ฉอ้อน ถอนขนบนใบหน้า
“สาวภูไท” เรื่อง-ภาพ
อุบัติเหตุทำให้กางเกงขายาวราคาแพงของเพื่อนเราขาดเป็นรูตรงหัวเข่า หากเป็นกางเกงยีนของพ่อลูกชาย ป่านนี้พ่อคุณคงเอามีดมาหั่นให้ได้รูมากขึ้นสุดเท่ห์ไปแล้ว แต่ไม่ใช่เพื่อนจึงไปเที่ยวปรึกษาช่างอยู่หลายเจ้า เลยได้รับคำแนะนำให้เอาไปชุนที่ถนนเจริญกรุงเยื้อง ๆ วัดเล่งเน่ยยี่ ถนนเยาวราช
คุณฉอ้อน อุดมพรเพิ่มทวี
นี่ไม่ควรจะเรียกว่าเป็นถนนเลย หากถนนหมายถึงเส้นทางเพื่อสัญจรเท่านั้น เพราะบนทางเท้ายาวที่เลาะเลื้อยริมถนนนั้น เป็นที่ทำมาหากินของผู้คนมากมายหลายอาชีพ ช่างชุนผ้าที่เรามุ่งมาหาก็อยู่นี่ ไม่ผิดหวัง พอลงจากรถเมล์เบอร์ ๒๑ ปุ๊บก็มองเห็นเลย นั่งอยู่มุมหนึ่งของถนนเจริญกรุง เยื้อง ๆ วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นช่างสองคนพี่น้องกำลังก้มหน้าก้มตาชุนผ้า พอเพื่อนยื่นกางเกงที่มีปัญหาให้ดูช่างก็ยิ้มและว่า
อุปกรณ์ถอนขนหน้า สวยไปแล้ว
“ได้ค่ะ ค่าชุน ๑๕๐ บาท แต่ไม่เสร็จวันนี้นะอีกสองสามวันค่อยมาเอา”
เห็นงานล้นมือก็น่าเห็นใจ เพื่อนจึงจ่ายเงินค่ามัดจำไว้และนัดวันเวลามารับ
“เดินดูของเก่ากันไหม”
พอกหน้า
เพื่อนชวนซึ่งก็เป็นความคิดที่ตรงกันเพราะริมถนนใกล้ ๆ นั้นมีผู้นำสินค้ามาขายรายเรียง เกลื่อนกลาด จิปาถะ เป็นชิ้นงานศิลปะ งานแฮนด์เมดสวย ๆ มากมายจนลายตา แล ๆ อยู่หลายชิ้นพลันสายตาไปพบป้ายที่ตั้งอยู่ข้างหน้า
“ฉอ้อน ถอนขนหน้าฝีมือประณีต”
น่าสนใจ อ่านแล้วลูบหน้าตัวเองไม่เคยคิดว่ามันก็มีขน
ใกล้ ๆ นั้นมีผู้หญิงหลายคนนั่งให้ช่างใช้ด้ายเส้นเล็กปัดป่ายไปมาไว ๆ วับ ๆ
บนใบหน้า และยังมีนั่งคอยคิวอยู่อีกหลายคน ดูน่าสนใจจึงชวนกันไปดู
“ถอนขนหน้าไหมครับ”
ภาพเกียรติคุณในพิพิธภัณฑ์ของวัดไตรมิตร
ผู้ชายร่างเล็กท่าทางคล่องแคล่วและเป็นกันเองถาม เรายังลังเล แต่ก็อยากรู้เลยมองหน้ากัน ต่างพยักหน้าลองก็ลองละน่าจะสนุกอยู่
“แต่แหมต้องรอนานไหมคะ”
“ไม่นานครับ นั่งครับ เดี๋ยวช่างอีกคนมา”
“งั้นก็ตกลงค่ะ”
รอไม่นานช่างสาว ชื่อ น้องเหน่ง ก็มาถึง เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเราจริง ๆ
ช่างใช้แป้งพอกหน้าให้ขาววอกก่อนใช้ด้ายเส้นยาวเกี่ยวพันด้วยนิ้วทั้งซ้ายขวาให้เป็นบ่วงที่ยืดหยุ่นจับขนอ่อนบนใบหน้าราวกับกรรไกร ว่องไวด้วยความชำนิชำนาญจนดูไม่ทันต้องเป็นด้ายมหัศจรรย์แน่ ๆ เลย
