http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,961,350
Page Views16,267,723
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบ ตอน 25. บทพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ ตอน 25. บทพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น  โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

โดย อินทรี ดำ

ตอน 25 บทพิสูจน์ความจริงที่เกิดขึ้น

 

               มณีเดินหน้าทำงานโดยไม่เหลียวหลัง ยังออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ และเงื่อนไขในสัมปทานทำไม้ระยะยาว เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

               ในการตรวจปราบปรามมณีเลือกที่จะออกตรวจช่วงบ่ายแล้วไปจบที่มืดค่ำดึกดื่น แทบว่าจะไม่ได้หลับได้นอน สมชายขับรถไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่ประเสริฐคุยเป็นเพื่อน ส่วนมณีนั้นเผลอหลับไปเป็นระยะ ไม่เกิดเหตุการณ์ใดก็ไม่มีใครปลุกมณี

               “ท่าจะเพลีย เมื่อคืนเข้าเมือง เพิ่งกลับตอนสายๆนี่เอง” สมชายเปรยเบาๆ

               “แกเครียด ให้แกไปผ่อนเครื่องเสียบ้างก็ดีเหมือนกัน” ประเสริฐพูดโต้ตอบเหมือนช่วยๆ

               “ก็เครียดมาตั้งแต่เปิดสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 แล้ว เครียดที่อยากทำงานให้ได้ผลสำเร็จ เครียดที่ไปจับตรงไหนก็เจอแต่ผู้มีอิทธิพล หรือไม่ก็ลูบหน้าปะจมูก เป็นตำรวจและข้าราชการที่รู้จักกันทั้งนั้น เฮ้อ” สมชายยังคุยเบาๆ

              “พี่เขามนุษยสัมพันธ์ดี รู้จักคนไปทั่วหมด พอมาเจอกันในสถานการณ์เช่นนั้น ก็เลยรู้สึกเหนื่อย” ประเสริฐเล่าให้สมชายฟัง

               “หน่วยปราบปรามต้องไม่มีหน้าอินทร์ หน้าพรม  ยิ่งไม่รู้จักกันเลยยิ่งดี” สมชายยังไม่ยอมเลิกรา

                “นี่พี่เขาอยู่ที่นี่ 9 ปีกว่า คิดว่าจะมีคนรู้จักเท่าไรล่ะ”

                 รถวิ่งกระดอนไปด้วยหลุมบ่อ มณีสะดุ้งตื่นขึ้นมา มองเหลียวไปเหลียวมา แม้ยังงัวเงีย

                 “ไม่เจออะไรเลยหรือ” มณีถามค่อยๆ

                 “ไม่มีเลยครับพี่ สงบเรียบร้อยจนจะบ่ายคล้อยแก่ๆแล้ว” สมชายแซว

                  รถยนต์ปีศาจขาวยังห้อตะบึงไปตามถนนดินลูกรังสายแก่งหลวงบ้านโคก ป่าสองข้างทางเป็นป่าเต็งรังเสียส่วนใหญ่ เว้นแต่เข้าไปใกล้เขตรอยต่ออำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ จึงเริ่มเปลี่ยนเป็นป่าเบญจพรรณประเภทมีไม้สัก ผ่านจุดที่เคยตรวจเจอรถบรรทุกเปลือยกระบะ

                   “ไปต่อหรือกลับครับ” สมชายถาม

                    “อยากไปเที่ยวบ้านโคกหรือไง ค่ำลงจะหาของกินยาก วกกลับไปทางแก่งหลวง แล้ววนเข้าไปบ้านห้วยเลาก็แล้วกัน เผื่อเจอรถไม้ สจ”

