http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,067,473
Page Views16,379,916
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วรรณกรรมเยาวชน: กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน15. จันทร์ดวงเดียวกัน

วรรณกรรมเยาวชน: กิ่งคำปายกับยายทวด   โดยเอื้อยนาง  ตอน15. จันทร์ดวงเดียวกัน

วรรณกรรมเยาวชน

กิ่งคำปายกับยายทวด  

โดยเอื้อยนาง 

ตอน๑๕. จันทร์ดวงเดียวกัน

พระจันทร์ข้างแรมยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้ามาทอดทอแสง แต่ไฟกองเล็กที่เรียงรายอยู่หน้ากระโจมแต่ละหลังซึ่งปลูกหันหน้าเข้าหากันเป็นรูปวงกลม ให้ความสว่างเรืองไปทั่วทั้งค่าย

ภายในวงกลมเป็นลานโล่ง เด็ก ๆ วิ่งเล่นกันเกรียวกราว กลุ่มผู้หญิงนั่งชุมนุมกันอยู่รอบกองไฟหน้ากระโจม  ตกแต่งทรงผมให้กัน  และใช้ผงโอเคอร์(ochre)ดินสีแดง(ดินส้ม)ผสมไขมันจากนกอีมูคลุกเคล้าให้เป็นแป้งเปียกพอกประเทืองผิว   แป้งเปียกดินส้มนี้นอกจากมันจะทำให้ผิวสีสวยงามแล้ว มันยังช่วยสมานบาดแผลเล็กใหญ่   ที่เป็นรอยขีดข่วนจากกิ่งไม้ หรือเรียวหนาม  ในการบุกป่าฝ่าโคลนริมหนองน้ำทั้งวันที่ผ่านมา   ทั้งยังใช้มันทาเคลือบผิวป้องกันยุง แมลงต่าง ๆ และป้องกันความหนาวเย็นในยามค่ำคืนอีกด้วย  หญิงแม่ลูกอ่อนใช้แป้งที่ทำจากผงเถ้าของต้นที(tea  tree)เป็นส่วนผสมลงไปอีกคลุกเคล้าให้เข้ากัน  แล้วนำมาพอกตัวลูกน้อยของเธอ  เหมือนกิ่งคำปายที่เคยถูกยายพอกแป้งดินสอพองผสมขมิ้นให้  ก่อนอุ้มให้กินนมกล่อมนอน กลิ่นเถ้าควันและไขมันสัตว์ฟุ้งตลบไปทั้งค่ายกลางพงไพร

กลุ่มชายอาวุโส นั่งเป็นวงคุยกันรอบกองไฟหน้ากระโจมใหญ่

นี่เป็นเวลาพักผ่อนหลังกินอาหารเย็นของชาวค่าย โรบินสัน ถูกจัดให้พักในกระโจมเดียวกับตัมบูที่อยู่ห่างออกมาทางชายป่า

เด็กหนุ่มรุ่นเดียวกับตัมบูหลายคนต่างสร้างกระโจมพักของตนเอง ตั้งเป็นกลุ่มอยู่ห่างออกมาจากกระโจมรอบกองไฟอื่น ๆ  พวกเขาเหล่านี้ยังเป็นโสด ยังไม่มีพ่อ หรือญาติผู้ใหญ่ของผู้หญิงคนใดพอใจจะยกลูกสาวให้  แต่พวกเขาก็โตเกินกว่าจะพักอยู่ในกระโจมรวมกับพ่อแม่แล้ว  จึงแยกตัวออกมาสร้างกระโจมเล็กของตนเองรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม

ตัมบูยังไม่ถือว่าเป็นสมาชิกมาเคอจูลาอย่างสมบูรณ์  เพราะยังไม่ผ่านพิธีการรับเอาเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว  ยังไม่มีชื่อที่ได้รับเป็นทางการว่าเขาเป็นสมาชิกเต็มตัวแห่งเผ่าพันธุ์มาเคอจูลา   ชื่อ “ตัมบู”  นั้นเป็นชื่อที่พ่อแม่เรียกเขาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ มา  เพราะเขามักทำอะไรด้วยมือซ้าย จึงได้ชื่อนี้ที่หมายถึงมือซ้าย

