ICY-ME
แฟรนไชส์”น้ำแข็งเกล็ดหิมะ”น้องใหม่
ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง
ช่วงนี้ไปงานแสดงสินค้าที่ไหนๆ อาหารและเครื่องดื่มยังเป็นธุรกิจที่ผู้คนให้ความสนใจเสมอ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของลูกค้าที่อยากชิมรสชาติหรือผู้ประกอบการรายใหม่ที่อยากจะเข้ามาทำธุรกิจเหล่านี้บ้าง จากประสบการณ์ที่เห็น “น้ำแข็งเกล็ดหิมะ”เป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ค่อนข้างได้รับการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเก่าหรือเจ้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาดนี้เมื่อไม่นาน
ไอซี่-มี (ICY-ME) เป็นยี่ห้อของน้ำแข็งเกล็ดหิมะที่มี”คุณประวัติ เจริญสุขวิพัฒน์” และภรรยา” คุณเกศินี” เป็นเจ้าของ ซึ่งเมื่อไปงานที่ไหนบูธของเขามักเตะตาผู้ผ่านไปมาเพราะใช้สีชมพูหวานแหวว พร้อมพนักงานสาวๆคอยเรียกลูกค้าและแจกโบรชัวร์
000กลุ่มลูกค้านักเรียน-นักศึกษา
คุณประวัติเล่าว่า ก่อนจะมาทำน้ำแข็งเกล็ดหิมะอย่างจริงจัง ทำเกี่ยวกับงานออกแบบเคาน์เตอร์และออกแบบบูธมาก่อน ขณะที่ภรรยาชอบทานขนมหวานอันรวมถึงน้ำแข็งพวกเกล็ดหิมะด้วย จึงนำความชอบของแฟนสาวมาผนวกเข้ากับความฝันของตัวเอง บวกกับความสามารถในสิ่งที่ทำได้ เลยเกิดเป็นกิจการขายน้ำแข็งเกล็ดหิมะสักประมาณปีครึ่งที่ผ่านมา จากนั้นพัฒนามาเป็นการขายแฟรนไชส์ ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดตัวขายแฟรนไชส์เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง
การทำกิจการของเขาและภรรยา เป็นการเริ่มต้นจากก้าวเล็กๆด้วยการขายในตลาดที่มีหลังคาและแบ่งล็อกให้เช่า ต่อมาก็ขยับขยายเข้าไปขายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาแจ้งวัฒนะ ทำให้ได้ประสบการณ์การขายมาในระยะหนึ่ง จึงคิดเปิดหาลูกค้าแฟรนไชส์
สำหรับกลุ่มลูกค้าของ ICY-ME นั้น คุณประวัติบอกว่า เป็นระดับกลางลงมา ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม โดยตั้งราคาขายไว้ที่ แก้วละ20 – 30 บาท อันเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ง่ายและพ่อค้าแม่ค้าก็ขายได้ง่ายเช่นกัน ทั้งนี้ในแต่ละวันจะของค้างขายไม่หมดไม่เยอะ ในภาพรวมแล้วตั้งแต่เริ่มต้นมาก็ไปได้เรื่อย ๆ ไม่มีอุปสรรคปัญหาที่ว่าขายไม่ได้
ในส่วนของทำเล จาการเก็บข้อมูลของ ICY-ME พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น เป็นนักเรียนนักศึกษา ฉะนั้นทำเลที่ดีที่สุดก็คือ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และแหล่งการศึกษา ต่างๆ
000ขายวันละ50ถ้วยอยู่ได้สบาย
