http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,066,903
Page Views16,379,248
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 16: เฝ้านายได้ดี โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 16: เฝ้านายได้ดี   โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

โดยอินทรี ดำ

17.เฝ้านายได้ดี

 

          ในหนึ่งเดือน  30 วันและ 30 คืน มณีหมกมุ่นกับภาระหน้าที่ปราบปรามมากกว่างานอื่นๆ  งานปกติที่ต้องเซ็นต์ผ่านเอกสารเบิกจ่ายหรือประสานงานหรือรายงานผลงานแต่ละเดือน  มณีใช้เวลาสั้นๆ เพื่อการนั้น แต่ใช้เวลานั่งรถออกตรวจปราบปรามมากกว่า 

          ตั้งแต่มณีรับหน้าที่หัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 มณีเฝ้าอยู่ในหน้าที่เดือนละกว่า 24 วัน  มณีต้องปรับแผนการส่วนตัวมากขึ้น  สัปดาห์เว้นสัปดาห์ถึงจะได้ลงไปเยี่ยมครอบครัว

          “เย็นนี้พี่จะลงไปกรุงเทพ  เยี่ยมครอบครัวหน่อย  อยู่ทางนี้ช่วยกันดูแลด้วยนะ” มณีฝากงานกับประเสริฐและสมชาย 

          “ตั้งแต่เป็นหัวหน้าสำนักไม่ได้เบิกเงินจากกรุงเทพเลยยิ่งไม่มีเหตุจะกลับบ้าน   และอย่าลืมว่าทุกครั้งที่พี่จะกลับ หมาทางคงรายงานการเคลื่อนไหว” มณีมองหน้าประเสริฐและสมชาย ซึ่งทั้งสองคนได้แต่รับปาก

           “ครับพี่”  แต่ในใจกลับโต้แย้งในที

           “เราก็จะได้พักบ้างซี  แกอยู่เราก็ไม่ได้หยุดสักวัน  แกไม่อยู่เราจะหยุดกันไหม”  ทั้งสองคนหัวเราะแฮะๆ แล้วมองหน้ากันยิ้มๆ

            ตะวันรอนจนแทบมองไม่เห็นลายมือ  สาขับรถไปส่งมณีขึ้นรถทัวร์กลับกรุงเทพที่ตลาดอำเภอเวียงสา 

            “กูว่าป่านนี้มันคงรวมตัวกันเรียบร้อยแล้ว  ครู  สมชาย  โน่น บ้านประสิทธิ์ ครูสายธารกำลังคั่วไก่แกล้มเหล้า  ตามด้วยยำวุ้นเส้นแล้วก็ต้มโคล้งปลานิล  ได้ที่ก็ต้องนั่งวงล้อมสี่ขา  เอะ  ขาดขานี่หว่า”  มณีพูดพร่ำไประหว่างนั่งรถมุ่งสู่ท่ารถกลับบ้าน

            “ไม่ขาดครับ  พี่ยูรมาแต่บ่ายแล้ว  เดี๋ยวพี่มนตรีก็จะตามมาเสริม” สาเล่าไปหัวเราะไป

            “ได้เวลาเมาและจั่วตามสูตร” 

            “โถ่! หัวหน้าอยู่ก็ไม่เคยว่างทั้งกลางวันทั้งกลางคืน  แมวไม่อยู่หนูก็ต้องระเริงบ้าง  อย่าคิดมากเลยครับ”    สาออดแทนคนอยู่

             “มึงจะได้ไปรับทำไพ่  มีเหล้าเบียร์แกล้มพร้อมสินะ” สาหัวเราะแฮะๆ แต่ไม่ตอบ

              มณีถึงบ้านเมื่อใกล้รุ่ง  ลูกๆ ยังไม่ตื่น  แม่บ้านมารอรับเข้าบ้านด้วยความตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า  แววตาหวานเยิ้มในชุดนอนบางเบา  มณีวางกระเป๋าแล้วหันไปโอบกอดด้วยความรักและคิดถึง  กดจมูกแน่นกับแก้มอิ่มและหอมกรุ่น ไอรักคุโชนอย่างยากจะยับยั้ง 

              “อาบน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนซิคะ เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาลูกๆ ตื่นนอน”