แม้ว่าตัมบูจะเติบโตมากพอแล้ว เขาสูงเกือบเท่าแม่  แขนขายาวเก้งก้างและแข็งแรง  แต่เขายังไม่ประสบความสำเร็จในการใช้อาวุธประเภทแหลน  หลาว พิชิตสัตว์ใหญ่ๆ ใดๆ  หรือแม้แต่การใช้กระบองขว้างสอบเอาเหยี่ยวที่บินสูงในอากาศให้ตกลงมา  ตัมบูก็ยังทำไม่ได้  แม้สักตัวเดียว   ทั้ง ๆ มันเป็นงานง่าย ๆ ที่วีระบุรุษชาวเผ่าเขาทำเป็นกิจวัตร  

ตัมบูทำได้เพียงช่วยพวกผู้หญิง เก็บผัก ผลไม้ป่า และจับสัตว์เล็กๆ  พวกนกสวย ๆ หนู  กระรอก  กระต่าย  ไม่ก็ลงไปงมกุ้ง หอย ปู ปลาริม ๆ ขอบบึงเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น อย่างดีที่สุดที่เขาทำได้คือล่าห่านป่า หรือช่วยผู้ชายอื่น ๆ เล่นกลหลอกล่อล้อเลียนให้นกอีมูโกรธด้วยความสนุกสนานของเขาเท่านั้น  แม้กิจกรรมนี้ที่ทำให้นกอีมูจอมโมโหไล่ตามเขาจนชายหนุ่มคนอื่น ๆ คอยหวดมันได้ง่าย ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าตัมบูสมควรจะมีคู่  สามารถดูแลปกป้องลูกสาวของใครได้แต่อย่างใด

ตัมบูจึงอยู่ห่างไกลจากความหวังว่าจะมีชายใดมองเห็นเขาว่า  คู่ควรกับผู้หญิงในความคุ้มครองของตน  ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวกำลังเติมใหญ่ หรือหญิงม่ายไร้สามี แม้เขาจะมีกระโจมใหญ่กว้างสำหรับสองสามคน  และอบอุ่นนุ่มนิ่มเพราะพื้นถูกบุรองด้วยขนนกปูทับด้วยหญ้าแห้งจนนอนสบายก็ตาม

ตัมบูเองก็ไม่นึกอยากแต่งงานกับใครสักคนหรอก  แม้ว่าการมีผู้หญิงเป็นภรรยาไม่ว่าสาวหรือแก่ล้วนสร้างความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันให้ผู้ชาย  แต่ตัมบูพอใจจะอยู่อย่างเด็กผู้ชายโค่งอย่างนี้มากกว่า  เขามีมามิริเป็นคู่หูก็ดีที่สุดแล้ว  เผลอ ๆ ได้ชวนกันหลบหนีขึ้นไปบนยอดเขาแอบดูเมืองลับแลดินแดนต้องห้ามที่ทุกคนในเผ่าเกรงกลัว  กระโจมหลังเล็กจึงให้ความสุขเพียงพอสำหรับเด็กชายโค่งอย่างตัมบู

แต่วันนี้มันออกจะคับแคบไปถนัดเมื่อมีหนุ่มโย่งอย่างโรบินสันเข้ามาเบียด

 

หากไม่ติดที่กลิ่นแปลก ๆ อับ ๆ จากขนนก  และใบไม้ชื้น ๆ จนแทบสำลักแล้ว สำหรับหนุ่มโย่งโรบินสันก็ถือได้ว่า  เป็นที่พักอันอบอุ่น  และดีกว่านอนขดบนพื้นดินอยู่ข้างกองไฟใต้แสงเดือน และดาวอย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาทีเดียว

ส่วนกิ่งคำปายหลานยายสร้อยสายคำเหลนทวดคำปลิวนั้น   เธอจะต้องเบียดตัวในกระโจมใหญ่หลังเดียวกับแม่เฒ่านาไบ  และเด็กผู้หญิงอีกหลายคน  รวมทั้งมามิริด้วย วอมแบตเฒ่ากับนางจิงโจ้โมบายได้รับอนุญาตให้อยู่ด้วยได้  ซึ่งก็ไม่แปลกสำหรับชาวค่ายเผ่ามาเคอจูลาแต่อย่างใด   เพราะเด็กหรือคนแก่บางคนมีสัตว์เลี้ยง เช่น  หมาดิงโก้นอนเป็นเพื่อนในกระโจมอยู่แล้ว

