หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
หิ่งห้อยร้อยใจในคลองผีหลอก อัมพวา และอุทยาน ร.๒
“เอื้อยนาง”
เรื่อง-ภาพ
เจ้าแมลงตัวน้อย ๆ ที่ไม่เห็นตัว แต่ส่องแสงพริบพร้อย วิบวับ วนเวียน ในเงาทมึนของพุ่มลำพูริมคลองอัมพวา ยามค่ำคืนวันเสาร์คืนนั้น ช่วยลดความรุ่มร้อน ที่รุมเร้าเพราะความอ้าวอบ จอแจ ของตลาดน้ำยามบ่ายให้กลับกลายเป็นฉ่ำเย็นไปโดยพลัน
มนตร์เสน่ห์แห่งตลาดน้ำ ก็ คือ สายน้ำ และลำเรือ แต่ที่อัมพวากลับแตกต่าง
เพราะยังมีหิ่งห้อยรอคอยให้คุณไปเยือนยล
เรือนพักและคลองอัมพวา
เรือในตลาดน้ำอัมพวาจึงใช่ว่าจะมีเพียงเรือขายอาหาร เสียเมื่อไหร่ ที่แล่นผ่านไปมาปู๊ดป๊าดน่ะ เป็นเรือที่จะพาคุณท่องเข้าไปในลำคลอง ทะลุสู่แม่น้ำแม่กลอง ในตอนบ่ายอาจไปไหว้พระ ชมความงามของสองฟากฝั่ง แต่ในยามค่ำคืน แน่นอนไปดูหิ่งห้อย เจ้าแมลงตัวน้อยที่ไม่เห็นตัว ไม่ส่งเสียง แต่จุดตะเกียงไว้ที่ก้นให้ผู้คนไปแอบชม
เรือขายอาหารลำละชนิด
แสงไฟฟ้าที่เรืองรอง พร่างพราวตามริมฝั่งน้ำ บดแสงดาว บังแสงเดือนแสดง ความเจริญรุ่งเรืองแห่งยุคสมัยคืออุปสรรคในการชมหิ่งห้อย แต่เจ้าของเรือลำเก่งทั้งหลายก็รู้ว่าจะพาผู้โดยสาร ผู้กระหายหิวและโหยหาหิ่งห้อยเล็ดลอดไปหยุดชม ณ ที่ใด พุ่มลำพู พุ่มใด จากคลองอัมพวา อ้อมทะลุสู่แม่กลองผ่านย่านคลองที่ชื่อผีหลอกอ้อมโค้งกลับมาที่เดิม มีพุ่มลำพูอันเป็นที่อยู่ ที่เริงรำ ว่อนเวียนของหิ่งห้อยให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ
ค่ำคืนแห่งแสงสีชายน้ำริมคลองอัมพวา
เรือวิ่งฉิวฝ่าสายลม แหวกสายน้ำแตกกระเซ็น แล้วดับเครื่องลอยลำนิ่ง ๆริมฝั่งใกล้พุ่มลำพู สะกดทุกหัวใจ ให้ทุกสายตาพุ่งไปยังพุ่มพฤกษา ที่มองเห็นเป็นเงาทมึนข้างหน้า แสงวิบ ๆ ยิบ ๆ พริบพร้อย เหมือนเทียนดวงน้อยจุดไว้ไกล ๆ ที่ถูกลมพัดไหวและกวัดแกว่งให้วนเวียน
อาหารทะเลเผาในเรือลอยขายทั่วท้องน้ำ
หากเทียบกับแสงไฟฟ้าที่จ้าแจ่มตามท่าน้ำแล้ว แสงหิ่งห้อยช่างดูน้อยนิด เทียบไม่ติดเชียว แต่แสงนิด ๆ กระจิริดนั้นกลับมีเสน่ห์น่าอัศจรรย์ เป็นเสน่ห์แห่งชีวิตที่เคลื่อนไหวในทำนองเพลงแห่งธรรมชาติ ทำให้ผู้ได้มายลเยือนได้อิ่มใจ
แสงน้อย ๆ นับร้อย ๆ พัน ๆ นั้นจึงยังทรงเสน่ห์เสมอ
ขนมเปี๊ยะโบราณ กาแฟโบราณและปิ้งย่าง
หากคุณมาอัมพวา มีเวลาไม่มาก ไม่ อยากรอถึงยามค่ำคืนที่จะได้ชมหิ่งห้อยพากันจุดตะเกียงเริงร่าเวียนวนละก็ อัมพวายังมีที่หย่อนใจให้ได้ชมอีกหลายแห่ง
ภายในตัวตลาดริมลำคลอง คุณจะได้ลองลิ้มชิมรสชาติเก่าใหม่ ผสมผสาน ร้านคาราโอเกะ ที่คุณเลือกได้ว่าอยากร้อง หรืออยากฟัง ร้านรำลึกวันวานที่จัดการโดยคนวันนี้ที่ยังวัยใส ๆ
คนรุ่นใหม่วัยใสๆ นิยมเลยแหละ