              แม่บ้านหวานระทึกใจ  มณีผละไปเข้าห้องน้ำแล้วรีบโผเข้าหาอ้อมกอดแสนอบอุ่น  ไอรักพรั่งพรูสู่ความเร้าใจ  นานๆ พบกันทีก็ดีไม่น้อย ความรักความคิดถึงกันและกันช่างเร้ารึงใจ  เสียงเพลงแห่งความรักบรรเลงด้วยทำนองเสนาะ และหวานซึ้ง

               “คิดถึงจังเลย  นอนไม่ค่อยหลับทุกคืน”

               เสียงหวานๆ ผ่านหูแผ่วๆ มือขวาลูบหลังไหล่ด้วยอารมณ์ขาขึ้น  มณีกอดรัดแนบอกแล้วกระหน่ำซ้ำเติมเชื้อไฟให้ลุกโพลง  พลางก็กระซิบแผ่วโผยที่ข้างหู

              “ยังไม่หายคิดถึงเลย  อยากกลับมาหาแม่ที่สุด” 

              เสียงคลอเคล้าเร้าอารมณ์จางหายไปกับเสียงหอบหายใจที่เริ่มติดขัด  วงแขนและวงขากระหวัดรัดแน่นรอบเอวมณีก่อนที่จะหลั่งรสรักอย่างท่วมท้น  ความรักและความสุขผ่อนคลายลงเมื่อมณีพลิกกายลงแนบข้าง  มีหวานใจกอดรัดไม่วางวายอยู่แนบอก

             “กลับบ้านทุกสัปดาห์ไม่ได้หรือคะ  สองสัปดาห์คิดถึงกันนานเกินไปนะคะ” พลางก้มจูบเหนือแนวนม

             “อยากกลับมาอยู่นานๆ แต่ก็อยากก้าวหน้า มันเป็นจังหวะที่ต้องทุ่มเท”

              มณีตอบ รัดวงแขนกระชับอีกครั้ง  และแล้วแสงสว่างจากผู้ปลุกโลกก็สาดเข้ามากระทบม่านตา 

             “พ่อนอนต่ออีกหน่อยนะคะ  เดี๋ยวจะปลุกลูกๆ แต่งตัวไปโรงเรียน  ไปกรมป่าไม้ด้วยใช่ไหมคะ?”

              มณีพยักหน้าแล้วพยายามที่จะโอบรัดต่อเติมความรักความคิดถึงอีกครั้ง แต่...แม่หวานใจกลับบ่ายเบี่ยงตัวออกแล้วกระซิบนัยตาหวานเยิ้ม

              “คืนนี้นะคะ  เดี๋ยวไม่มีแรงไปทำงานกันพอดี” พลางชูสองนิ้ว

               เช้า  ลูกๆ กระโดดลงมานั่งทับอยู่บนอกมณีอย่างแรงจนสะดุ้งตื่น

               “พ่อมาแล้วๆ” 

               ความดีใจได้พ่อกลับบ้านเป็นพลังใจที่ช่วยให้ความสุขใจยิ่งนัก มณีโอบกอดลูกสองแขนสองข้างแล้วหอมแก้มคนละสองที 

                “พ่อคิดถึงลูกๆ จังเลย  มาขอหอมให้ชื่นใจหน่อยซิ  เย็นนี้พ่อจะพาไปกินข้าวนอกบ้านที่ห้างปากซอยดีไหม?

                “เฮ้  เฮ้  ดีค่ะพ่อ”

                 3 วันถัดมา  มณีกลับไปสำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2  และเริ่มต้นงานอย่างเดิม  มณีเฝ้าแต่ไล่ลาดตระเวนไปตามหุบเขาและสันดอยอย่างเข้มแข็ง  มณีไม่เคยไปเฝ้านายคนไหนเลยทั้งป่าไม้เขตแพร่และผู้บังคับบัญชาระดับกรม   มณีกลายเป็นคนห่างนายไปด้วยภารกิจที่อยากจะทำอย่างจริงจัง  ถ้าไม่มีการประชุม มณีก็จะเฝ้าสำนักอยู่อย่างนั้น  การเบิกจ่ายมณีมอบอำนาจให้ฝ่ายการเงินไปดำเนินการ กลไกการบริหารราชการเหมือนปกติ  แต่ผู้ช่วยและนายกลับรู้สึกแตกต่างกับมณีหรือไม่ มณีไม่รู้

                 “ป่านศรนารายณ์ ถึง พญานาคหนึ่ง ....................................”