ดึกแล้ว พระจันทร์ดวงเว้าเดินเฉียงขอบฟ้าเหนือภูเขาด้านตะวันตกเฉียงเหนือ  ทันใดนั้นฟ้าที่เคยโปร่งพลันกลับมืดลง   ดวงดาวที่กะพริบพราวรอบพระจันทร์ดวงเว้า  ซึ่งเดินเฉียงใกล้จะลับขอบฟ้าพลันเลือนหาย  มีเสียงฟ้าร้องเปรี้ยงปร้าง  พร้อมกับแสงแวบวาบเป็นระยะ  เสียงลมพัดอื้ออึงตามมา

เฒ่านาไบลุกไปเติมฟืนที่กองไฟ  ประสบการณ์ที่ได้จากการไม่รักษากองไฟดังเมื่อคืนก่อน ๆ ทำให้ต้องจรไปนอนในที่ลับใต้โพรงไม้ทำให้แม่เฒ่าหวาดผวา  ว่าต้องดูแลระวังรักษาไฟมากขึ้น  ผู้หญิงและเด็ก ๆ  ลุกมาออกันอยู่เป็นกลุ่มเงี่ยหูฟังเสียงฟ้า เสียงลม

ท่ามกลางเสียงลมที่พัดอู้  ก็มีเสียงเพลงดังขึ้นมาเสียดแทรก   ด้วยมีผู้ชายบางคนเริ่มต้นร้องเพลงเสียงโหยหวนทวนเสียงลม    เรียกให้หลายคนกระโดดขึ้นราวกับถูกจี้  ต่างเริ่มต้นทำกิจกรรมบางอย่าง  อย่างรวดเร็ว  บ้างตกแต่งทรงผมด้วยขนนก   บ้างใช้ผงถ่าน  และผงดินส้ม ผสมน้ำมันวาดหน้า  ระบายสีตามตัวจนลายพร้อย แล้วใช้กิ่งไม้ ใบไม้ถูกผูกติกันเป็นพวงนำมามัดรอบเอว และแขนขา วาดท่ากระโดดโลดเต้นออกไปรอบวงกลมของกองไฟ  หญิงสาวกลุ่มหนึ่งนำกลองที่ทำจากหนังจิงโจ้ออกมาตี และร้องเพลง เด็ก ๆ กลับเข้ากระโจม นอนฟัง  กิ่งคำปายลุกขึ้นนั่งกอดยายทวดในร่างวอมแบตแน่น มีเพื่อนแม่ลูกอ่อนในร่างนางจิงโจ้เบียดชิดกันอยู่ในกระโจม

เปลวไฟลุกโพลงพุ่งสูงสู่ฟ้า ส่งบทเพลงที่สวดร้องเป็นทำนองเว้าวอนให้ล่องลอยอ้อยอิ่งไปกับความอบอุ่น และกรุ่นกลิ่นควันไฟ

เป็นบทเพลงบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่บรรพกาล (dream time ) สืบทอดนานมาถึงรุ่นลูกหลาน ตั้งแต่ปฐมกาลก่อกำเนิดจักรวาล ยุคแห่งการสร้างสรรค์สิ่งทั้งปวง เทพผู้สร้างนั้นสถิตอยู่บนแดนฟ้า เป็นผู้ดลบันดาล ก่อกำเนิดผืนแผ่นดิน ภูผา ป่าไม้ ทะเลสาบ แม่น้ำ และสิ่งมีชีวิตทั้งปวง ตลอดจนมนุษย์และเทพผู้รังสรรค์สิ่งนั้น ๆ  ท่านก็เฝ้ามองลงมาดูอยู่ทุกคืนวัน

มองดู และให้ความคุ้มครองตลอดมา และนำพาพวกชาวเผ่าให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุเภทภัยมาหลายยุคหลายสมัย   รอดมาได้แม้ในยุคแห่งคนประหลาด  คนผู้เหมือนปีศาจและภูตผีผู้มากับเรือจากทะเล  มาแย่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละเผ่า  เข้าทำร้ายชายหญิงและเด็ก ๆ ขับไล่ออกจากแผ่นดินเดิมที่เคยอยู่ร่มเย็น  ผู้คนหลายเผ่าถูกทำร้ายกลบกลืนเสื่อมสูญ

แต่มาเคอจูลามีเทพบนฟ้าช่วยคุ้มครองป้องกันจึงรอดพ้นอยู่ได้

แต่เล่ากันว่าภูตผี  วิญญาณร้ายเหล่านั้นมันยังคงสิงอยู่ในดินแดนแห่งความตาย....