ชิมอาหารที่เรียงรายริมฝั่งน้ำมากมาย หลากหลาย หาได้ตั้งแต่ส้มตำ ต้มยำ ปิ้ง ย่าง อาหารทะเล ไปถึงขนมไทย อิ่มแล้วหากไม่ลงเรือไปไหว้พระก็ลองเดินไปที่ใกล้ ๆ ชื้อสินค้าของฝากของที่ระลึกงานศิลปหัตถกรรมสวย ๆ แล้วไปชมอุทยาน ร.๒ ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม แล้วจะได้รู้ว่า อัมพวาเมืองนี้มีความสำคัญมานานแต่ปางใด
อาหารไทยมากมายให้เลือก
อุทยานพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่าอุทยาน ร.๒ นั้น ตั้งอยู่ด้านหลังของวัดอัมพวันเจติยาราม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม วัดอัมพวันเจติยาราม เดิมชื่อวัดอัมพวา ตามชื่อคลองและชุมชนอัมพวา ตามประวัติเล่าว่า สมเด็จพระรูปสิริโสภาค มหานาคนารี (พระนามเดิม “สั้น” เป็นพระราชชนนีของสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี แห่งรัชกาลที่ ๑)ได้ถวายนิวาสนสถานเดิมของท่านอุทิศให้สร้างวัดขณะที่พระองค์ยังมีพระชนมชีพอยู่ ต่อมาสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีและราชนิกูล ณ บางช้าง ได้โดยเสด็จพระราชกุศลสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จสมบูรณ์ 
พระบรมสรีรังคาร ร.2 และประยูรญาติ
และอีกต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.๓) ทรงสร้างพระปรางค์ขึ้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสรีรังคารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(ร.๒) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าหัวได้บูรณะพระอุโบสถและพระราชทานนามว่า “วัดอัมพวันเจติยาราม”
อัมพวา จึงเป็นชุมชนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย ในสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ เดิมเรียกว่าแขวงบางช้าง
พิพิธภัณฑ์พระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ได้โปรดเกล้าให้นายทองด้วง(ต่อมาคือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ท่านได้มาแต่งงานกับ “คุณนาค” บุตรีคหบดีแห่งบางช้าง (ท่าน ทอง และ สั้น(สมเด็จพระรูปฯที่กล่าวถึงแล้ว) ในช่วงที่กรุงศรีอยุธยาถูกพม่ายกทัพมาล้อม สร้างความเดือดร้อนให้ราษฎรเป็นอันมาก หลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ได้ย้ายครอบครัวกลับบ้านเดิมที่อัมพวา ขณะนั้นคุณนาคทรงครรภ์แก่มากแล้ว และในวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๓๑๐ คุณนาคก็คลอดบุตรชายได้นามว่า “ฉิม”
รอบชานเรือนไทยโบราณ ศาลาการเปรียญวัดอัมพวันเจติยาราม
ในสมัยกรุงธนบุรีหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรีเป็นขุนศึกคู่พระบารมีได้รับราชการรับใช้บ้านเมืองอย่างเข้มแข็งช่วงสร้างบ้านแปลงเมือง และที่สุดก็คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชนั่นเอง