“เป็นไง”
“ก้อ...สบายดี”
ใช่มันให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายด้วย ใช้เวลาประมาณคนละ ๓๐ นาที ค่าบริการ ๑๐๐ บาท เวลามันผ่านไปเร็วด้วยซ้ำไป เพราะกำลังจะเคลิ้ม ๆ ก็เสร็จพอดี
ป้ายโฆษณาง่ายๆ
ถอนขนหน้า เป็นศิลปะของชาวจีนมาแต่โบราณ ช่างฉอ้อนตามชื่อในป้ายคือช่างถอนขนหน้าที่ได้รับการถ่ายทอดมาเป็นมรดกจากบรรพบุรุษ(อาม้า) และต้องการจะสืบทอดต่อไปด้วยการรับสอน มีลูกศิษย์ออกไปทำมาหากินแล้วหลายคนบนถนนที่คลาคล่ำด้วยผู้คน และสินค้า ยังมีมุมเล็ก ๆ ให้ผ่อนคลาย ที่สำคัญทำเสร็จยังให้ความรู้สึกดีใจลึก ๆ ว่าเราจะสวยขึ้น (ฮา)
ขอบคุณช่างน้องเหน่ง
“หนึ่งเดือนมาอีกนะคะ”
ช่างเขาสั่งก่อนจากลา
ย้อนกลับไปนิดนะคะว่า แป้งที่ใช้พอกหน้านั้นเรียกกันว่าแป้งจีนโบราณ ก้อนหนึ่งก็แค่ 20 กว่าบาท วันหนึ่งๆ ใช้กัน 2-3 ก้อน ขึ้นอยู่กับมีลูกค้ามากน้อยเพียงใด แต่มีทุกวัน ก็ราวๆ 8-10 คน/วัน ทีมงานมีอยู่ 2-3 คนรวมทั้งตัวคุณฉอ้อนด้วย คุณฉอ้อนยังเล่าว่า การพอกหน้าด้วยแป้งจีนโบราณเพื่อให้การถอนขนหน้าสะดวกตามตำราที่เรียนมา แต่ไม่รู้ว่า มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าแป้งจะช่วยดูดซับไขมัน ปรับรูขุมขน พอกแล้วก็พันหน้าไว้แล้วทิ้งถ่วงเวลาให้นั่งอยู่เช่นนั้น
สวยได้ง่ายๆใช้เวลาสั้นๆ
เป็นการล็อคลูกค้าให้รอและให้ไปไหนไม่ได้ อันเป็นเทคนิกหนึ่งของการจับลูกค้า อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่ได้ทำเช่นนั้น รอได้ก็รอ ไม่ทำก็ไม่ว่ากัน แต่ด้วยการทำมานานกว่า 12 ปีแล้ว มีลูกค้าประจำมาทำทุกวัน ที่ทำงานคุณฉอ้อนอยู่เยื้องๆสมาคมกวางตุ้ง ตรงข้าม ร.พ.กวงเตี๋ยว ส่วนบ้านอยู่ปากซอยศาลเจ้าเลี้ยงเป็ด ใกล้ๆกันนั่นแหละ แหม ฟังดูแล้วก็น่าคิดนะว่า วันหนึ่งๆ ได้รายได้ 800-1,000 บาท อาจมากกว่าหรือน้อยกว่า เฉลี่ยๆ ก็มากพอควรเชียวค่ะ
เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่ารู้ ทำได้ทุกเพศและวัย ทั้งผู้ทำการถอนและผู้ถูกถอน ทุกวันนี้มีช่างถอนขนหน้ากระจายไปทั่วกรุงเทพ ส่วนจะเข้าห้างหรือเปิดร้านแบบไฮโซหรือเปล่าไม่รู้ ถ้าเจอวันไหน จะบุกไปสัมภาษณ์มาลงให้ได้ความรู้กันอีกนะคะ ราตรีสวัสดิ์ หลับแล้วตื่นขึ้นมาสดชื่น และสวยอย่างที่สาวภูไทไปทำหน้ามานี่..เด้อ
100 บาท ก็สวยได้ค่ะ
๐๐๐๐๐