ดินแดนอันตราย ดินแดนต้องห้าม เป็นเมืองลับแล  ที่ตั้งอยู่ ณ ฟากฟ้าเหนือภูเขา...

“ออกไปดูข้างนอกกันเถอะ”

กิ่งคำปายกระซิบบอกจิงโจ้โมบาย  ซึ่งฝ่ายนั้นก็ไม่ขัด  แม้จะเป็นเพียงวิญญาณแต่ความเป็นเพื่อนรักกัน  เข้าใจกันยังคงอยู่  นางจิงโจ้เรียกลูกน้อยมาเข้าในกระเป๋าหน้าท้องแล้วตามกิ่งคำปายกับยายทวดออกนอกกระโจม

“นังเหลน เจ้ามองหาแสงสีรุ้งอย่างเมื่อคืนที่รอบกองไฟใหญ่ซิว่ามีไหม ข้ามองไม่เห็น”

เสียงยายทวดกระซิบออกมาจากร่างวอมแบตที่แอบอิงอยู่  ขณะกิ่งคำปายนั่งรวมกลุ่มอยู่กับคนอื่น ๆ เฝ้าดูการเต้นรำหน้ากระโจมที่พัก

“ฮึ....ฟังเรียกเข้าสิ ช่างใกล้เคียงกับจิ้งเหลน ตัวกูอาน่าที่เขาจับมาย่างกินซะเหลือเกินละ” เหลนสาวกระซิบตอบเสียงงอน ๆ  แต่ก็ส่งสายตาไปเพ่งมองจ้องดูสิ่งที่ทวดต้องการ

 “ไม่มีหรอก หนูมองไม่เห็น หรือว่าเป็นเพราะครั้งนี้ไม่ใช่พิธีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา ดูจากลักษณะการเต้น  และฟังจากจังหวะดนตรี  และเสียงเพลงแล้ว พิธีการคืนนี้คงไม่ใช่พิธีกรรมใหญ่โตอะไรเหมือนเมื่อคืนที่ผ่านมาหรอก การเต้นรำร้องเพลงคืนนี้เป็นการขอบคุณเทพบนฟ้าที่ให้อาหารการกินอิ่มหนำสำราญมากกว่า  แสงพลังประหลาดอย่างที่เราเห็นจึงไม่ปรากฏ หรืออาจบางทีมันยังไม่ถึงเวลา อาจต้องคอยถึงค่อนคืนกระมัง”

ว่าแล้วก็อ้าปากหาว จิงโจ้โมบายนั้นกอดลูกน้อยนอนหลับไปแล้ว

“เลยยังไม่รู้ว่าอิ่นอ้อยจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า แต่ข้าได้กลิ่นคุ้นชินอย่างยิ่งมันคงอยู่ไม่ไกลหรอก อาจมีอะไรบางอย่างห่อหุ้มปิดบังมันไว้”

จุดประสงค์ในการมาออสเตรเลียของยายทวด กับตนเองผู้เป็นเหลนสาวแตกต่างกันอยู่แล้ว  กิ่งคำปายจึงไม่มีวี่แววทุกข์ร้อนนักกับสิ่งที่ยายทวดพูดถึง เธอมาที่นี่เพราะแม่อยากให้หนีไปไกลห่างจากกลุ่มเพื่อนชาวแก๊งมอเตอร์ไซคทั้งหลายนั่นหรอก  หาใช่มาเสาะหาอิ่นอ้อยอย่างเจ้านางคำปลิวผู้เป็นทวดไม่

๐๐๐๐๐๐๐   

 “เอื้อยนาง”

ยังมีต่อ

 

 

 

 

 

Tags : กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน15. จันทร์ดวงเดียวกัน

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view