ้าหน้าที่ของประเทศเมียนมาร์ คัดเลือกไป 30 % เป็นค่าเช่าท้องทะเลเพาะเลี้ยงหอยมุก ส่วนอีก 70 % เป็นของฝ่ายผู้ลงทุนเพาะเลี้ยงซึ่งต้องลงทุนทั้งหมดทุกอย่าง 



                   และหลายๆครั้งการเพาะเลี้ยงผิดพลาด ได้มุกดำก็มี มุกสีทองก็มี ซึ่งราคาไม่ได้อย่างที่หวัง ระหว่างนั่งๆยืนๆรอเรือมารับกลับเรือใหญ่ ได้เห็นฝูงปลาเล็กๆ ซึ่งไม่รู้ว่าชื่ออะไร ฝูงใหญ่มาก บางครั้งก็ได้เห็นปลาฉลามทรายมาไล่งับกินปลาเล็กๆกลุ่มนั้น     
                   ได้เห็นปลากระทุงเหวทะเลตัวเขื่องด้วย 




                   กลุ่มที่ได้ไปดำน้ำดูปะการังช่วงบ่าย เล่าว่า ปะการังสวยมาก มีความหนาแน่นจนแทบไม่น่าเชื่อ ปลาสวยงามมากมายหลายชนิด แต่ไม่มีใครมีกล้องถ่ายใต้น้ำได้เลย แฮะๆ ก็เลยไม่มีรูปมาฝาก 
                    ไปท่องทะเลเยี่ยมเยือนปะการังเมียนมาร์จึงได้อย่างเสียอย่าง ได้คือความสัมพันธ์ระหว่างบ้านพี่เมืองน้อง ได้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมเดินทางที่เห็นอาการชัดเจนว่า ห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน เหมือนครอบครัวเดียวกัน 
                    วันนี้หมออนุราชเป็นหมอที่มีครอบครัวใหญ่เบิ้อเริ้มเทิ้มครับ



                    เรือเข้าฝั่ง ขึ้นรถเจ้าประจำทองเบิ้ม ศักดิ์วัฒนไกรสิทธิ์ โทร.81-8068500
                    กลับที่พักแรม บ้านสุตาเฮ้าส์ในตลาดระนอง โทร.081-7194552  หลังอาหารค่ำก็หลับเป็นตาย แอร์เย็นฉ่ำ จองที่พักและอาหารได้ 
                    ไปท่องทะเลเมียนมาร์ดำน้ำดูปะการังเกาะSt.luke  ติดต่อ ยุพาพรรณ คงบันทึก  โทร.081-3960031  อันดามันคลับ  บริการทุกระดับประทับใจ 

                        
                                                     ตะวันรอนหลังบ่อนคาสิโน