                เป็นวิทยุรายงานผลการปราบปราม วันละ 1 คดี บางทีก็สองสามวัน 1 คดี  แต่ก็มีบ้างวันละ 2- 3 คดี ผลงานแต่ละเดือนในรอบปี สำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 มากกว่า 24 คดี  มีทั้งคดีใหญ่ที่ได้ทั้งไม้ของกลาง  รถยนต์ของกลาง และตัวคนลักลอบตัดไม้เถื่อน  และคดีเล็กที่ได้แต่ไม้ของกลาง  แต่ไม่พบตัวมอดไม้และอุปกรณ์ใดๆ  เรียกว่าผลงานด้านปราบปรามมีสถิติที่น่าพึงพอใจ  แต่จะมีใครสนใจหรือไม่ มณีไม่รู้เลย

                    

                                                    โดดเดี่ยวเดียวดายคล้ายกับมณี ที่ยอดด้วน

               ช่วง 6 เดือนแรกที่ตั้งสำนักงานผลคดีสูงมากทุกด้าน  แต่หลังจาก 6 เดือนสถิติกลับเนือยลงไป  การปราบปรามได้ผลจนเกิดการหยุดชะงัก  มอดไม้รู้และระวังตัวมากขึ้นๆ  ฉายาปีศาจขาว คือสายตรวจสำนักที่ใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อสีขาวเป็นพาหนะสำคัญ  ธุรการสรุปผลงานและการขอพิจารณาการเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี จากทุกฝ่าย  มณีเซ็นต์ผ่านด้วยการกลั่นกรองอย่างถ้วนถี่

               “คนทำงานต้องได้รับการพิจารณาก่อนเป็นอันดับต้นๆ” แต่ผลที่ตอบกลับมาสะใจ  ได้คนละ 1 ขั้นทุกคนทั้งสำนัก  เสียงวิพากษ์วิจารณ์อึงมี่  เมื่อเห็นรายชื่อคนที่ได้รับการปูนบำเหน็จสองขั้น เสียงพูดด้วยความรู้สึกประชดประชันดังเป็นระยะ

               “หัวหน้า  ปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้ไงครับ ผลงานสำนักเราหนาตากว่าทุกสำนักทุกด้าน”   พี่ชัยโวยก่อน

               “เฝ้านายได้ดี” สมชายเอ่ยขึ้นเคล้าเสียงหัวเราะเย้ยๆ “ไม่เห็นมันทำอะไรเลยนอกจากหิ้วกระเป๋าถือของนาย”

                “แม่ง !  เมาทั้งวันทั้งคืน”

               “แต่เวลามันเมา  มันพูดแต่ละทีจับใจนายโว๊ย”

                “มันพูดยังไงวะ”

                “ได้ครับนาย  เยี่ยมครับนาย  ผมอยู่มาหลายนาย ไม่มีใครเหมือนนายเลย เยี่ยมสุดๆ   สุดยอดนักบริหารครับนาย" 

                 บางทีก็ "มาดของนาย  ท่านอธิบดียังดูแหยๆ เลยนะขอรับ”

                วันนั้น  มณีรู้สึกห่อเหี่ยวที่สุด  วังเวงจนสะท้านใจ  แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้เลย  มีทางเดียว

               “ปิดสำนักงาน เลี้ยงแม่งให้เมากันให้หมด”

                “ประเสริฐไปตลาดกับสมชาย  ยกขาวัวมาขาหนึ่ง  ปิ้งย่างให้หอม  แม่โขงสองโหล  โซดา  มีอะไรยกมากินให้หมด    สา  ส่วน  อ้วน  ลงไปเตรียมสถานที่กลางสระน้ำ  เผ่นไปแจ้งครูโสภณแล้วเลยไปบอกครูอี้ด้วย  ยกวงหิ้งห้อยน้อยแสงมาทั้งคณะ  สาไปขึ้นป้าย "เฉลิมฉลอง X  สองขั้นประจำปี”

            