ส่วน “ฉิม” นั้นต่อมาก็คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระชนมายุ เพียง ๘ ชันษาได้ตามเสด็จพระราชบิดาไปสงครามด้วยแล้ว ครั้นได้ ๑๖ ชันษาได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอกรมหลวงอิศรสุนทร ในปีพ.ศ. ๒๓๔๙ ได้เลื่อนขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล อีก ๒ ปีต่อมาพระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคต จึงขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรีดังกล่าว
อัมพวาแห่งนี้จึงเป็นสถานที่พระราชสมภพของพระมหากษัตริย์ไทย และพระบรมราชินี
รัชกาลที่ 2 (พระองค์ฉิม)
อุทยานพระบรมราชานุสรณ์แห่งนี้ เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นทั้งนักรบ นักปกครอง ศิลปิน กวี และช่าง ซึ่งได้พระราชทานศิลปวัฒนธรรมอันงดงามประณีตไว้เป็นมงคลแก่ชาติ
แอคคอเดี้ยน..เก่าคลาสสิค คาราโอเกะ...ใหม่ทันสมัย
หากคุณก้าวเข้าสู่อุทยานแห่งนี้ สิ่งแรกที่ได้สัมผัสคือความร่มรื่นเขียวขจีของแมกไม้ มีส่วนที่เป็นโรงละครกลางแจ้ง สร้างเป็นเนินลดหลั่นสำหรับชมการแสดง ส่วนที่เป็นสวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีพร้อมหุ่นจำลองตัวละครในวรรณคดีเรื่องสังข์ทอง ไกรทอง ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยอาคารทรงไทยปลูกแทรกซอนในหมู่ไม้เขียวดูอ่อนช้อยสวยงามทรงคุณค่า แสดงศิลปวัตถุสมัยต้นรัตนโกสินทร์ สะท้อนให้เห็นลักษณะศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่ การดำรงชีวิตของชาวไทยในยุคสมัยนั้น เหมาะจะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ถึงอดีต หลังจากอิ่มเอมจากตลาดน้ำอัมพวาแล้ว
ร่องรอยอดีตที่ยังเหลืออยู่ ร้านโชวห่วย ณ วันวาน แต่คนรุ่นใหม่เข้ามาจัดการ
การเดินทางสู่อัมพวาก็ไม่ยากเกินไปสำหรับผู้พิสมัยการเดินทาง มีรถประจำทางสายกรุงเทพ-สมุทรสงครามผ่านอยู่แล้วจากสถานีขนส่งสายใต้ หรือจะขับรถไปเองก็สะดวกโดยใช้เส้นทางสาย ๓๕ ไปสมุทรสงคราม แล้วเลี้ยวขวาไปตามป้าย ไม่เกินสิบกิโลเมตร สถานที่สำคัญอย่างนี้ ใคร ๆ ก็รู้จัก รับรองไม่หลงแน่นอนค่ะ แต่ถ้าไปแล้วอยากพักค้างก็มีโฮมสเตย์ให้พักได้หลายแห่ง เป็นบ้านเรือไทย เรือนแถว อยู่สองฝั่งแม่น้ำก็ยิ่งได้บรรยากาศ
เช้าๆตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มกาแฟร้อนๆ และชิมผลไม้หลากชนิด โอ้....วิมาน
เรือนพักโฮมสเตย์ริมน้ำ ที่นอนง่ายๆ แต่มีแอร์
ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดเดียวในประเทศไทยที่เปิดให้ท่องเที่ยวจากบ่ายแก่ๆจนถึงดึกดื่ค่อนคืน อยู่ห่างจากกรุงเทพเพียง 70 กม.เศษๆ
๐๐๐๐