สัตว์โลกน่ารัก :กาเหว่า หรือดุเหว่า เจ้านกที่ไข่ให้กาฟักไข่
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
บ้านผมอยู่ฝั่งคลองขวา บ้านน้าย้อมอยู่ฝั่งคลองซ้าย ตอนที่ผมโตพอจะจำความได้ได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กดังข้ามฟากมาทุกวัน และบางวันผมก็เห็นน้าย้อมไกวเปลให้เจ้าน้อยนอน เปลที่ผมว่านี่เป็นผ้าขาวม้าผูกปลายหัวท้ายใช้เชือกมะนิลามัดกับเสาใต้ถุนเรือน เสียงเพลงกล่อมเด็กที่น้าย้อมร้องกล่อมนั้นได้ยินอยู่หลายเพลงต่อๆกันไป เหมือนเพลงเมดเล่ย์สมัยนี้ น้าแกร้องจนกว่าเจ้าน้อยจะหลับก็จะไกวแต่เปลเป็นระยะๆเท่านั้น เสียงเพลงหยุดไป ก็ไกวไล่ยุงและให้หลับเพลินหลับนาน น้าย้อมจะเริ่มต้นด้วยเพลงนี้ครับ
เจ้านกกาเหว่าเอย ไข่ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก คิดว่าลูกในอุทร
คาบเอาข้าวมาเผื่อ คาบเอาเหยื่อมาป้อน ..............
จบเพลงนี้แล้วถ้าเจ้าน้อยไม่หลับน้าย้อมก็จะต่อด้วยเพลง
โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ กระต่ายลอยคอ ................
เจรจากันอยู่ "รักนะตัวเอง"
นั่นคือการนำเอาพฤติกรรมของนกกาเหว่า ซึ่งเป็นนกประจำถิ่นของประเทศไทย พบได้ทั่วไป ชอบหลบหลีกเร้นกายในพุ่มไม้ใบหนา แต่ด้วยว่าเมื่อถึงเวลาจะผสมพันธุ์(ช่วงเดือนมีนาคม-สิงหาคม) จะร้องส่งสัญญาณให้ตัวเมียรู้ว่า มามะ ที่รักจ๋า อะไรทำนองนี้ เขาจะบินเข้าหากันทีละนิดแล้วก็ขยับเข้าใกล้กันจนปากแทบจะจดปาก ส่วนตอนถึงบทอัศจรรย์ ขอโทษที มันค่ำมืดจนถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ ชวด ฉลู...
นกกาเหว่าตัวเมียกินผลปาล์ม
หลังการมีสัมพันธ์รักกันแล้วก็ได้เวลาหารังไข่ ถ้าเป็นนกกระจาบก็จะสานรังรวงซะหยดย้อย แล้วก็พานางนกกระจาบบินเข้าชมจนตกลงปลงใจหรือด้วยความรักสุกงอม จึงช่วยกันสร้างรังต่อไป แต่เจ้านกกาเหว่านั้น กระทั่งรังยังไม่ยอมทำ หรืออาจจะทำรังไม่เป็น หรืออาจจะขี้เกียจ ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพอเมียเขาจะไข่ก็ให้ตัวผู้ไปก่อกวนอีกาๆ หลงกลก็ไล่จิกตีนกกาเหว่าตัวผู้ ส่วนนางตัวเมียก็แอบเข้าไปในรังแล้วก็จะเขี่ยไข่อีกาทิ้งไปบ้าง ไข่ของตัวเองก็เข้าไปแทนที่ แสดงว่าไขของอีกากับไข่ของกาเหว่าน่าจะมีขนาดและสีใกล้เคียงกัน เขาจึงไม่รู้ หลงฟักนึกว่าลูกในอุทร
เขยิบๆ เขยิบๆ เข้ามาซิ