                    มณีพูดแล้วก็มองลอดไหล่ออกไปนอกรถยนต์ ป่าเต็งรังแม้เป็นป่าโปร่ง แต่ก็มีต้นไม้ใหญ่ๆหลายชนิด เช่นมะค่าโมง ประดูป่า ตะคร้ำ มะค่าแต้ นนทรี ฯลฯ ช่วงเวลาหน้าร้อนก็ยังไม่ผลิใบอ่อน กิ่งก้านระเกะระกะเมื่อทาบทาไปบนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ก็ให้ความสวยงามอีกมิติหนึ่ง รถยนต์โขยกไปตามถนนที่คดไปคดมา และกระเด็นกระดอนไปตามสภาพของทาง ไม่ราบเรียบดุจแพรไหม เมื่อผ่านบ้านห้วยเลาก็เลยเข้าไปยังป่าบ้านห้วยสาลี่ ทะลุออกไปก็เจอถนนราดยางสายน้ำมวบ-เวียงสา .ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดโรยตัวลงอย่างรวดเร็ว เหมือนฉากชีวิตที่อาจดับวูบลงในทันใด

                     “แวะกินข้าวที่เวียงสาแล้วกัน กลับไปป่านนี้ น่าจะไม่มีใครหาให้กินแน่”

                     มณีเปรย สมชายก็เลี้ยวขวับ คืนนี้ได้เพียงนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็ได้กินข้าวด้วยกันทั้งทีม ทุกคนตั้งหน้าตั้งตากินๆๆ ส่วนกลุ่มที่ดื่มก็ดื่มๆ แล้วก็รีบกินข้าวจนอิ่มแปล้ มณียิ้มพอใจ “ไม่ได้งานก็ขอให้ได้ใจ” ก็ยังดี

                       คืนนั้นโบ๋เบ๋ ไม่ได้คดีเลย ทุกคนได้กลับไปนอนก่อนเที่ยงคืน ซึ่งน้อยครั้งที่จะมีโอกาสเช่นคืนนี้

 

                     เช้าในห้วงช่วงเวลาหน้าร้อน ไม่มีอะไรให้อ้อยอิ่งนัก ตะวันขยันกว่าฤดูไหนๆ ขึ้นโด่งแต่เช้า มณีลุกจากที่นอน ชงกาแฟดื่มแล้วก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เดินตามชาวบ้านขึ้นไปที่สำนักงาน ผ่านแถวพี่น้องนั่งเรียงรอสั่งงาน ยังได้เห็นรอยยิ้ม เสียงแซวตามมาอีก

                    “เมื่อเดียว เปิ้ลแต่งหล่อตลอดเน้อ”

                     ยายปึ๋ง หัวเราะปากดำปี๋ ด้วยสีหมากที่กิน มณีเหลียวขวับ หัวเราะแห่ๆ แล้วก็ตะโกนโต้ตอบ

                    “คนมันบ่หล่อ ก็ขอหล่อบ้างบ่ได้ก๊ะ”

                    เสียงโต้ของมณีและใบหน้าที่ยิ้มยั่ว กลับชวนให้หัวเราะกันครืน ใช่แล้วมณีเมื่อเป็นหัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำ เขาเป็นกันเองกับทุกคน ไม่มียศชั้น ไม่มีบันไดขีดขั้น มีแต่ความผูกพันที่เขม็งเกลียวเหนียวแน่น มณีมีชาวบ้านเป็นเพื่อนที่เปรียบเสมือนญาติสนิท

                    มณีเดินเข้าไปก็ร้องสั่งกาแฟ 1 แก้ว แล้วก็เดินเข้าห้อง พลิกดูเอกสารที่อาจต้องเซ็นต์ สั่งการ มีใบวิทยุระบุวันที่วันวาน เวลาค่ำกว่า 2 ทุ่ม แจ้งให้ทราบว่า วันนี้ เวลา 10.00 -12.00 น. รองอธิบดีกรมป่าไม้ อุกฤต มหากาฬ พร้อมด้วย ผอ.กองคุ้มครอง และฝ่ายตรวจราชการ จะเข้าร่วมประชุมรับฟังกรณีที่สำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 จับกุมดำเนินคดีบริษัทจังหวัดทำไม้จำกัด  ข้อหาตัดทางชักลากไม้โดยไม่ได้อนุญาต ที่ห้องประชุมป่าไม้จังหวัดน่าน 

