http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,993,589
Page Views16,301,851
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จินตรา สุขพัฒน์ ปั้น “oseki” ประกาศรับตัวแทนทั่วไทย โดยภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ

จินตรา สุขพัฒน์ ปั้น “oseki” ประกาศรับตัวแทนทั่วไทย โดยภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

srangbun@hotmail.com

                                                  จินตรา สุขพัฒน์ ปั้น “oseki”

                                                  ประกาศรับตัวแทนขายทั่วไทย

               เปิดตัวธุรกิจเครื่องสำอางอย่างเป็นทางการมาได้พักหนึ่งแล้วสำหรับ” จินตรา สุขพัฒน์” ในชื่อยี่ห้อ”โอเซกิ”(oseki) ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้นักแสดงรุ่นใหญ่ผู้นี้มีกำลังใจและมุ่งมั่นที่จะขยายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า

OOที่มาของ”โอเซกิ”

               คุณแหม่มย้อนเล่าถึงความเป็นมาที่เข้ามาทำธุรกิจดังกล่าวว่า “หลายคนคงทราบว่าแหม่มเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความงามมาบ้างแล้ว ตอนนั้นเป็นหุ้นส่วนกับเพื่อน แต่พอถึงวันหนึ่งอยากจะทำอะไรของเราเอง ซึ่งคิดว่าทำกับพี่น้องดีกว่าเลยตัดสินใจทำกัน พอดีมีน้องสาวที่เคยทำงานในบริษัทเกี่ยวกับความสวยความงามจึงแนะนำโรงงานผลิตต่าง ๆให้  โดยตัวแหม่มเป็นคนลงทุน ส่วนน้องสาวน้องเขยมาช่วยในเรื่องของการบริหาร แล้วมีพี่มาเป็นเซลล์”

              การใช้ยี่ห้อ “โอเซกิ” อันเป็นภาษาญี่ปุ่นนั้นมีความหมายดีทีเดียว เพราะคำว่าโอ แปลว่า “ยิ่งใหญ่” เซกิแปลว่า”หินผา” รวมความแล้วแปลว่า ความแข็งแกร่งดั่งหินผา ซึ่งคุณแหม่มบอกว่าดูในเรื่องของตัวเลขก็ออกมาดี ความหมายก็ดีด้วย แถมยังอ่านง่ายเขียนง่าย นอกจากนี้ยังเขียนออกมาเป็นโลโก้ก็สวย และสาเหตุที่ใช้ภาษาญี่ปุ่นส่วนหนึ่งเพราะต้องการเกาะกระแส ประกอบกับเครื่องสำอางของแดนซากุระยังเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย และต่างเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของประเทศนี้

               คุณแหม่มแจกแจงถึงจุดเด่นของโอเซกิว่า “คนที่ออกแบบสูตรเครื่องสำอางให้กับโอเซกิเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้รู้เรื่องเทคโนโลยีที่นำมาผลิตเครื่องสำอางต่าง ๆ และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับแบรนด์ดังๆในญี่ปุ่นด้วย ท่านเลยให้คำแนะนำให้คำปรึกษาในเรื่องสารสกัดต่าง ๆ ที่ดี ๆ ซึ่งบางตัวก็มาจากญี่ปุ่นบางตัวมีในประเทศไทยแล้วมาผสมผสานกัน เพราะฉะนั้นโอเซกิจึงมีส่วนผสมของวัตถุดิบทั้งในไทยและจากญี่ปุ่น”

000เน้นสารสกัดเกรดเอ

               คุณแหม่มให้รายละเอียดของโอเซกิว่า  จะมีอยู่ 3 กลุ่ม รวม 6 ตัว คือกลุ่มทำความสะอาด กลุ่มปกป้องและกลุ่มบำรุง ราคาต่ำสุดคือครีมกันแดด 470 บาท ส่วนตัวที่เป็นครีมบำรุงสูงที่สุดคือ 1,750 บาท มูสล้างหน้าที่เป็นโฟมละเอียดอ่อนขวดละ 890 บาท ส่วนครีมบำรุงก็มี 3 ตัว มีเซรั่มที่ใช้บำรุงสำหรับคนที่ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใสจะใช้พวกเซรั่มราคา 1,750 บาท ตัว skin over ซึ่งเป็นตัวที่ราคาสูงที่สุด เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดเมากมายหลายชนิด

               หลายคนเห็นราคาของโอเซกิแล้ว อาจจะมองต่างมุมกันไป บ้างก็ว่าแพง ขณะที่บางคนมองว่าสมเหตุสมผลดี สำหรับตัวคุณแหม่มเองแล้วให้คำอธิบายว่า “ของแหม่มเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเอ  เทียบเท่ากับเคาน์เตอร์แบรนด์ได้เลย เพราะสารสกัดต่างๆ เราเลือกใช้อย่างดี เป็นตัวเด็ด ๆ ที่เป็นที่นิยมกัน  อย่างเช่นนาโนโกลด์ ตอนนี้อะไรๆก็ต้องเป็นนาโน ซึ่งเป็นอณูเล็ก ๆ ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่เวลานี้สามารถสกัดให้อณูของเนื้อทองละเอียดมาก จะช่วยทำให้ซึมเข้าไปสู่ผิวของเราได้ง่ายขึ้น”

               คุณแหม่มย้ำอีกว่า “เครื่องสำอางของแหม่มทุกตัวใช้สารสกัดที่ดีที่สุดเกรดเอที่สุด เทียบเท่ากับเคาน์เตอร์แบรนด์แต่ราคาคนไทยที่หาซื้อกันได้ตั้งแต่ระดับกลางลงล่างเพราะราคาไม่แพงแล้วได้ใช้ของที่มีคุณภาพดี”

000แนะต้องเปลี่ยนเครื่องสำอาง

               ในฐานะนักแสดงที่ผันตัวเองขายเครื่องสำอาง หลายคนคงอยากรู้ว่าคุณแหม่มบำรุงรักษาผิวหน้าและผิวพรรณอย่างไรบ้าง ใช้เครื่องสำอางแบบไหน ทำให้หน้าตาและดูอ่อนเยาว์และสดใสอยู่เสมอ

               เธอแจงว่า“ใช้เครื่องสำอางทั้งของไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่น และแหม่มได้จากตัวเองว่าจะไม่ใช้อยู่ยี่ห้อเดียว พอใช้ไปได้สักพักหนึ่งต้องเปลี่ยนแล้ว มันเหมือนกับหน้าเราพอใช้ไปได้สามเดือนหกเดือนต้องเปลี่ยนแล้ว แหม่มเองลองมาเกือบทุกยี่ห้อแล้ว และแหม่มก็ใช้ของเครื่องสำอางของตัวเอง โดยจะลองทุกตัวจะได้รู้ว่าตัวไหนดี”

               ฟังอย่างนี้เชื่อว่าสาวๆหลายคนคงอยากทดลองใช้กันบ้างแล้ว ยิ่งมีคุณแหม่มเป็นพรีเซ็นเตอร์เอง เชื่อว่าคงดึงดูดทำให้ใครต่อใครอยากพิสูจน์ว่ายี่ห้อโอเซกิของดาราเจ้าบทบาทคนนี้ดีจริงดังคำกล่าวหรือไม่

              ใครที่เห็นหน้าตาของคุณแหม่มมักจะนึกไม่นึกว่าสาวใหญ่ผู้นี้อายุ40 กว่าปีแล้ว ถ้าให้เดาคงจะอยู่ในราวอายุ 30 ปลายๆเท่านั้น ลองมาฟังเธอพูดแล้วจะรู้ว่าคุณแหม่มเหมาะจะขายเครื่องสำอางจริงๆ

              “ผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 35 ขึ้นไปต้องการบำรุงผิวเยอะ ๆ บางคนผิวแห้งอย่างแหม่มอายุ 46 จะ 47 แล้วผิวเริ่มแห้งลงเหมือนฮอร์โมนเริ่มลดน้องลง ต้องการครีมบำรุงที่เข้มข้น จะต้องใช้ตัว skin over แล้วก็ตัวเซรั่ม”