                                                    ศาลากลางน้ำบ้านภูพยับหมอก

                 คืนนั้นเหล้าหมดเร็วที่สุดเท่าที่เคยกินกันมา  ไม่มีใครชะลอเพื่อพยุงตัวเอง  ทุ่มกันสุดตัวเพื่อให้ลืมความเศร้าสะเทือนใจ  เพลงอย่างนี้ต้องลาออกของบิลลี่โอแกนดังซ้ำแล้วซ้ำอีก  ชาวบ้านแตกตื่นว่าเกิดอะไรขึ้นจึงอุ้มลูกจูงหลานมาออดูกันรอบสระน้ำ  เสียงเท้ากระทืบพื้นดังกระหึ่มด้วยความคับแค้นใจ

                “ทำดีไม่ได้ดี”

                 บางคนโหนขึ้นไปยืนโงนเงนแล้วแหกปากท่องกลอนสอนใจ

                “ทำดีได้ดีมีที่ไหน  ทำชั่วได้ดีมีถมไป”

                 เสียงโห่ฮาป่าดังกลบท้องน้ำและหุบเขา  เป็นความฟูมฟายเฟะฟอนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  มณีดื่มน้ำเปล่าแต่ก็เมาไม่แพ้กัน  ทางออกคือกระทืบเท้าเอาตามใจชอบให้มันสะใจ  เหยียบย้ำความชอกช้ำใจให้มันหมดไป  หิ่งห้อยน้อยแสงเหมือนจะรู้ใจใส่แต่เพลงเพื่อชีวิตที่จังหวะจะโคนเร้ารึงใจ   มณีนั่งมองความเมามายด้วยดวงใจที่อ่อนแรง  กำแก้วน้ำเปล่าแน่นจนเกร็ง  ไม่เข้าใจว่าการรับราชการนั้นช่างเฉไฉได้แค่ไหน  มาตรวัดคืออะไร  ต่อไปจะทำอย่างไร  กำลังใจคนทำงานจะเอาอะไรมาเพิ่มพลัง  ต้องอัดฉีดอีกเท่าไรกว่าความรู้สึกดีๆ ที่เสียจะกลับคืนมา   

                 “พี่  เป็นอะไรไป  หนูว่าช่างมันเถอะ  ไม่ได้ก็ไม่ได้” ครูสายธารเดินเลียบมานั่งข้างๆ แล้วสะกิด มณีเหลียวไปมองด้วยนัยน์ตาพร่าพราย

                 “พี่ทำใจได้  แต่เพื่อนร่วมงานพี่ขวัญสยองหมดอย่างนี้  จะทำได้ยังไง”

                “ก็ปล่อยมันไปตามกรรม  มันเหนือความควบคุมของพี่นี่”

                “ใช่  แต่เราเป็นผู้บังคับบัญชาระดับใกล้ชิด  กลับไม่มีความศักดิ์สิทธิ์เลย  ใครจะเชื่อกันอีก”

                เสียงประกาศเชิญมณีให้ขึ้นไปบนเวที  มณีลุกเดินไปพร้อมแก้วน้ำเปล่า  ทุกคนกลับเข้าที่นั่งประจำรอฟัง  มณียืนนิ่งหน้าไมค์ มือขวากำแก้วน้ำแน่นขึ้น อีกมือจับไมค์แล้วมองไปที่ใบหน้าของแต่ละคนช้าๆ ความเงียบสงัดเกิดขึ้นชั่วขณะ

                “ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่จากหัวหน้าหน่วยต้นน้ำจนเป็นสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 ไม่มีครั้งใดที่ผมจะเสียใจและสะเทือนใจเท่าครั้งนี้  ผมภูมิใจที่มีทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงาน  เข้มแข็ง จริงจัง  จริงใจ  ทุ่มเท  เสียสละ และเหนื่อยยากมาด้วยกันตลอด ขอให้ดื่มให้กับโศกนาถกรรมครั้งนี้  ไชโยๆๆ” สิ้นเสียงมณีก็มีเสียงโห่กันลั่น

                 คืนนั้น  ไม่มีใครรู้เวลาเลิก  รู้แต่ว่า มีคนนอนที่ศาลากลางน้ำหลายคน  วงดนตรีก็ยกวงคาไว้กับที่แต่นักดนตรีและนักร้องหายไป จั่วต่อที่บ้านประเสริฐ สว่างคาตา

 

 

         

Tags : เสือกลิ่นสาบ tiger line Forester Life อินทรีดำ

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view