                     มณีเซ็นต์รับทราบค่ำสั่งจากวิทยุ แล้วเหลือบดูเวลาที่นาฬิกา เหลือเวลาอีกเพียง 2 ชม. มณีถามหาพี่ชัย แต่ไม่มาทำงานตามปกติ

 

                   มณีเดินทางไปถึงที่ทำการป่าไม้จังหวัด ข้าราชการกรมป่าไม้แต่งเครื่องแบบเต็มยศรอรับท่านรองอธิบดีกรมป่าไม้และคณะกันทั่วหน้า ป่าไม้เขตแพร่และป่าไม้จังหวัดน่านยืนอยู่คู่กัน เหมือนต้อนรับแขกผู้ใหญ่ ส่วนข้าราชการระดับอื่นๆ แต่ละคนยืนเอามือกุมเป้าตามประเพณี ป่าไม้จังหวัดยืนยิ้มเผล่ ในขณะที่มณีเดินเข้าไป ทุกคนหันมามองและนิ่งเงียบกันไปหมด หลายคนหลบสายตาลงพื้น อีกหลายคนยิ้มอย่างมีเลศนัย  มณีเดินเข้าไปแล้วสวัสดีทุกคนตามประเพณี แล้วก็เลี่ยงไปยืนหลบอยู่มุมหนึ่ง  นึกในใจ จับบริษัททำไม้จังหวัดนี่เหมือนทุบหม้อข้าวหม้อใหญ่ ทุกคนรู้สึกไม่สบายใจกันนัก

                   ได้เวลาเข้าห้องประชุม ป่าไม้จังหวัดน่านเรียนเชิญทุกคนที่เกี่ยวข้อง นายสม  พันธุ์พฤกษ์ ผู้จัดการบริษัททำไม้จังหวัดและคณะเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าบึ้งตึง ไม่มองแม้กระทั่งว่ามีมณีนั่งอยู่ตรงกันข้าม ประธานอุกฤต มหากาฬนั่งหัวโต๊ะ ขนาบข้างด้วยผู้อำนวยการกองคุ้มครอง ผู้ตรวจการป่าไม้  ป่าไม้เขตแพร่

                    ป่าไม้จังหวัดน่าน กล่าวแนะนำแล้วก็โยนลูกไปที่ประธานในที่ประชุม

                   “ตามที่คุณมณีและคณะได้จับกุมบริษัททำไม้จังหวัดซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตให้ตัดเส้นทางชักลากไม้นั้น ผมเห็นว่าเรื่องนี้พิจารณาได้เป็นสองทาง แต่เมื่อมาถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนแล้วก็อยากจะฟังความคิดเห็นของทางบริษัททำไม้ และทางเจ้าหน้าที่ผู้ทำการจับกุม ขอเชิญคุณสม” ท่านอุกฤตผายมือไปทางนายสม ผู้จัดการบริษัททำไม้จังหวัดผู้ยิ่งใหญ่

                   “กราบเรียนท่านประธาน และคณะที่เคารพ กระผมทำไม้ป่าสัมปทานระยะยาว ในท้องที่จังหวัดน่านทั้งหมด 5 ป่า ทำมาตั้ง 16 ปี ไม่เคยมีใครจับผม ไม่เคยมีใครบอกว่าผมทำผิด  แต่พอตั้งสำนักพัฒนาป่าไม้ขึ้นมากลับมีปัญหา มีปัญหาอยู่ป่าเดียวนี่แหละครับ”

                   นายพันธ์ลุกขึ้นพูดด้วยเสียงดังอย่างอหังการเต็มพิกัด ใบหน้าแดงกร่ำ แววตาดุดันเหมือนว่าอยากจะกินเลือดกินเนื้อมณีเสียให้ได้ในนาทีนั้น  แต่นายพันธ์ยังไม่ทันนั่งลง มณีก็ยกมือแล้วลุกขึ้นพูดตอบโต้ด้วยเสียงดังไม่แพ้กัน

                    “ถ้าไม่ผิด ก็คงไม่จับ กระทำความผิดระเบียบและกฎหมายกันจนเคยตัว จึงไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น”