คุณประวัติระบุว่า ถ้าทำเลดี ๆ หากขายได้ประมาณวันละ 70 – 80 ถ้วย สามารถคืนทุนได้เฉลี่ยแล้วภายในประมาณ 3 เดือน แต่ถ้าบางคนไม่อยากคืนทุนเร็วขนาดนั้นอยากขายสบาย ๆ หรือไม่มีโอกาสเลือกทำเลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจจะขายได้วันละ 50 ถ้วย ก็สามารถอยู่ได้
ที่ผ่านมาบางสาขาที่ ICY-ME ไปเปิดหน้าโรงเรียน โดยขายตั้งแต่หลังเที่ยงถึงประมาณ 4 – 5 โมงเย็น เด็กเลิกเรียนขายได้วันละ 100 กว่าถ้วย และถ้าขายถ้วยละ 25 – 30 บาท กำไรต่อถ้วยอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกำไรในระดับนี้ในทำเลที่ลูกค้ากำลังเงินไม่สูงนักผู้ขายยังสามารถลดราคาลงมาได้ อย่างเช่นแทนที่จะขาย 25 อาจจะขาย 20 บาท โดยเฉพาะทำเลหน้าโรงเรียนที่เด็กอาจจะมีกำลังซื้อไม่มากนัก ราคาต่อถ้วยลดลงจริงแต่ว่ายอดขายเพิ่มขึ้น บางทีกำไรนอาจจะสูงกว่าที่คาดาหวังก็อาจเป็นไปได้
ทั้งนี้ท้อปปิ้งหลัก ๆที่มีไว้โรยหน้าน้ำแข็งเกล็ดหิมะ จะมีเกือบ 20 หน้า แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ก็คือพวกผลไม่กับอีกส่วนหนึ่งเป็นของขบเคี้ยวบเช่น เป็นซีเรียลหลากหลาย เด็ก ๆ จะชอบมาก ถ้าผู้ใหญก็จะชอบผลไม้
ปัจจุบัน สาขาที่คุณประวัติเป็นเจ้าของเองจะมีแถวติวานนท์ ปากเกร็ด ส่วนที่เหลือก็เป็นของแฟรนไชส์ ซึ่งทะยอยลงก็จะมีที่แถวจรัญสนิทวงส์ ที่ปิ่นเกล้า
ว่าไปแล้วน้ำแข็งเกล็ดหิมะ เป็นธุรกิจที่ใครๆก็ทำได้ เพราะไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนมีแค่เครื่องทำน้ำแข็งเท่านั้นที่ราคาค่อนข้างแพงเป็นหลักหมื่น ซึ่งถ้าจะให้ดีบดน้ำแข็งให้ละเอียดจริงๆต้องเป็นแบรนด์ที่สั่งนำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน
0000ชูจุดเด่นขายง่ายคืนทุนไว
ด้วยความง่ายการทำธุรกิจน้ำแข็งเกล็ดหิมะในยุคนี้ จะเห็นได้ว่ามีหลายเจ้าแข่งขันกันในตลาด คุณประวัติเองแม้จะมาทีหลังแต่ก็ไม่หวั่นและคิดว่าสู้ได้ เพราะเชื่อว่าแฟรนไชส์ ICY-ME มี”จุดเด่นหลายอย่าง ดังที่เจ้สตัวแจกแจง “แฟรนไชส์ของเรามีจุดเด่นคือขายง่ายคืนทุนไว เพราะราคาต่อถ้วยของเราตั้งไว้ถูก ราคามาตรฐานแก้วละ 25 – 30 บาท ในขณะที่เจ้าอื่น ๆทั่ว ๆ เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ 40 บาทขึ้นไปหรือเริ่มต้นที่ 30 บาท นั่นหมายความว่าของเราจะขายง่ายกว่าและคุณภาพจะใกล้เคียงกันคือเราได้ฟีดแบคมาจากลูกค้า ซึ่งเคยคุยให้ฟังว่าเมื่อเทียบกับยี่ห้อดัง ๆ หรือที่ขายแพง ๆ แล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน นั่นคือทำไมของจะต้องไปจ่ายแพงเพื่อกินของที่คุณภาพเท่า ๆ กัน “
000รูปแบบแฟรนไชส์รุ่นเล็ก-ใหญ่
ส่วนจุดเด่นที่ทำให้ขายง่ายและคืนทุนไวอีกส่วนหนึ่งคือ เรื่องของวัตถุดิบต่าง ๆ ทาง ICY-ME จะให้ความรู้กับลูกค้าว่าจะใช้วัตถุดิบประมาณไหนเพื่อ 1.สามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานได้ 2.สามารถทำต้นทุนให้ได้กำไรอย่างที่ตั้งเอาไว้