000รับตัวแทนขายที่มีหน้าร้าน

              อย่างที่บอกเธอเปิดตัว”โอเซกิ” มาได้หลายเดือนแล้ว และมียอดขายที่ทำให้เธอปลื้มไม่หาย

             “จากที่เปิดตัวมาก็ดีกว่าที่คิด เพราะแหม่มอาจจะโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากพี่ ๆ น้องๆ คนในวงการ และสื่อหลาย ๆ ฉบับก็มาช่วยกันมากมาย หลายคนได้ผ่านหูผ่านตากับชื่อโอเซกิไปแล้ว และตัวแทนที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อนก็มาเป็นตัวแทนให้กับเรา ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น แหม่มจะมีตัวแทนตามห้างหลาย ๆ ที่ เช่น ซีคอนสแควร์ บิ๊กซี เขาจะบูธเล็ก ๆ หรือมีคีออส หรือบางคนมีร้านใหญ่ ๆ ตอนนี้กำลังเปิดรับพวกตัวแทนทั่วประเทศที่มีหน้าร้าน ในบางร้านอาจจะมีหลายยี่ห้อแต่เขาก็มีพื้นที่ให้กับเรา”

                พร้อมกันนั้นคุณแหม่มยังมีบริการ คอลเซนเตอร์ ใครอยากทราบว่าใกล้บ้านมีจุดไหนที่ขายโอเซกิ จะหาซื้อได้ที่ไหน ก็โทรเข้าไปที่ 02-9755599 และยังมีบริการจัดส่งให้ด้วย หรือถ้าใครอยากรู้ราละเอียดข้อมูลความคืบหน้าต่างๆของผลิตภัณฑ์โอเซกิเปิดดูได้ที่ www.marygoldseiry.com

               สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดคุณแหม่มให้ข้อมูลว่า “คือเซรั่ม เพราะคนยังชอบหน้าขาวอยู่ ตามด้วยตัว skin over เพราะคนในรุ่นเดียวกับแหม่มที่ผิวแห้งจะมีเยอะ อีกทั้งคนไทยก็ยังชอบหน้าขาวอยู่หน้าตึงขาวจะชอบก็ใช้เซรั่ม ในตอนกลางวันแหม่มจะแนะนำให้ใช้ครีมกันแดด หรือคนที่ไม่ใช้เครื่องสำอางตัวไหนก็ขอให้ใช้ตัวที่เป็นครีมกันแดดแพราะจะช่วยกันในเรื่องรังสียูวีได้”

 000เหล่าดาราใช้โอเซกิ

               ในระยะเริ่มต้นธุรกิจนี้โอเซกิมีผลิตภัณฑ์รวมทั้งหมด 6 ตัว ดังนั้นคุณแหม่มจึงวางแผนจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอีก  

               “อย่างที่คิดเอาไว้คือคงจะเพิ่มในส่วนของแป้งพัฟ ครีมรองพื้น หรือในเรื่องของครีมบำรุงผิว จะค่อย ๆ เพิ่มไป อยากให้มีแป้งเพราะคนแต่งหน้าในเมื่อรองกันแดดแล้วอาจจะมีแป้งพัฟช่วย ซึ่งสามารถที่จะขายร่วมกันด้วย และเมื่อในวันหนึ่งที่เครื่องสำอางเรามีมากขึ้นคงจะต้องมีหน้าร้านเองด้วย”

                ด้านดารานักแสดงที่ใช้เครื่องสำอางโอเซกินั้น คุณแหม่มบอกว่า “ใช้หลายคน แต่อย่าให้เอ่ยชื่อเลยเกรงใจเขา ก็มีดาราที่มาช่วยงานแหม่ม เราก็จะให้ผลิตภัณฑ์ไปใช้ หรือว่ารู้จักสนิทกันอย่างคุณบุ๋ม รัญญาเขาก็จะใช้ พรรคพวกโทรศัพท์มาเราก็จะส่งให้  พี่จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ใกล้หมดหรือยัง คุณดี้ ชนาภา หรือพี่โหน่งวสันต์ ใกล้หมดหรือยัง บางท่านกริ๊งมาเราก็ส่งให้ หรือพวกน้อง ๆ ที่มาในงานกริ๊งมาเราก็ส่งให้”