พอลูกนกออกจากไข่เขาก็หาอาหารมาป้อนด้วยคิดว่าลูกกูแน่ๆ ฟักมากับอก นี่ก็แสดงว่าลูกนกคงจะมีรูปร่างและสีสันใกล้เคียงกันอีก จนถึงช่วงหนึ่งลูกนกกาเหว่าตัวเมียก็จะมีสีแตกต่างออกไป กลายเป็นขนลายน้ำตาล ส่วนตัวผู้ก็จะมีขนสีดำเหมือนอีกา แต่นิสัยที่ก้าวร้าวจึงทำให้แม่กาเริ่มแปลกใจ ลูกกูแต่นิสัยใจคอไม่เหมือนกู
อย่างไรก็ตาม ด้วยเสียงร้องของนกกาเหว่า "ดุเหว่า" หรือ "กาเหว่า" ทำให้มองหาจนเห็นตัวได้ง่ายขึ้น และ ด้วยเสียงร้องที่แตกต่าง ตาออกสีแดง ปากเขียวเข้มดำ ขาสั้น นิ้วเท้ามี 4 นิ้ว ด้านหน้า 2 นิ้ว ด้านหลัง 2 นิ้ว ทำให้เวลาเกาะคอนต้องเกาะตามยาวของคอนหรือกิ่งไม้ อาจทำให้แม่การู้ว่า นี่ไม่ใช่ลูกแน่ๆ จึงไล่จิกตี ลูกนกกาเหว่าจึงรีบบินหนีจากรังกา และหลบซ่อนตัวในดงไม้ทึบ รอดพ้นสายตาแม่กาที่กำลังโกรธจัดได้
จึงว่ากันว่า นกกาเหว่ากลัวนกอีกา ก็คงด้วยเหตุดังกล่าว
กาเหว่า เป็นนกอยู่ในวงศ์นกคัคคู(CUCULIDAE) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Eudynamys scolopacea ชื่อสามัญว่า Common Koel ตัวผู้สีดำเป็นมัน ตาแดง หางยาว ขาสั้นๆสีเทา ปากแหลมสีเขียวเข้ม ส่วนตัวเมียนั้นมีขนสีน้ำตาลทั้งตัวแต้มแต่งด้วยลายสีนวลๆ ทำให้เหมือนว่า นางนกกาเหว่าตัวเมียนี้ใส่เสื้อลาย ตาแดงเหมือนกัน ขนาดรูปร่างเพรียวพอๆกัน ลำตัวและแถบหางมีสีเหลืองจางๆ
ผมเฝ้าเจ้านกกาเหว่าในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน หลายวัน เรียกว่าช่วงเย็นราวๆ 16.00 น.เป็นเวลาที่ผมวนหาแหล่งนกซ้ำๆ เพื่อถ่ายจนได้ภาพที่พอใจ ยังมีอีกหลายชนิดที่ยังได้รูปไม่พอใจนัก อย่างไรก็ดี ผมโชคดีที่อยู่ใกล้แหล่งดูนกกว่าคนอื่น
นกกาเหว่าในต่างประเทศพบที่อินเดีย จีนตอนใต้ไต้หวัน หมู่เกาะซุนดาใหญ่ เอเซียตะวันออกเยงใต้ ฟิลิปปินส์และออสเตรเลีย สถานะภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ชอบอาหารจำพวกแมลง หรือสัตว์ตัวเล็กๆ และผลไม้ อ่านเรื่องแล้วก็อย่าไปจงเกลียดจงชังเขานะครับ มันอาจจะเป็นวัฏจักรของการกระจายพันธุ์หรือสมดุลธรรมชาติก็ได้ แต่เสียงร้องฟังเพราะกว่าอีกาเยอะเลย
แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยมีใครกล่อมเด็กกันแล้ว เขาเปิดเทปให้ฟังครับ อันว่านกกาเหว่าไม่ทำรังแต่จะไปแอบไข่ให้อีกาฟักนั้นก็ด้วยว่า นกกาเหว่าอยู่ในวงศ์นกคัคคู(CUCULIDAE) ซึ่งนกในวงศ์นี้ทั่วโลกก็ไม่ทำรัง แต่แอบไปออกไข่ในรังนกชนิดอื่นๆเช่นกัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมของนกวงศ์นี้โดยเฉพาะละกระมัง