ในขณะดียวกันราคาแฟรนไชน์ของ ICY-ME จะตั้งไว้ไม่สูงด้วย โดยจะแบ่งเป็นรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ รุ่นเล็กจะอยู่ที่ 55,000 บาท รุ่นใหญ่จะอยู่ที่ 89,000 บาท ซึ่งจะได้บูธหน้ากว้าง
ทั้งนี้ราคาชุดใหญ่ 89,000 บาท นั้น หลายคนอาจจะว่าแพง แต่คุณประวัติรับประกันว่า ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นบูธหรือนอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นเจ้าอื่นในราคา 89,000 บาท จะไม่มีบูธให้ ลูกค้าจะได้เฉพาะอุปกรณ์ สุดท้ายลูกค้าต้องไปหาพวกโต๊ะ ตู้อะไรมาตั้งเอง ทำให้ดูไม่สวยงามและไม่ดึงดูด นอกจากนี้ลูกค้าแฟรนไชส์จะได้รับความรู้ ข้อมูล ที่ทาง ICY-ME จะสอนพวกเทคนิคและเคล็ดลับต่างๆ ให้เพื่อจะสามารถทำกิจการได้อย่างสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากที่สุดเหมือน ๆ กัน
สำหรับชุดเล็กที่มีขนาดบูธ 1.20เมตรนั้น. มีจุดเด่นที่ว่าพกพาสะดวก ถอดประกอบแยกชิ้นขึ้นรถเก๋งได้ด้วย สามารถพกพาไปขายที่ต่าง ๆ เหมาะกับเจ้าของร้านที่ไปขายตามตลาดนัดและงานอีเว้นท์
Oooเน้นขายบูธและอุปกรณ์
คุณประวัติบอกว่า คอนเซ็ปต์ของแฟรนไชส์จะไม่เน้นขายหรือส่งวัตถุดิบต่างๆให้ลูกค้าไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็ง หรือหน้าท้อปปิ้งต่าง ๆ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องสั่งจ ากบริษัทแม้แต่อย่างเดียว สามารถซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ตามท้องตลาด และยืนยันว่าวัตถุดิบทุกชนิดหาซื้อได้ง่าย แต่ทางicy me จะแนะนำให้ว่าควรจะซื้อจากที่ไหน ยี่ห้ออะไรเพื่อจะรักษามาตรฐานทั้งต้นทุนและคุณภาพ เพราะเราเน้นขายเรื่องอุปกรณ์ ตัวบูธและที่สำคัญคือเคล็ดลับมากกว่า
กับคำถามที่ว่าธุรกิจน้ำแข็งเกล็ดหิมะจะยั่งยืนแค่ไหนนั้น คุรประวัติให้คำตอบว่า “บางคนอาจจะมองว่าเป็นธุรกิจที่หวือหวาเป็นแฟชั่น แต่จริง ๆ ด้วยภูมิประเทศภูมิอากาศของเมืองไทยที่มันร้อน ขนมอะไรที่เป็นพวกน้ำแข็ง ๆ น่าจะอยู่ได้นาน อย่างทุกวันนี้ผ่านไป 4 – 5 ปี ความหวือหวาอาจจะลดลงแต่ผมเชื่อว่ามันจะไม่ตาย”
ที่ผ่านมา ทาง ICY-ME ไปออกบูธในงานแฟรนไชส์ที่เมืองทองธานี ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับดี มีผู้สนใจจะซื้อแฟรนไชส์หลายราย ส่วนใหญ่ลูกค้าจะห่วงเรื่องการทำน้ำแข็งและก็เรื่องวัตถุดิบต่างๆ ทางคุณประวัติก็จะอธิบายให้ฟังทุกขั้นตอนจนลูกค้าหายสงสัยและเข้าใจ โดยเน้นการสอนสูตรให้เพื่อคุมต้นทุนและคุณภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
ถึงตรงนี้ถ้าผู้ใดสนใจอยากซื้อแฟรนไชส์ ICY-ME ของคุณประวัติ ติดต่อสอบถามได้ที่ 0818299662