 000สร้างความต่างในตลาด

               หากติดตามคราวข่าวในแวดวงความสวยงาม จะเห็นได้ว่าธุรกิจนี้มีเงินสะพัดมหาศาล ใครๆต่อใครก็อยากเข้ามาทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นกลุ่มดารานักแสดงหรือนักธุรกิจอื่นๆก็ตาม รวมทั้งยังมีสินค้าโอท็อปเข้ามาร่วมในตลาดนี้ด้วย ประเด็นนี้คุณแหม่มเองรับรู้ดี และเธอก็พยายามให้ผลิตภัณฑ์มีความต่าง

               “ตลาดเครื่องสำอางมีการแข่งขันกันสูงมาก เราก็ต้องพยายามปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้คุณภาพดีขึ้นอยู่เรื่อย ๆ อย่างที่บอกครีมหรืออะไรต่างๆ พอใช้ไปสักระยะหนึ่งผิวเราจะเริ่มชินแล้ว เราก็ต้องปรับปรุงทั้งในเรื่องของสูตรในเรื่องของสารสกัด อาจจะต้องเพิ่มอะไรลงไป ต้องทำให้คนใช้ไม่รู้สึกว่าว่าใช้ไปแล้วรู้สึกเฉย ๆ ต้องให้เขารู้สึกว่าหน้าดีขึ้นเรื่อย ๆ นี่ก็จะเป็นแนวทางในการทำงานของเรา คือจะปรับปรุงเครื่องสำอางไปเรื่อย ๆ ไม่ให้ผลิตภัณฑ์หยุดอยู่กับที่  พอมีสารสกัดอะไรใหม่ ๆ ก็จะนำมาเพิ่มมาเติม เพราะเราต้องแข่งขันกับอีกหลาย ๆ เจ้า  ทั้งที่เป็นนักแสดงด้วยกันด้วย และที่ทั้งนำเข้าและทำในนี้ ฉะนั้นเราจะต้องไม่หยุดนิ่ง”

                อย่างไรก็ตามแม้จะมีการแข่งขันกันสูง แต่ด้วยกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมากมายหลายกลุ่ม เธอมองว่าธุรกิจนี้ยังไปได้ ที่สำคัญที่ผ่านมาคุณแหม่มเป็นนักแสดงที่เป็นแบบอย่างที่ดีของผู้หญิงไทย และไม่เคยมีเรื่องเสียหาย ฉะนั้นการที่เธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอางของตัวเอง ผู้คนจึงยอมรับและเชื่อถือในผลิตภัณฑ์ด้วย

               “ธุรกิจความสวยความงามก็ยังไปได้ ตัวแหม่มเองเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย ถือว่าแหม่มเป็นตัวแทนที่จะแนะนำอะไรใครได้ และมีความรู้สึกว่าเขาเชื่อมั่นในคำพูดของแหม่มด้วย เราใช้อะไรอะไรไม่ดีก็บอกกล่าวกันไปแล้วเขาก็จะทำตามที่เราพูด ทำตามที่เราบอกแล้วเขาก็จะชอบ จะขอบคุณเราบอกว่าทำตามที่พี่แหม่มบอกแล้วดี เหมือนกับยึดเป็นหลักในการดำเนินชีวิตเลยหลาย ๆ อย่างรวมถึงในแง่ของการใช้ชีวิต ไม่ใช่ในเรื่องความสวยความงามอย่างเดียว”