                     มณีพูดแรงเต็มที่เหมือนกัน แต่ยังไม่ทันจะต่อความยาวสาวความยืด ท่านอุกฤต ประธานในที่ประชุมก็ยกมือขึ้นทำทีห้ามแล้วโบกมือให้มณีนั่งลง  พร้อมกับกล่าวว่า

                    “ผมอ่านเอกสารแล้ว เรื่องนี้เถียงกันไปก็เหมือนไก่กับไข่ใครเกิดก่อนกัน”

                     ท่านอุกฤตนิ่งไปอึดใจแล้วมองผ่านหน้านายพันธุ์ แล้วก็หันกลับมามองหน้ามณี พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

                   “ผมว่าไหนๆก็จับไปแล้ว คงต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เมื่อป่าไม้เขตลงนามอนุมัติเส้นทางชักลากไม้ บริษัทก็กลับไปดำเนินการต่อไปได้เหมือนเดิม ท่านป่าไม้เขตแพร่จะลงนามได้เร็วแค่ไหน” ท่านอุกฤตถามป่าไม้เขตแพร่

                    “พรุ่งนี้เรียบร้อยครับ” ป่าไม้เขตตอบแล้วก็มองเฉียงๆผ่านหน้ามณี เหมือนไม่พอใจนัก ที่ทำให้เสียหน้ากันไปหมด ทั้งๆที่ข้อเท็จจริง เรื่องไปดองกันไว้จนเกิดเรื่อง

                    “ใครมีอะไรสงสัยอีกไหม ถ้าไม่มีอะไรอีก ผมขอไปดูเส้นทางชักลากไม้ที่เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ แล้วหวังว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามาร่วมประชุม”

                     ท่านกล่าวจบก็ลุกขึ้น แล้วเดินออกจากห้อง ทุกคนแยกย้ายกันไปตามหน้าที่ มณีกลับไปตั้งท่ารอที่สำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 เพื่อรอนำขบวนเข้าไปดูเส้นทางชักลากไม้ต่อไป

 

                   มณีรออยู่ที่ทำการสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 เพียงครู่เดียว ขบวนรถของท่านอุกฤตก็แล่นเข้ามา ป่าไม้จังหวัดลงมายืนรอรับแล้วเปิดประตูให้กับท่านรองอุกฤตและคณะตามวิสัยข้าราชการไทย  มณีเดินออกไปยกมือไหว้พร้อมคณะอีกครั้ง  ฝ่ายต้อนรับเดินแจกผ้าเย็น น้ำเย็น และกาแฟร้อนตามสั่ง

                   ท่านอุกฤตเดินเข้ามาในสำนักงานเพียงคนเดียว แล้วเรียกมณีให้มานั่งคุยด้วย สองต่อสอง ใบหน้าเคร่ง ขรึมกว่าที่เคยได้เห็น มณียังวางใบหน้าเรียบเฉย พร้อมรับสถานการณ์เต็มที่เหมือนกัน

                    “มีเรื่องต้องว่ากล่าวตักเตือน เมื่อเช้านี้ในห้องประชุม ผมให้คุณพันธ์เขาพูดเผื่อจะได้ผ่อนคลาย มณีก็ไปโต้แย้งทันควัน มันจี้จุดเดือดกันรู้ไหม ผมมาแล้วอย่างนี้ มณีต้องนิ่งฟังเท่านั้น ไม่งั้นไกล่เกลี่ยไม่ได้” ท่านอุกฤตเน้นเสียงเข้ม มองจ้องตามณีเขม็ง

                     “มันก็เหมือนผมทำผิดซิครับ”

                     มณียังเถียงอีก ท่านก็เลยเอื้อมมือมาเคาะที่หลังมือมณีเบาๆ แล้วกล่าวขึ้นด้วยเสียงที่เข้มกว่าเดิม

                     “จะว่าผิดก็ไม่ผิดหรอก แต่ครั้งนี้ มณีเสียท่าคนคนหนึ่งอีกครั้งหนึ่งแล้ว หลังจากกรณีเหมืองแร่เฮียฮง” ท่านมองหน้ามณีเหมือนเดิม แล้วพูดต่อ

                       “เมื่อเช้านี้ที่โรงแรมในเมือง คุณพันธ์เขามาเล่าให้ผมฟังว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามของมณี ชื่อชัย โทรศัพท์ไปหาเขาหลายครั้ง ข่มขู่เขาว่าจะพาหัวหน้าไปจับ หากไม่เคลียร์ “

                      มณีแย้งขึ้น

                      “พี่ชัยโทรไปข่มขู่เขาจริงๆหรือครับ”

                       มณีเสียงอ่อย นึกภาพที่พี่ชัยดีใจที่มณีตัดสินใจไปจับกุมคดีนี้ แล้วก็รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียใจอย่างบอกไม่ถูก

                      “คุณสมเขายืนยันว่า มณีไม่เกี่ยวข้องเลย เป็นชัยคนเดียวที่ก่อเหตุ แต่มณีตกเป็นเครื่องมือของชัยเสียอีกแล้ว รู้ตัวไหม” ท่านอุกฤตเน้นเสียงเข้ม

                      “นี่ขนาดว่าเขาเป็นน้องเขยคุณพันธ์นะ เขายังทำกันอย่างนี้เลย ทำงานอย่างนี้ต้องรอบคอบ คิดให้เยอะๆ จะโดนยิงตายไม่รู้ตัว เมื่อเช้าก่อนผมลงเครื่องที่พิษณุโลกพบพลตรีอินทรัตน์  อยู่ กอ.รมน.ภาค 3  ก็เลยฝากเขาว่า มณีไปจับบริษัททำไม้จำกัดเข้า ข่าวว่าจะมีการจ้างมือปืนมายิงมณี ผมก็เลยฝากเขาว่า คุณเป็นคนดี ไม่อยากให้เกิดขึ้น

                      มณีน้ำตาคลอ รู้สึกซาบซึ้งในความโอบอ้อมอารีที่ท่านมีให้ มณียกมือขึ้นไหว้ท่านรองอุกฤตอีก  ท่านลุกขึ้นยืนแล้วก็ตบไหล่มณีเบาๆ

                       “ผมจะกลับแล้วนะ ไม่ต้องไปส่ง ตั้งใจทำงานต่อไป ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ได้ความจริงแล้ว สบายใจได้”

                        แล้วท่านก็เดินลิ่วไปขึ้นรถพร้อมเคลื่อนขบวนทันที มณีได้แต่นั่งอยู่กับที่ จมอยู่ในภวังค์ จังงัง รำพึงในใจ

                       “พี่ชัยทำกูอีกแล้ว” 

                       มณีนิ่งเงียบไปอีกครู่ใหญ่ๆ ประเสริฐเดินกลับเข้ามาพร้อมสมชายและอีกหลายๆคน  พยายามที่จะเข้ามาพูดคุยด้วยว่าอยากรู้ เกิดอะไรขึ้นที่จังหวัด และเกิดอะไรขึ้นที่ท่านรองอธิบดีอุกฤตมานั่งคุยด้วยพักใหญ่ แต่มณีไม่ได้เล่าอะไรให้ใครฟัง ตอบสั้นๆเพียงว่า

                       “ท่านเป็นห่วง ก็เลยคุยซะนาน”

                       พร้อมกับหัวเราะในโชคชะตาที่ได้รู้ว่า เห็นหน้าไม่รู้ใจ คนอยู่ไกลตาแต่กลับรู้มากกว่า  หลังจากนั้นไม่นาน หนังสืออนุญาตตัดเส้นทางชักลากไม้ก็เดินทางมาถึง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการปกติ มณีเดินทางเข้าป่าไปตรวจติดตามการปราบปรามและการตีตราไม้ได้เหมือนว่า ไม่เคยเกิดคดีขึ้นเลย ลูกปืน M.16 ของเฮียเป็นหมัน

                       

         

                   

 

                    

 

 

Tags : เสือกลิ่นสาบ ตอน 24. เสือซ่อนเล็บ

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view