 000ส่งกาแฟสุขภาพไปอเมริกา

                นอกจากจะขายเครื่องสำอางแล้ว เธอยังขายกาแฟควบคุมน้ำหนักด้วย ชื่อ “บีเชฟบายจินตรา”  แต่ตอนนี้ยังไม่มีขายในไทยเพราะส่งไปในแอลเอ ประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเดียว โดยได้รับความช่วยเหลือจาก”คุณกอบสุข  จารุจินดา” เป็นผู้แนะนำ เนื่องจากมีเพื่อนเป็นเจ้าของซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในลอสแองเจอลิสและในเมืองอื่นด้วย  ส่งครั้งหนึ่งเป็นหมื่นๆกล่อง

              “ปัจจุบันคนทำงานส่วนใหญ่จะอยู่กับโต๊ะ อยู่กับคอมพิวเตอร์ ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวไปไหนจะมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ตัวนี้มีไฟเบอร์และถ้าดื่มก่อนรับประทานอาหารเช้าจะรู้สึกอิ่ม ๆ ช่วยลดการอยากรับประทานได้ แล้วก็จะช่วยในเรื่องของการเดรนน้ำ ช่วยในเรื่องไม่ทำให้ร่างการอ้วนแบบบวมน้ำ

              แล้วก็มีสารสกัดจากปลาทะเลน้ำลึกซึ่งจะช่วยในเรื่องของผิวพรรณ และมีโครเมี่ยมที่จะช่วยเร่งระบบในการเผาผลาญ เราเน้นเรื่องรสชาติ โดยแต่งรสชาติให้ได้ดื่มกาแฟที่ใช้น้ำตาลสกัดเป็นซูโคลส คนที่เป็นเบาหวานก็สามารถดื่มของเราได้”

              ยอดขายกาแฟเพื่อสุขภาพนี้ไปได้ดีทีเดียว ดังนั้นเธอจึงวางแผนจะไปโปรโมทที่นั่นในเร็วๆนี้ เพราะเป็นตลาดคนเอเชียที่ใหญ่ ส่วนเรื่องการขายในประเทศเจ้าตัวมองว่า คิดว่าจะขายเหมือนกันแต่ต้องดูก่อนเพราะตอนนี้ตลาดในบ้านเรากาแฟลดน้ำหนักเยอะมาก อย่างไรก็ตามคนที่ดื่มแล้วก็ถามหาเหมือนกัน

               ผลิตภัณฑ์อีกอย่างที่เธอคิดจะทำส่งออกต่อไปคือพวกน้ำจิ้ม น้ำพริก และน้ำปลาหวาน ตอนนี้กำลังให้โรงงานปรับสูตรอยู่

000หัวใจของการทำธุรกิจ

               ถามถึงหลักในการทำธุรกิจดาราเจ้าบทบาทคนนี้ตอบว่า “แหม่มรักในเรื่องการดูแลตัวเอง ก็รู้สึกว่าน่าจะเหมาะในการทำตรงนี้และอย่างที่แหม่มพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าถ้าเราทำในสิ่งที่เรารักจะอยู่กับเขาได้นาน จะทุกข์จะยากอย่างไรก็มีความสุข  อย่างที่ผ่านมาเราเป็นตัวแทนเหมือนเป็นทูตของความงาม คอยแนะนำคนโน้นคนนี้  ใช้แล้วดีเราก็อยากให้คนอื่นใช้แล้ว สวยอย่างเรา พอทำแล้วมีความสุขเราก็มีความภูมิใจที่จะบอก ไม่เคยเหนื่อย เวลามีคนมาถามคุณแหม่มดูแลตัวเองอย่างไร  เราก็จะพูด ๆ  ๆ ๆ ๆ ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง  การทำธุรกิจอะไรก็ตามสิ่งที่จะทำต้องเป็นสิ่งที่เรารักแล้วเราชอบเราจะได้อยู่กับเขานาน ๆ แล้วจะสามารถทำตรงนั้นได้ดี”

                บทสนทนาทั้งหมดนี้คงทำให้เราๆท่านๆได้เห็นความตั้งใจจริงและหลักยึดในการทำธุรกิจของ”คุณจินตรา สุขพัฒน์”  ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้”โอเซกิ”ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

Tags : นานา..อาชีพ..น่ารู้

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view